ข่าวต่างประเทศ - หลังจากสภาพตลาดหดตัวอย่างหนักในปี 2009 จนต้องเสียบัลลังก์ผู้นำด้านยอดขายของตลาดรถยนต์โลกไปให้กับจีน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สหรัฐอเมริกาจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว และบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่าปี 2011 ยอดขายรถยนต์นั่งและปิกอัพเมืองลุงแซมจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดหมายว่าเมื่อสิ้นสุดปีนี้ ตัวเลขยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2010 ถึง 11.3%
NADA หรือ National Automobile Dealer Association เปิดเผยว่า จากสัญญาณที่เกิดขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาทั้งเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ และการกู้ยืมเงินที่ค่อนข้างง่าย และสะดวก ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาปี 2011 มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2010 และเชื่อว่าตัวเลขปี 2011 น่าจะอยู่ระดับ 12.9 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2010 ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 11.6 ล้านคันถึง 11.3%
และถ้าการทำนายของ NADA แม่นยำและถูกต้อง ยอดขายรถยนต์นั่งและปิกอัพในปี 2011 จะเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับจากปี 2008 เลยทีเดียว ซึ่งในปีนั้น ตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกามีตัวเลขอยู่ที่ 13.2 ล้านคัน ก่อนที่จะหล่นวูบในปีต่อมา
NADA เปิดเผยว่าอีกปัจจัยที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นและลดลงในตลาดสหรัฐอเมริกา คือ ธุรกิจการขยายรถยนต์แบบยกล็อต หรือ Fleet โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจการขายลักษณะนี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและฟื้นตัวจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนอีกข้อคือ แนวคิดที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์หรือปิกอัพเกิน 10 ปี แต่สำหรับตอนนี้ ส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนแนวคิด และเริ่มมีการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่เร็วขึ้น ซึ่งเมื่อบวกกับความสะดวกในการเช่าซื้อและการปล่อยสินเชื่อที่ง่าย จะมีส่วนช่วยกระตุ้นในเรื่องยอดขายได้ดีขึ้น
NADA หรือ National Automobile Dealer Association เปิดเผยว่า จากสัญญาณที่เกิดขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาทั้งเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ และการกู้ยืมเงินที่ค่อนข้างง่าย และสะดวก ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาปี 2011 มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2010 และเชื่อว่าตัวเลขปี 2011 น่าจะอยู่ระดับ 12.9 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2010 ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 11.6 ล้านคันถึง 11.3%
และถ้าการทำนายของ NADA แม่นยำและถูกต้อง ยอดขายรถยนต์นั่งและปิกอัพในปี 2011 จะเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับจากปี 2008 เลยทีเดียว ซึ่งในปีนั้น ตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกามีตัวเลขอยู่ที่ 13.2 ล้านคัน ก่อนที่จะหล่นวูบในปีต่อมา
NADA เปิดเผยว่าอีกปัจจัยที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นและลดลงในตลาดสหรัฐอเมริกา คือ ธุรกิจการขยายรถยนต์แบบยกล็อต หรือ Fleet โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจการขายลักษณะนี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและฟื้นตัวจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนอีกข้อคือ แนวคิดที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์หรือปิกอัพเกิน 10 ปี แต่สำหรับตอนนี้ ส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนแนวคิด และเริ่มมีการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่เร็วขึ้น ซึ่งเมื่อบวกกับความสะดวกในการเช่าซื้อและการปล่อยสินเชื่อที่ง่าย จะมีส่วนช่วยกระตุ้นในเรื่องยอดขายได้ดีขึ้น