“วอลโว่ วี50” 1.799 ล้านบาท!...ขยี้ตาแล้วล้างหน้าอีกสองรอบ ราคานี้ไม่ผิดแน่ครับ เพราะในเอกสารที่แจก พร้อมคำยืนยันจาก ฉันทนา วัฒนารมย์ ประธาน วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ในวันจัดทริปทดสอบให้สื่อมวลชน เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การันตีได้
แม้สาวกชาวไทยอาจรอกันนานกว่าจะได้เห็น วี50 ซึ่งต้องยอมรับว่าช้าจริงๆหรือบางคนอาจลืมไปแล้วว่า วอลโว่จะทำตลาดโมเดลนี้ในบ้านเรา แต่หลังจากโรงงานผลิตที่มาเลเซียพร้อม และมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตรที่เหมาะสมกับพิกัดภาษีในบ้านเรา(เพื่อทำราคาได้) รวมถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA ที่เตรียมลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% มีผลตั้งแต่ 1 มกราคมปี 2553 ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ ค่ายรถสวีเดนตัดสินใจทำตลาด วี50
วี50 เปิดตัวพร้อมกับ เอส40 (ตัวถังซีดาน) ที่พัฒนาบนพื้นฐานวิศวกรรมเดียวกัน ไล่ตั้งแต่ แพลตฟอร์ม P1 (ฟอร์ด โฟกัส มาสด้า3 ก็ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันนี้) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 185 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาแบบ ดูอัลคลัทซ์ 6 สปีด ของ Getrag
ด้านการออกแบบภายนอกภายใน ก็เป็นโทนเดียวกันเหมือนกับเพื่อนร่วมค่าย ไม่ว่าจะเป็นพวก สเตชันเวกอน เอสยูวี ซีดาน หรือแฮทซ์แบ็ก ที่วอลโว่อิงแนวคิดสแกนดิแนเวียนดีไซน์ เน้นความสวยงามทันสมัยแต่ยังคงไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย โดยตัวถังพยาพยามทำให้ดูมน กลมกลืนด้วยเส้นกรอบหลังคาที่โค้ง และตัดลงที่ด้านท้าย พร้อมไหล่ทั้งสองข้าง ไฟท้ายแนวตั้ง ซึ่งทั้งหมดกลายเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์วอลโว่ยุคใหม่
ภายในอเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และนอกจากเบาะทุกที่นั่งพับราบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระแล้ว เบาะหลัง(แถวสอง)ตำแหน่งซ้ายขวา ยังสามารถปรับให้สูงขึ้นได้เพื่อเป็นเบาะรองนั่งที่เหมาะสำหรับเด็กน้ำหนักระหว่าง 15-36 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นความปลอดภัยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่ม
วี50 ยังครบเครื่องด้วยออปชันความปลอดภัย ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้างของผู้โดยสาร-คนขับ รวมถึงม่านนิรภัยด้านข้าง ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS EBD BA และระบบรักษาเสถียรภาพของรถอัตโนมัติ (Dynamic Stability and Traction Control : DSTC) ซึ่งจะปรับการทรงตัวของรถให้คืนสมดุล หากเซ็นเซอร์จับได้ว่ารถมีความเสี่ยงต่อการลื่นไถล
นอกจากนี้ยังใส่ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System: BLIS) ที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ขับขี่เกี่ยวกับรถด้านข้างหรือด้านหลังในมุมที่มองเห็นได้ยาก ด้วยกล้องซึ่งติดตั้งอยู่ในกระจกมองข้างส่องไปทางท้ายรถเพื่อสอดส่องทั้งสองฟากของรถ ดังนั้นหากมียานพาหนะเคลื่อนเข้ามาในมุมอับของสายตา ฟังก์ชั่นนี้จะเตือนผู้ขับให้ระวังด้วยไฟสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนเสาเอ-พิลลาร์ ทั้งซ้ายและขวา
