ด้วยตลาดขนาดใหญ่ พร้อมความต้องการหลากหลายระดับ ทำให้แวดวงธุรกิจรถยนต์มือสองเมืองไทยยังมีความคึกคักต่อเนื่อง ในแง่ของผู้ประกอบก็จำเป็นต้องปรับตัวตามสถาการณ์ และสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน พร้อมรับมือกับการแข่งขันอันดุเดือด
“เบนซ์ เอ็น.เค.” ภายใต้การนำของ “ก่อเกียรติ กฤษดาธานนท์” ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจรถยนต์มือสองมานานกว่า 20 ปี ปัจจุบันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกชาย “พิตินันทน์ กฤษดาธานนท์” เข้ามาบริหารและดูแลด้านการตลาดอย่างเต็มที่ โดยถือตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ขณะเดียวกันยังขยายไลน์ธุรกิจสู่การนำเข้ารถใหม่ป้ายแดง เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าอีกด้วย...ก้าวใหม่ของ“เบนซ์ เอ็น.เค.” รวมถึงธุรกิจซื้อ-ขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ มือสองระดับพรี่เมี่ยม มีทิศทางอย่างไร “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” สัมภาษณ์ พิตินันทน์ กฤษดาธานนท์
พูดถึง“เบนซ์ เอ็น.เค.”ผันตัวเป็นผู้นำเข้าอิสระ
“เบนซ์ เอ็น.เค.” ต้องการวางตำแหน่งและสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้ว่าเราทำธุรกิจรถ“เมอร์เซเดส-เบนซ์” ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายรถเก่า-รถใหม่ คนต้องคิดถึงเรา หรือมาหาเราที่เดียวจบ
“ธุรกิจนำเข้าและขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ป้ายแดง เริ่มทำจริงจังเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเพราะโอกาสจากค่าเงินบาทแข็ง บวกกับ อี-คลาสใหม่ (W212) ได้รับความนิยมจากตลาดเป็นอย่างสูง เราจึงตัดสินใจลงมาเล่นในธุรกิจนี้ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการขยายไลน์ธุรกิจให้มีครบทุกความต้องการลูกค้า อย่างปีที่แล้วปิดยอดขายได้กว่า 200 คัน”
แผนธุรกิจรถใหม่ปีนี้
ในส่วนของธุรกิจรถใหม่ เราเน้นขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เกือบ100% แต่รถยี่ห้ออื่นๆก็จัดหาให้ลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น ออดี้ เอ1, มินิ, โฟล์คสวาเกน บีทเทิล ใหม่, ซึ่งเรามีจุดเด่นคือ สต็อกรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไว้เยอะกว่า 40 คัน ลูกค้าจึงเลือกรุ่น เลือกสี และออปชันที่ต้องการ พร้อมรับรถได้ทันทีไม่ต้องรอ
“เราตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ 400 คัน โดยตัวขายหลักจะเป็น “อี-คลาส” ตัวถังซีดาน คูเป้ คาบริโอเลต และช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีการนำเข้ารุ่น CLS ใหม่ สนนราคาไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท จากนั้นปลายปีน่าจะมี SLK ใหม่มาเสริมอีกรุ่น”
นโยบายด้านราคา
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถรุ่นอะไร แต่รวมๆแล้วราคาขายอาจถูกกว่าหรือพอๆกับการทำตลาดของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แต่ลูกค้าของเราจะได้รับรถเร็ว พร้อมออปชันที่มากกว่า ส่วนการรับประกันก็มี Worldwide Warranty ที่สามารถนำรถเข้าไปรับการดูแลที่โชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐานจากผู้แทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ลูกค้าจึงมั่นใจได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถใหม่ป้ายแดง เรายังมีแคมเปญ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นคือ ผ่อน0% นาน 4 ปี แถมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี
แผนธุกิจรถเบนซ์มือสอง
ที่ผ่านมา “เบนซ์ เอ็น.เค.” คัดเฉพาะรถคุณภาพดี หรือระดับพรีเมี่ยม ส่วนปีนี้ยังคงแนวทางเดิมแต่จะเน้นเรื่อง การเป็นรถปีใหม่ๆ เลขไมล์น้อย หรือไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร เรียกว่าจากนี้ไปเมอร์เซเดส-เบนซ์ เกือบทุกคันที่เข้ามาซื้อ-ขายกับเราต้องวิ่งไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร เท่านั้น
สภาพตลาดและการแข่งขันปีนี้
ปีที่แล้วรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มือสอง มีการปรับราคาไปสองรอบ ทำให้ปีนี้ราคานิ่ง พร้อมราคาลดลงมาเยอะ คาดว่าลูกค้าจะมีความสนใจมากขึ้น โดย“เบนซ์ เอ็น.เค.”ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 คัน ใกล้เคียงกับปี 2553
แผนการตลาดเบนซ์มือสอง
เราเตรียมงบการตลาดไว้ 10-15 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสิงพิมพ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเข้าถึงตัวลูกค้าโดยตรงอีกหลายครั้งตลอดปี
“ปีนี้เราจะมีอีเวนท์ใหญ่ 3 งาน คือ ช่วงเดือนเมษายน ชนงานบางกอกมอเตอร์โชว์ จากนั้นกลางปีจะเข้างานบางกอก ยูสคาร์ ที่อิมแพค เมืองทองธานี และปิดท้ายปลายปีชนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป นอกจากนี้ยังมีงานย่อยๆอีก 6-7 ครั้ง ที่จะออกตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือหมู่บ้านใหญ่ๆ พร้อมจับมือกับพันธมิตรการค้า ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น”
แผนบริการการขาย-หลังการขาย
