เมื่อหันไปมองตลาดรถยนต์เก๋งขนาดกลางหรือMid-size Sedan ของบ้านเราแล้วมีรถให้เลือกในตลาดจำนวนไม่มากเนื่องจากเจ้าตลาดอย่าง “โตโยต้า คัมรี่” ครองส่วนแบ่งตลาดอย่างแข็งแกร่ง เป็นการยากที่ค่ายรถอื่นๆ จะเปิดตัวน้องใหม่ๆ เข้ามาแย่งส่วนแบ่งไปได้ ไม่นับรวมบรรดาคู่แข่งเดิมที่ทำตลาดอยู่ก็แย่งแชร์กันอย่างดุเดือดอยู่แล้วทั้ง ฮอนด้า แอคคอร์ด และนิสสัน เทียน่า
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากโมเดลของ 3 ค่ายหลักดังกล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่อยากได้รถยนต์นั่งซีดานขนาดกลางนั่นก็คือ “ซูบารุ เลกาซี” ซึ่งทำตลาดในเมืองไทยควบคู่กับเพื่อนร่วมชาติมาอย่างยาวนานแม้จะมียอดขายเพียงปีละไม่กี่สิบคัน โดย มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไทย เพิ่งจะเผยโฉม เลกาซี เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
สำหรับ เลกาซี ที่ทำตลาดในเมืองไทยมีให้เลือก 2 แบบตัวถังคือ ซีดาน(4 ประตู)และแวกอน(5ประตู) ส่วนเครื่องยนต์มีเพียงขนาดเดียว 2.0 ลิตร ทีมงาน “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รับความอนุเคราะห์ให้ยืมรถมาทดลองขับโดยทีมงานซูบารุจัดรุ่นตัวถังแบบแวกอนมาให้ เมื่อหันไปมองคู่แข่งในตลาดต้องบอกว่า ซูบารุขายอยู่คนเดียวกับรถซีดานขนาดกลางตัวถังแวกอน
ประการแรกมาทำความรู้จัก เลกาซี แวกอน กันสักหน่อยก่อน เจ้าเลกาซีทุกคันเป็นรถประกอบจากโรงงานของซูบารู ที่ประเทศญี่ปุ่นและนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย(CBU) ดังนั้นราคาจึงต้องแพงกว่ารถที่ประกอบในประเทศเนื่องจากเสียภาษีสูงกว่านั่นเอง
เลกาซี แวกอน มากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แบบบ๊อกเซอร์ 4 สูบนอนยัน อันเป็นเอกลักษณ์ของรถซูบารุ มีพละกำลังสูงสุด150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที 6 สปีด และที่สำคัญขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออลวีลไดร์ฟ(AWD)ตลอดเวลา
ส่วนช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และช่วงล่างหลังเป็นแบบอิสระ ดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง, ดิสก์เบรก 4 ล้อ, ครุยซ์คอนโทรล, พวงมาลัยไฟฟ้ารัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร เรียกว่าไม่น้อยหน้ารถในระดับเดียวกัน
ด้านอุปกรณ์อำนวนความสะดวกภายในห้องโดยสารมีครบครันเช่น เบาะนั่งแบบผ้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง(เฉพาะด้านผู้ขับ)เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่นละอองในตัว เป็นต้น
ด้านความปลอดภัยมีมาอย่างแน่นด้วยถุงลมนิรภัย9 จุด ได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง(ซ้าย-ขวา) ม่านข้างและหัวเข่า(เฉพาะคนขับ) ระบบเบรก เอบีเอสเซนเซอร์ 4 ตำแหน่งพร้อมระบบกระจายแรงเบรก(EBD) ระบบเสริมแรงเบรก(BA) ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Dynamics Control System)และแทรคชั่นคอนโทรล(Traction Control)
เห็นสเปคของอุปกรณ์ที่ให้มาทั้งหมดแล้วหันมามองราคา 2.05 ล้านบาท แพงกว่าคู่แข่งที่ขายกันแถวๆ ราคาล้านกลางบนตัวถังซีดานอยู่หลายแสนบาทก็จริง แต่อย่าลืมเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลกาซีราคาสูงเนื่องเพราะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน จะเห็นว่าเลกาซี ไม่ได้มีราคาสูงเว่อร์ไปแต่อย่างใด
กลับมาเข้าเรื่องของการทดลองขับกันต่อ แรกรับรถสัมผัสกับวัสดุอุปกรณ์ภายในชิ้นงานต่างๆ ดูมีคุณภาพสูง และออกแบบจัดวางตำแหน่งการใช้งานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยลงตัว หัวเกียร์รูปทรงสปอร์ตล้ำสมัยพร้อมกับการตกแต่งด้วยโทนสีเงินสลับดำ น่าจะถูกใจคนชอบความแรงยุคนี้
สตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องบอกเซอร์ค่อนข้างนุ่ม ไม่ดุดันเหมือนแต่ก่อน ยิ่งถ้าอยู่ในห้องโดยสารเทียบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนของเครื่องยนต์เลย ฉะนั้นใครที่ชอบเสียงเครื่องดุๆ ของซูบารุอาจจะต้องผิดหวัง เพราะเลกาซี ไม่เน้นตรงจุดนั้น
เข้าเกียร์เดินหน้าขับเคลื่อนออกตัวไปอย่างนุ่มนวลเฉกเช่นรถทั่วไป เมื่อเจอทางโล่งๆ ลองกดคันเร่งคิกดาวน์หนัก การตอบสนองของเครื่องยนต์ก็ยังคงเป็นไปอย่างนุ่มนวลรอบพุ่งสูงขึ้น รถเร็วขึ้นทันใจ แต่ไม่มีอาการกระโชกกระชากเหมือนเช่นรุ่นอิมเพรซ่า
ทั้งนี้สันนิษฐานได้ไม่ยากคงเป็นเพราะ ซูบารุเซ็ตระบบมาให้เป็นเช่นนั้นด้วยลักษณะของตัวถังที่เป็นแบบแวกอน เน้นการใช้งานแบบเอนกประสงค์ ครอบครัวมากกว่าจะเน้นเรื่องความแรง แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะด้านการขับขี่ที่บ่งบอกความเป็นรถซูบารุด้วย ความหนึบของการเกาะถนนในทุกย่านความเร็ว การทรงตัวที่นิ่งเวลาเข้าโค้ง
ความรู้สึกส่วนใหญ่ตลอดการขับคือ นั่งนุ่ม ขับสบายง่ายๆ เฉกเช่นรถซีดานทั่วไป การเปลี่ยนเลนหรือกลับรถก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแม้ตัวรถจะยาวกว่าซีดาน สำหรับความเร็วสูงสุดที่เราทดลองขับได้ถึง 170 กม./ชม. ทางตรงถนนเรียบ ตัวรถนิ่งวิ่งเนียนแบบคนขับยังคงสบายใจ ส่วนเสียงลมเริ่มดังรบกวนเมื่อขับเร็วเกินกว่า 120 กม./ชม.
สรุป ตั้งหลักจากสนนราคาค่าตัว 2.05 ล้านบาท มองหาซีดานแวกอนสักคันรูปลักษณ์ไม่โหล มีเครื่องยนต์บ็อกเซอร์กำลังแรงพอดี มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ออพชันครบ แถมประกอบจากญี่ปุ่น คำตอบคงอยู่กับ ซูบารุ เลกาซีอย่างไม่ต้องสงสัย