อยากแจ้งเกิดต้องลงทุน...ดูเหมือนน่าจะเป็นคำที่ชัดเจนที่สุดสำหรับโฟล์คสวาเกนในการรุกตลาดสหรัฐอเมริกา เพราะในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต่างรัดเข็มขัดเพื่อควบคุมต้นทุนการพัฒนารถยนต์ภายใต้แนวคิด ผลิตมาแบบเดียว และขายได้หลายแห่งทั่วโลก แต่สำหรับโฟล์คสวาเกนกลับสวนทางออกไป และพัสสาทใหม่ที่เห็นอยู่นี้คือตัวอย่างที่ดี
ตามปกติแล้ว เราจะไม่ค่อยเห็นเรื่องอย่างนี้กับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น แต่สำหรับตรงนี้คงเป็นข้อยกเว้น เพราะว่าโฟล์คสวาเกนต้องการแจ้งเกิดตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มตัว และกล้าที่จะลงทุนในการพัฒนา และผลิตพัสสาทใหม่ให้มีรูปลักษณ์ และหน้าตาที่แตกต่างจากพัสสาทที่มีขายอยู่ในตลาดโลก เพื่อรองรับกับความต้องการของของลูกค้าภูมิภาคอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ อีกทั้งจะมีการตั้งไลน์ผลิตที่โรงงานเมือง Chattanooga มลรัฐเทนเนสซี่
พัสสาทใหม่เป็นเวอร์ชัน US ที่มีความแตกต่างในด้านรายละเอียดรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายจากพัสสาทรุ่นปัจจุบันที่ขายอยู่ตลาดยุโรป ซึ่งเพิ่งจะบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปลายปี 2010 และการที่โฟล์คฯ ลงทุนครั้งนี้ แสดงให้เห็นการเอาจริงเอาจังในการสร้างยอดขายและแชร์ส่วนแบ่งตลาดเมืองลุงแซมเพื่อปูทางไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลกให้ได้ภายในปี 2018
ดูจากภาพรวมของตัวรถแล้วจะพบกับความแตกต่างจากเวอร์ชันปกติที่ขายในตลาดโลกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ของรูปลักษณ์ด้านหน้า เสาหลัง หรือ เสา C ที่มาพร้อมกับช่องกระจกโอเปร่า ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอก อิงสไตล์การออกแบบมาจาก Design DNA ของ NCC หรือ New Coupe Concept ซึ่งถูกต่อยอดมาเป็นรุ่นขายจริงของเจ็ตต้าเมื่อปลายปีที่แล้ว และได้รับการสร้างสรรค์โดยทางวอลเตอร์ เดอ ซิลวา หัวหน้าศูนย์ออกแบบของโฟล์คสวาเกน
ด้านมิติตัวถังมาพร้อมกับความยาวในระดับเดียวกับรถยนต์กลุ่มครอบครัว หรือ D-Segment กับตัวถังที่มีความยาว 4,686 มิลลิเมตร กว้าง 1,833 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อขนาด 2,803 มิลลิเมตร ซึ่งทุกมิติถูกขยายขนาดจากพัสสาท เวอร์ชันตลาดโลก 99, 13 และ 91 มิลลิเมตร ตามลำดับ เพื่อรองรับกับความต้องการที่เน้นความกว้างขวางทั้งภายในและภายนอกของลูกค้ากลุ่มนี้
ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่ทำตลาดจะมีหลากหลายทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล เริ่มจากรุ่น 5 สูบ 2,500 ซีซี 170 แรงม้าสำหรับเบนซิน และ VR6 3,600 ซีซี ที่มีกำลังถึง 280 แรงม้าในรุ่นสูงสุด ส่วนเทอร์โบดีเซลเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ TDI 140 แรงม้าที่มีความจุอยู่ที่ 2,000 ซีซี และมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงระดับ 17.4 กิโลเมตร/ลิตร โดยรุ่น VR6 ตอบสนองอย่างรวดเร็วและทันใจ เมื่อส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ DSG หรือ Dual-Clutch สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ใน 6.5 วินาที
สำหรับพัสสาทกับตลาดสหรัฐอเมริกาตรงนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะว่าโฟล์คฯ ส่งรถยนต์สายพันธุ์นี้ทำตลาดเมื่อปี 1987 และ 23 ปีที่ชื่อนี้อยู่ในตลาด สามารถกวาดยอดขายไปได้มากกว่า 700,000 คันเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา โดยทางโฟล์คฯ ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จากการเปิดตัวของเจนเนอเรชันใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ พวกเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะใช้เวลาเพียง 7 ปีในการทำยอดขายรวมสะสมให้ได้ 1 ล้านคัน โดยจุดเด่นของพัสสาทใหม่ นอกจากจะอยู่ที่หน้าตาที่ดูสวยและโฉบเฉี่ยว อีกประการคือ ราคาที่ไม่แพง เพราะรุ่นต่ำสุดตั้งเอาไว้ที่ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 600,000 บาทเท่านั้น
ก็ต้องดูต่อไปว่าโฟล์คจะสามารถทำได้ตามที่หวังหรือไม่