ด้านความรู้สึกหลังได้ขับขี่ บนเส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ต้องบอกว่า วี50 ยังคงบุคลิกเดิมๆของวอลโว่ คือป็นรถนุ่มเรียบไร้ความสปอร์ต พวงมาลัยเบาหวิว แม้ขับบนความเร็วสูงก็ไม่รู้สึกว่าหน่วงหนักหรือสร้างความมั่นใจ ขณะเดียวกันเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสาร ยังเป็นรองอนุกรมอื่นๆในค่ายเดียวกันแบบรู้สึกได้ ทั้งเสียงลมปะทะ เสียงยางบดพื้น ตรงนี่สะท้อนเข้ามาชัดพอสมควร
ส่วนเรื่องการทรงตัว แม้จะเป็นตัวถังสเตชันแวกอน แต่วี50 ถือว่าสอบผ่านครับ ตัวรถถ่ายเทน้ำหนักดีเมื่อวิ่งทางยาวๆหรือต้องการเปลี่ยนเลน หรือแม้จะมีอาการโยกโยนในโค้งบ้าง แต่รวมๆแล้วไม่ถึงกับหน้าเกลียด
ขณะที่เครื่องยนต์เบนเซิน 2.0 ลิตร หายใจเอง อาจตอบสนองช้าไปนิด แม้จะได้เกียร์เทพแบบดูอัลคลัทซ์มาช่วย ก็ไม่ได้ทำให้ตัวรถกระปรี้กระเปร่าขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.9วินาที ที่สำคัญการสับคันเกียร์เล่นเองยังออกแนวแข็ง ต้องใช้แรงดึงโยกพอสมควร
แม้จะมีข้อจำกัดของพลังเครื่องยนต์หรือการเซ็ตอัตราทดเกียร์ จะไม่ทำให้ วี50 พุ่งทยานดังหวัง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องขอบคุณที่ วอลโว่ ใจดีติดตั้งระบบส่งกำลังชุดนี้มาให้ ซึ่งเกียร์แบบดูอัลลคลัทซ์ 6 สปีดที่วอลโว่เรียกว่า “เพาเวอร์ชิฟท์” เป็นลูกเดียวกับที่วางในโฟกัส ดีเซล แต่จะต่างกันตรงอีซียูสั่งการที่ปรับเซ็ทมาต่างกัน
โดยเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ ใช้หลักการทำงานเหมือนมีเกียร์ธรรมดา 2 ชุด (ไม่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์)พร้อมคลัทช์คู่แบบเปียกที่ทำงานแยกกันอิสระ ซึ่งชุดแรกจะควบคุมการเกียร์ 1, 3, 5 และเกียร์ถอยหลัง ส่วนอีกชุดจะควบคุมเกียร์ 2, 4, 6 โดยแต่ละชุดจะสลับกันทำงาน กล่าวคือ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานผลิตกำลังเต็มที่แล้วในเกียร์ 1 คลัทช์ชุดที่สองจะเข้ารอที่เกียร์ 2 ทันที เมื่อเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ 2 แล้ว คลัทช์ชุดแรกจะไปรออยู่ที่เกียร์ 3 สลับกันไปเรื่อยๆ จึงส่งกำลังได้ไหลลื่นต่อเนื่อง ที่สำคัญไม่เสียแรงบิด ทั้งยังช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมัน
สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมัน ที่ตลอดเส้นทางมีขึ้นเนินลงเขาสลับกันไป รวมถึงทางตรงยิงยาวๆ มีการกดคิกดาวน์บ่อยครั้ง หรือใช้ความเร็ว120-140กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้เขียนมองไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่ เห็นตัวเลขระดับ 8.6 ลิตร/100 กม. หรือ 11.6 กม./ลิตร ก็ถือว่าพอรับได้ครับ
รวบรัดตัดความ...วี50 เกิดมาเป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์ ขับสบายๆไม่ต้องรีบร้อน ส่วนใครหวังจะมีเครื่องยนต์ดีเซลมาประทับในรุ่นนี้(หรือ เอส40) คงต้องรอนานครับ เพราะวอลโว่ประกาศชัดว่ายังไม่มีแผน แต่ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์หรู พร้อมตัวถังสเตชันแวกอน ราคาแค่ 1.799 ล้านบาท คู่แข่งโดยตรงในตลาดไม่มี ยิ่งมองไปที่ออปชันความปลอดภัย สิ่งอำนวยตวามสะดวก หรือจะเป็นระบบเกียร์ดูอัลลคลัทซ์ ที่ใส่มาให้ ต้องบอกว่าเป็นรถที่คุ้มค่ากับราคาสุดๆ
แม้สาวกชาวไทยอาจรอกันนานกว่าจะได้เห็น วี50 ซึ่งต้องยอมรับว่าช้าจริงๆหรือบางคนอาจลืมไปแล้วว่า วอลโว่จะทำตลาดโมเดลนี้ในบ้านเรา แต่หลังจากโรงงานผลิตที่มาเลเซียพร้อม และมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตรที่เหมาะสมกับพิกัดภาษีในบ้านเรา(เพื่อทำราคาได้) รวมถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA ที่เตรียมลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% มีผลตั้งแต่ 1 มกราคมปี 2553 ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ ค่ายรถสวีเดนตัดสินใจทำตลาด วี50