เราคงไม่ขยายสาขาเพิ่มเติม แต่เตรียมปรับปรุงสำนักงานปัจจุบัน(ถนนกาญจนาภิเษก) ให้ทันสมัย โดยจะทำเป็นโชว์รูมติดเครื่องปรับอากาศทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้
“เบนซ์ เอ็น.เค.” ภายใต้การนำของ “ก่อเกียรติ กฤษดาธานนท์” ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจรถยนต์มือสองมานานกว่า 20 ปี ปัจจุบันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกชาย “พิตินันทน์ กฤษดาธานนท์” เข้ามาบริหารและดูแลด้านการตลาดอย่างเต็มที่ โดยถือตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ขณะเดียวกันยังขยายไลน์ธุรกิจสู่การนำเข้ารถใหม่ป้ายแดง เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าอีกด้วย...ก้าวใหม่ของ“เบนซ์ เอ็น.เค.” รวมถึงธุรกิจซื้อ-ขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ มือสองระดับพรี่เมี่ยม มีทิศทางอย่างไร “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” สัมภาษณ์ พิตินันทน์ กฤษดาธานนท์
พูดถึง“เบนซ์ เอ็น.เค.”ผันตัวเป็นผู้นำเข้าอิสระ
“เบนซ์ เอ็น.เค.” ต้องการวางตำแหน่งและสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้ว่าเราทำธุรกิจรถ“เมอร์เซเดส-เบนซ์” ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายรถเก่า-รถใหม่ คนต้องคิดถึงเรา หรือมาหาเราที่เดียวจบ
“ธุรกิจนำเข้าและขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ป้ายแดง เริ่มทำจริงจังเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเพราะโอกาสจากค่าเงินบาทแข็ง บวกกับ อี-คลาสใหม่ (W212) ได้รับความนิยมจากตลาดเป็นอย่างสูง เราจึงตัดสินใจลงมาเล่นในธุรกิจนี้ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการขยายไลน์ธุรกิจให้มีครบทุกความต้องการลูกค้า อย่างปีที่แล้วปิดยอดขายได้กว่า 200 คัน”
แผนธุรกิจรถใหม่ปีนี้
ในส่วนของธุรกิจรถใหม่ เราเน้นขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เกือบ100% แต่รถยี่ห้ออื่นๆก็จัดหาให้ลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น ออดี้ เอ1, มินิ, โฟล์คสวาเกน บีทเทิล ใหม่, ซึ่งเรามีจุดเด่นคือ สต็อกรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไว้เยอะกว่า 40 คัน ลูกค้าจึงเลือกรุ่น เลือกสี และออปชันที่ต้องการ พร้อมรับรถได้ทันทีไม่ต้องรอ
“เราตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ 400 คัน โดยตัวขายหลักจะเป็น “อี-คลาส” ตัวถังซีดาน คูเป้ คาบริโอเลต และช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีการนำเข้ารุ่น CLS ใหม่ สนนราคาไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท จากนั้นปลายปีน่าจะมี SLK ใหม่มาเสริมอีกรุ่น”
นโยบายด้านราคา
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถรุ่นอะไร แต่รวมๆแล้วราคาขายอาจถูกกว่าหรือพอๆกับการทำตลาดของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แต่ลูกค้าของเราจะได้รับรถเร็ว พร้อมออปชันที่มากกว่า ส่วนการรับประกันก็มี Worldwide Warranty ที่สามารถนำรถเข้าไปรับการดูแลที่โชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐานจากผู้แทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ลูกค้าจึงมั่นใจได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถใหม่ป้ายแดง เรายังมีแคมเปญ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นคือ ผ่อน0% นาน 4 ปี แถมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี
แผนธุกิจรถเบนซ์มือสอง
ที่ผ่านมา “เบนซ์ เอ็น.เค.” คัดเฉพาะรถคุณภาพดี หรือระดับพรีเมี่ยม ส่วนปีนี้ยังคงแนวทางเดิมแต่จะเน้นเรื่อง การเป็นรถปีใหม่ๆ เลขไมล์น้อย หรือไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร เรียกว่าจากนี้ไปเมอร์เซเดส-เบนซ์ เกือบทุกคันที่เข้ามาซื้อ-ขายกับเราต้องวิ่งไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร เท่านั้น
สภาพตลาดและการแข่งขันปีนี้
ปีที่แล้วรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มือสอง มีการปรับราคาไปสองรอบ ทำให้ปีนี้ราคานิ่ง พร้อมราคาลดลงมาเยอะ คาดว่าลูกค้าจะมีความสนใจมากขึ้น โดย“เบนซ์ เอ็น.เค.”ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 คัน ใกล้เคียงกับปี 2553
แผนการตลาดเบนซ์มือสอง
เราเตรียมงบการตลาดไว้ 10-15 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสิงพิมพ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเข้าถึงตัวลูกค้าโดยตรงอีกหลายครั้งตลอดปี
“ปีนี้เราจะมีอีเวนท์ใหญ่ 3 งาน คือ ช่วงเดือนเมษายน ชนงานบางกอกมอเตอร์โชว์ จากนั้นกลางปีจะเข้างานบางกอก ยูสคาร์ ที่อิมแพค เมืองทองธานี และปิดท้ายปลายปีชนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป นอกจากนี้ยังมีงานย่อยๆอีก 6-7 ครั้ง ที่จะออกตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือหมู่บ้านใหญ่ๆ พร้อมจับมือกับพันธมิตรการค้า ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น”
แผนบริการการขาย-หลังการขาย
เราคงไม่ขยายสาขาเพิ่มเติม แต่เตรียมปรับปรุงสำนักงานปัจจุบัน(ถนนกาญจนาภิเษก) ให้ทันสมัย โดยจะทำเป็นโชว์รูมติดเครื่องปรับอากาศทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้