2011 คือ ปีสำคัญของจากัวร์ ไม่ใช่ปีที่ครบวาระของการก่อตั้งบริษัท แต่เป็นปีที่ครบรอบครึ่งศตวรรษที่จากัวร์ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับรถสปอร์ตที่สวยและทรงเสน่ห์ที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโลก
ใช่แล้ว...อี-ไทป์
อี-ไทป์ถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1961 และถูกทำตลาดจนถึงปี 1975 หรือรวมแล้ว 14 ปีเลยทีเดียว โดยในตลาดทั่วโลกอาจจะรู้จักกันในชื่ออี-ไทป์ แต่สำหรับสหรัฐอเมริกา ถ้าถามพวกเขา คงส่ายหัวไม่รู้จัก เพราะคนที่นั่นรู้จักอี-ไทป์ในอีกชื่อ ซึ่งก็คือ เอ็กซ์เค-อี
อาจจะบอกว่าเกินไปหน่อยไหมที่บอกว่าอี-ไทป์ คือรถสปอร์ตที่ทรงเสน่ห์แห่งยุค ซึ่งบางคนอาจจะดูแล้วไม่ชอบ แต่สำหรับบางคนเส้นโค้งเว้าและรูปทรงที่ออกแนวอ้อนแอ้นของตัวรถคือ สิ่งที่ทำให้พวกเขาหลงใหล และในเดือนมีนาคม 2008 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Daily Telegraph จัดให้อี-ไทป์เป็นติดอยู่ใน 100 รถยนต์ที่สวยที่สุดในโลก หรือ 100 Most Beautiful Cars
ขณะที่ก่อนหน้านั้นในปี 2004 นิตยสาร Sport Car International ยกย่องให้อี-ไทป์เป็นหนึ่งในบรรดารถสปอร์ตชั้นเยี่ยมแห่งยุค 1960 เลยทีเดียว หรือแม้แต่เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ ผู้ก่อตั้งเฟอร์รารี่ก็ยังเอ่ยปากชมว่า ‘เป็นรถสปอร์ตที่สวยที่สุดในโลก’
และที่สำคัญ หนึ่งในบรรดาสิ่งของที่โชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ Modern Art ของนิวยอร์ก มีอี-ไทป์รวมอยู่ด้วย เพราะนี่คือไอคอนของยุค 1960 เช่นเดียวกับบรรดาคนดังในยุคนั้นอย่างจอร์จ เบสต์ (ศูนย์หน้าทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), บริตเจ็ต บาร์โดต์ (นักแสดงสุดเซ็กซี่), โทนี่ เคอร์ติส และสตีฟ แม็คควีน (นักแสดงชาวอเมริกัน) รวมถึงสิ่งที่เรียกว่าเห็นปุ๊บแล้วรู้ปั๊บว่าเป็นยุค 1960 หรือ Swinging Sixties เช่น มินิสเกิร์ต และวง The Beatles
เอียน คัลลั่ม นักออกแบบของจากัวร์ในยุคปัจจุบันกล่าวว่า อี-ไทป์เป็นรถสปอร์ตที่สร้างแรงบันดาลใจและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างเมื่อถูกเปิดตัวออกมาในปี 1961 เพราะเหมือนกับเป็นการเปิดผนึกทางด้านความคิด และทำให้งานออกแบบรถยนต์เกิดการปฏิวัติขึ้นมา และอี-ไทป์ในตอนนั้นคือ งานที่ล้ำสมัย และกลายเป็นแม่แบบและแรงบันดาลใจที่นักออกแบบยุคปัจจุบันของจากัวร์ยังนำมาใช้ในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ
เจนีวา มอเตอร์โชว์ คือ จุดเริ่มต้นของการอวดโฉม และในปีนี้ที่ Palexpo สถานที่จัดแสดงงาน ทางจากัวร์ก็จะฉลองครบรอบ 50 ปีให้กับอี-ไทป์ ซึ่งความจริงแล้ว อี-ไทป์ดั้งเดิมถูกจัดขึ้นที่ภัตตาคาร Restaurant du Parc des Eaux Vives เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1961 และที่น่าตื่นตาตื่นใจคือ เซอร์วิลเลี่ยม ลียองส์ และนอร์แมน เดวิส หัวหน้าทีมทดสอบลงทุนขับรถกันข้ามวันข้ามคืนจากเมืองโคเวนตรี้ ประเทศอังกฤษมาที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์กันเลยทีเดียว
อี-ไทป์รุ่นแรกมากับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงที่นำพาจากัวร์คว้าแชมป์เลอมังส์ถึง 5 ครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยเป็นขุมพลังที่มีความจุ 3,800 ซีซี รีดกำลังออกมาได้ 265 แรงม้า และ 35.9 กก.-ม. สามารถแล่นทำความเร็วสูงสุดได้ 241 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยมีราคาในสมัยนั้นเพียง 2,256 ปอนด์ 15 ชิลลิ่งเท่านั้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้ว ค่าตัวของอี-ไทป์จะอยู่ในราวๆ 38,000 ปอนด์ หรือ 1.9 ล้านบาท จากนั้นก็มีรุ่นเครื่องยนต์ 4,200 ซีซีตามออกมาเป็นอีกทางเลือกในปี 1964
งานสร้างสรรค์และออกแบบตัวถังของอี-ไทป์เป็นฝีมือของวิศวกรทางด้านการออกแบบเครื่องบินอย่างมัลคอล์ม เซเยอร์ ซึ่งนำความรู้ของเขามาประยุกต์เข้ากับรถแข่งเลอมังส์ในยุคแรกของจากัวร์อย่างซี และดี-ไทป์ โดยตลอดอายุการทำตลาด 14 ปีมีการผลิตออกมา 3 ตัวถัง คือ คูเป้ 2 ที่นั่ง, คูเป้ 2+2 ที่นั่ง และเปิดประทุน ขณะที่รูปโฉมที่ทำตลาดมีทั้งหมด 3 เวอร์ชัน คือ Series I (1961-1968) ตามด้วยซีรีส์ 2 (1969-1971) และซีรีส์ 3 (1971-1975)
อี-ไทป์มียอดขายตลอดอายุการทำตลาดรวมแล้วมากกว่า 70,000 คัน และนั่นทำให้สปอร์ตรุ่นนี้กลายเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของยุโรปที่ถูกผลิตออกขายในเชิงพาณิชย์