งานนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ครั้งสุดท้ายให้กับดีเฟนเดอร์หรือไม่ เพราะอายุอานามของตัวลุยรุ่นนี้ถือว่าแก่เอาเรื่อง เพราะถ้าจะนับย้อนกลับไปจริงๆ ตัวรถถูกเปิดตัวออกมาในปี 1983 โน่นเพื่อเข้ามาทำตลาดแทนที่แลนด์โรเวอร์ ซีรีส์
ในตอนนั้นยังไม่มีการใช้ชื่อ ดีเฟนเดอร์ แต่แลนด์โรเวอร์ส่งทำตลาดโดยใช้ระยะฐานล้อเป็นชื่อรุ่น ซึ่งก็คือ 90 ไนน์ตี้ สำหรับรุ่น 3 ประตูฐานล้อสั้น 90 นิ้ว หรือ 2,280 มิลลิเมตร และรุ่น 110 หรือวันเท็นสำหรับรุ่นฐานล้อยาวแบบ 5 ประตู 110 นิ้ว หรือ 2,794 มิลลิเมตร
จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปี 1990 ซึ่งแลนด์โรเวอร์มีการปรับไลน์อัพในการทำตลาดด้วยการเพิ่มทางเลือกอย่างดิสคัฟเวอรี่เข้ามา ก็เลยจัดการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ชื่อดีเฟนเดอร์ในการทำตลาดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยที่โครงสร้างตัวถังของตัวรถยังเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่รายละเอียดรูปลักษณ์ภายนอก และแผงหน้าปัด รวมถึงเครื่องยนต์ให้มีความสดใหม่สอดรับกับความต้องการของตลาด และมาตรฐานด้านมลพิษมที่มีความเข้มงวดขึ้น
อย่างที่บอกเอาไว้ข่างต้นว่า LE รุ่นนี้อาจจะเป็นเวอร์ชันสุดท้ายของดีเฟนเดอร์ในการทำตลาดก็ได้ เพราะว่าจากการเปิดเผยล่าสุดคือ ทางแลนด์โรเวอร์กำลังซุ่มพัฒนาตัวแทนของดีเฟนเดอร์ภายใต้ชื่อโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า Icon และตั้งเป้าเปิดตัวในปี 2012 หรือปีหน้านี้แล้ว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว เพราะถ้านับรวมตั้งแต่รุ่นดั้งเดิม อายุอานามของเอสยูวีรุ่นนี้ก็ซัดเข้าไป 28 ปีเข้าให้แล้ว
กลับมาที่เวอร์ชันพิเศษอย่าง X-Tech กันต่อ ความพิเศษและความแตกต่างของเวอร์ชันนี้เห็นจะเป็นการเพิ่มความสวยและความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในให้มีความสวยสะดุดตาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวถังที่มากับโทนสีที่เรียกว่า Zermatt Silver ตัดกับสีดำโทน Santorini Black ซึ่งถูกนำมาใช้ในการพ่นหลังคาและซุ้มล้อ ส่วนล้อแม็กขนาด 16 นิ้วสีดำ
ตัวถังที่ทำตลาดก็มีทั้ง 3 และ 5 ประตู แต่ที่พิเศษกว่าเพื่อนคือในรุ่น 3 ประตูนอกจากตัวถังแบบธรรมดาแล้ว ยังมีรุ่น Commercial ขายอีกด้วย โดยความต่างของรุ่นนี้อยู่ที่แผ่นกระจกบนตัวถังด้านข้าง ซึ่งอยู่ที่ตัวถังด้านท้าย ถ้าเป็นรุ่น Commercial จะไม่มีการเจาะช่องนี้เพื่อติดกระจกแต่จะเป็นตัวถังทึบ เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระ เพราะเมื่อต้องบรรทุกสัมภาระเพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้ว สัมภาระเหล่านี้อาจจะกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกระจกจนทำให้เกิดความเสียหายได้
แน่นอนว่าของอย่างนี้ไม่ได้สดใหม่แค่ภายนอกเท่านั้น ภายในก็มีการปรับแต่งเพิ่มความสปอร์ตทั้งในส่วนของแผงหน้าปัด และแผงมาตรวัด ขณะที่เบาะนั่งมีการปั๊มโลโก้แลนด์โรเวอร์ไว้บนหมอนรองศีรษะในทุกที่นั่ง โดยที่รุ่น 90 มากับเบาะนั่งแบบ 2 แถว ส่วนรุ่น 110 เป็นแบบ 3 แถวที่สามารถเลือกพับเก็บได้
ใครที่เรื่องมากเกี่ยวกับเครื่องยนต์ อาจจะต้องทำใจเมื่อคิดจะขับดีเฟนเดอร์ เพราะเครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีแต่บล็อกเทอร์โบดีเซล โดยในเวอร์ชันนี้มีขายแบบเดียวเป็นบล็อก 4 สูบที่มีความจุ 2,400 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 36.7 กก.-ม. ตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่ทั้งการใช้งานออนโรดและออฟโรด
สำหรับค่าตัวของเวอร์ชัน X-Tech จะอยู่ที่ 24,995 ปอนด์ หรือ 1.24 ล้านบาท และจะเริ่มขายในอังกฤษตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป