หลังบริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน นำ “ซิรอคโค” (Scirocco) มาเปิดตัวพร้อมขายในงานบางกอกฯมอเตอร์โชว์ 2009 จากนั้นไม่นานทีมงาน “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ก็มีโอกาสได้ขับ สปอร์ตคูเป้คันงามเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งครานั้นถือว่า “ฟลุ้ค” ที่เราได้ลองขับก่อนใคร ที่สำคัญยังเป็นรุ่นโมดิฟายพิเศษระดับ 250 แรงม้า พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว
ลมฟ้าผ่านฝนไปเกือบปี จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้สัมผัสเจ้า“ซิรอคโค” อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้ลองขับกันยาวๆ แถมยังเป็นตัวขายจริงสเปกโรงงาน ด้วยเครื่องยนต์ TSI 2.0 ลิตร 200 แรงม้า พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว
ซิรอคโค ถือเป็นรถที่มีประวัติศาสตร์ โดยชื่อซิรอคโคนั้นได้มาจากชื่อลมร้อนที่พัดจากทวีปแอฟริกามายังประเทศอิตาลี(หลายรุ่นของโฟล์คฯก็ใช้ชื่อลมมาเป็นชื่อรุ่น อาทิเช่น พาสสาท) สำหรับเจเนอเรชันแรกเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปี 1974 ออกแบบโดยจิออร์เจ็ตโต จุยเจียโร ใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับกอล์ฟรุ่นแรก ซึ่งค่ายรถเยอรมนีวางธงให้ซิรอคโคเป็นรถสปอร์ตที่ลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อหามาเป็นเจ้าของได้ง่าย
หลังเปิดตัวทำตลาด ซิรอคโครุ่นแรกได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในยุโรปและอเมริกา ด้วยยอดขายรวม 500,000 คัน อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงเจเนอเรชันสองที่เปิดตัวในปี 1982 กลับไม่ได้รับความนิยมตามหวัง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโครงสร้างทางวิศวกรรม และรูปลักษณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมมากนัก โดยทำยอดขายรวมได้เพียง 291,000 คัน ก่อนที่โฟล์คสวาเกนจะตัดสินใจยุบไลน์ผลิตในอเมริกาปี 1988 และเยอรมนีในปี 1992 ปิดฉากสปอร์ตคาร์เพื่อคนงบน้อยด้วยอายุทำตลาดรวม 18 ปี
...แต่จนแล้วจนรอดโฟล์คสวาเกน ที่วางเป้าหมายว่าภายในปี 2018 จะต้องขึ้นเป็นค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งของโลกด้านยอดขาย ดังนั้นการเสริมโปรดักต์ให้หลากหลายคลอบคุลมทุกความต้องการจึงถือเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อปูทางไปสู่เป้าหมายสูงสุด
จึงไม่น่าแปลกว่าโฟล์คสวาเกนจะนำโปรเจคต์ซิรอคโคกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยค่ายดังจากเยอรมนีประเดิมเปิดตัวรถต้นแบบก่อนคือรุ่น “ไอรอค” (Iroc) ที่ปารีส มอเตอร์โชว์ 2006 ก่อนฟื้นคืนชีพอย่างเป็นทางการด้วยการยึดโรงงานโฟล์คสวาเกน ประเทศโปรตุเกส เป็นฐานการผลิตพร้อมขายจริงตั้งแต่กลางปี 2008 เป็นต้นมา
แม้การทำตลาด ซิรอคโค เจเนอเรชันที่สามจะทิ้งห่างจากรุ่นก่อนหน้าไปพอสมควร แต่กระนั้นยังคงแนวคิดการเป็นสปอร์ตคาร์ ขับเคลื่อนล้อหน้าขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นฐานทางวิศวรรมร่วมกับโฟล์คสวาเกน กอล์ฟ (GTI)โดยรุ่นที่ทำตลาดในประเทศไทยมากับเครื่องยนต์เบนซิน TSI เทอร์โบ ไดเรกอินเจกชัน ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด200 แรงม้า ที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทซ์ DSG 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุดไล่ได้ถึง 233 กม./ชม.
“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสได้ขับในสภาวะรถติดในเมือง และทางยาวๆนอกเมือง พบว่า “ซิรอคโค” เป็นรถที่เปี่ยมไปด้วยความสปอร์ต เพราะถ้าดูจากม้าในคอกและเกียร์เทพ DSGแล้ว คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมาก ควบทางยาวๆไหลลื่น การส่งกำลังหรือยามต้องบดบี้คันเร่งช่วงย่านความเร็วกลางไล่ไปถึงความเร็วสูงๆทำได้กระชับฉับไว แม้การออกตัวที่เกียร์ตำแหน่ง D อาจไม่ถึงขั้นกระชากหลังติดเบาะ แต่กระนั้นถ้าปรับเกียร์เป็นโหมดสปอร์ต แล้วเข่นคันเร่งลงไปนิดจะรับรู้ถึงความแตกต่าง ซึ่งในโหมดนี้คุณจะเร้าใจกับการไล่เปลี่ยนเกียร์ 1-2-3 ด้วยการลากรอบยาวๆ เห็นเข็มไมล์ดีดไปแตะเรดไลน์แถวๆ 6,000 รอบ
การใช้แพดเดิลชิฟท์เปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยสั่งการด้วยไฟฟ้าว่องไวตามใจผู้ขับ แต่ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่เล็กไปนิด (ขวาเพิ่ม-ซ้ายลด)พร้อมจอแสดงตัวเลขเกียร์ที่เล็กและไม่โดดเด่น ตรงนี้ลดทอนอารมณ์สปอร์ตไปพอสมควร
นอกจากนี้ซิรอคโคยังมาพร้อมระบบAdaptive Chassis Control ปรับความหนืดของโชคอัพได้ทั้งแบบคอมฟอร์ดและสปอร์ต ซึ่งระบบนี้จะปรับเฉพาะช่วงล่างเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์และเกียร์
จากการลองเลือกโหมดคอมฟอร์ด แน่นอนว่าขับในเมืองนั้นนั่งนุ่มสบาย แต่กระนั้นถ้าลองใช้ความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรขึ้นไปอาจจะรู้สึกถึงความโยกโยนได้ชัดเจน กลับกันถ้าใช้โหมดสปอร์ตกับการวิ่งทางยาวๆคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ซึ่งคุณจะได้ความั่นใจ พร้อมรับรู้ถึงแรงกระแทกจากพื้นถนนที่สะท้อนเข้ามาได้พอสมควร ทั้งการขึ้นลงคอสะพาน และการเข้าออกจากโค้ง
ในส่วนของวิสัยทัศน์การขับขี่คงต้องใช้เวลาปรับตัวสักนิด คือด้านหน้าไม่เป็นปัญหา (ถ้าปรับที่นั่งเหมาะสม) แต่การมองกระจกข้างนั้น มุมค่อนข้างจำกัด ส่วนหนึ่งเพราะกระจกเล็กๆแถมยังติดบ่าของตัวรถ ยิ่งกระจกมองหลังต้องทำใจ เพราะการเป็นรถแฮทซ์แบ็กที่นอกจากพื้นที่กระจกหลังจะแคบแล้ว ยังมีเบาะหลัง 2 ที่นั่งมาบังทับเข้าไปอีก
ด้านเบาะนั่งแข็งๆกำลังดี โอบกระชับรับสรีระ พวงมาลัยแบบสปอร์ตหุ้มหนังจับถนัดมือการสั่งงานทำได้แม่นยำ เหนืออื่นใดการเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ยอดเยี่ยมตามสไตล์รถเยอรมัน ดังนั้นถ้าใครอยากฟังเสียงเครื่อง หรือเสียงบูท เทอร์โบ คำรามเสนอะหูอาจต้องผิดหวัง (แน่นอนว่า เสียงไม่ไพเราะเท่า กอล์ฟ จีทีไอ ที่แอบใช้ไมโครโฟนดึงเข้ามาในห้องโดยสาร)
สำหรับรถระดับราคา 2 ล้านกลางๆ เรื่องออปชันความปลอดภัยถือว่าครบครัน ทั้งโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว (ESP) ที่มีสวิตท์ให้เลือกว่าจะใช้หรือไม่ พร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายอัตโนมัติ (EDL) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว (ASR) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า-ด้านข้าง สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง ศิริรวมถุงลม 6 ลูก 8 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกันเบรกที่เป็นดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ห้ามหยุดได้มั่นใจทุกสภาพการขับขี่ ไม่มีอาการหน้าจิกให้เวียนหัว แต่กระนั้นวิศวกรของโฟล์คสวาเกน ยังมองถึงความสบายในการควบคุม ด้วยการเซ็ตให้แป้นเบรกเบา-ลึก กดได้นิ่มๆ ซึ่งตรงนี้อาจถูกใจคุณผู้หญิง
...ซิรอคโค สนนราคาเริ่มต้น2.46 ล้านบาท ขณะที่รุ่นท็อปไฮไลน์ 2.68 ล้านบาท จะมีออปชันเพิ่มเข้ามา อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังชัน แอร์อัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา เซ็นเซอร์จอดรถ ระบบเตือน-เช็คลมยางอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว (รุ่นราคา 2.46 ล้านบาท แอร์จะเป็นแบบแมนวลมือหมุน และล้ออัลลอยด์ขอบ 17 นิ้ว)
รวบรัดตัดความ...ด้วยรูปลักษณ์ปราดเปรียวโฉบเฉี่ยว ตัวรถลาดต่ำเตี้ย การขับขี่รวมๆสปอร์ตเร้าใจจากเครื่องยนต์ระบบส่งกำลังตอบสนองดีเยี่ยม แถมช่วงล่างยังปรับความแข็ง-นุ่มได้ อย่างไรก็ตาม “ซิรอคโค” ยังเหลือช่องว่างไว้ให้การขับขี่แบบชิวๆ ทั้งการควบคุมพวงมาลัย แป้นเบรก-คันเร่ง ทำได้ถนัดมือสบายเท้า ดังนั้นถ้าใครลองขับแล้วไม่หนำใจ อยากได้แบบดิบๆดุดัน ก็ไปโน้นเลยครับ “กอล์ฟ จีทีไอ”