วี50 เปิดตัวพร้อมกับ เอส40 (ตัวถังซีดาน) ที่พัฒนาบนพื้นฐานวิศวกรรมเดียวกัน ไล่ตั้งแต่ แพลตฟอร์ม P1 (ฟอร์ด โฟกัส มาสด้า3 ก็ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันนี้) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 185 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาแบบ ดูอัลคลัทซ์ 6 สปีด ของ Getrag
ด้านการออกแบบภายนอกภายใน ก็เป็นโทนเดียวกันเหมือนกับเพื่อนร่วมค่าย ไม่ว่าจะเป็นพวก สเตชันเวกอน เอสยูวี ซีดาน หรือแฮทซ์แบ็ก ที่วอลโว่อิงแนวคิดสแกนดิแนเวียนดีไซน์ เน้นความสวยงามทันสมัยแต่ยังคงไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย โดยตัวถังพยาพยามทำให้ดูมน กลมกลืนด้วยเส้นกรอบหลังคาที่โค้ง และตัดลงที่ด้านท้าย พร้อมไหล่ทั้งสองข้าง ไฟท้ายแนวตั้ง ซึ่งทั้งหมดกลายเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์วอลโว่ยุคใหม่
ภายในอเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และนอกจากเบาะทุกที่นั่งพับราบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระแล้ว เบาะหลัง(แถวสอง)ตำแหน่งซ้ายขวา ยังสามารถปรับให้สูงขึ้นได้เพื่อเป็นเบาะรองนั่งที่เหมาะสำหรับเด็กน้ำหนักระหว่าง 15-36 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นความปลอดภัยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่ม
วี50 ยังครบเครื่องด้วยออปชันความปลอดภัย ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้างของผู้โดยสาร-คนขับ รวมถึงม่านนิรภัยด้านข้าง ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS EBD BA และระบบรักษาเสถียรภาพของรถอัตโนมัติ (Dynamic Stability and Traction Control : DSTC) ซึ่งจะปรับการทรงตัวของรถให้คืนสมดุล หากเซ็นเซอร์จับได้ว่ารถมีความเสี่ยงต่อการลื่นไถล
นอกจากนี้ยังใส่ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System: BLIS) ที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ขับขี่เกี่ยวกับรถด้านข้างหรือด้านหลังในมุมที่มองเห็นได้ยาก ด้วยกล้องซึ่งติดตั้งอยู่ในกระจกมองข้างส่องไปทางท้ายรถเพื่อสอดส่องทั้งสองฟากของรถ ดังนั้นหากมียานพาหนะเคลื่อนเข้ามาในมุมอับของสายตา ฟังก์ชั่นนี้จะเตือนผู้ขับให้ระวังด้วยไฟสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนเสาเอ-พิลลาร์ ทั้งซ้ายและขวา
ด้านความรู้สึกหลังได้ขับขี่ บนเส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ต้องบอกว่า วี50 ยังคงบุคลิกเดิมๆของวอลโว่ คือป็นรถนุ่มเรียบไร้ความสปอร์ต พวงมาลัยเบาหวิว แม้ขับบนความเร็วสูงก็ไม่รู้สึกว่าหน่วงหนักหรือสร้างความมั่นใจ ขณะเดียวกันเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสาร ยังเป็นรองอนุกรมอื่นๆในค่ายเดียวกันแบบรู้สึกได้ ทั้งเสียงลมปะทะ เสียงยางบดพื้น ตรงนี่สะท้อนเข้ามาชัดพอสมควร
ส่วนเรื่องการทรงตัว แม้จะเป็นตัวถังสเตชันแวกอน แต่วี50 ถือว่าสอบผ่านครับ ตัวรถถ่ายเทน้ำหนักดีเมื่อวิ่งทางยาวๆหรือต้องการเปลี่ยนเลน หรือแม้จะมีอาการโยกโยนในโค้งบ้าง แต่รวมๆแล้วไม่ถึงกับหน้าเกลียด
ขณะที่เครื่องยนต์เบนเซิน 2.0 ลิตร หายใจเอง อาจตอบสนองช้าไปนิด แม้จะได้เกียร์เทพแบบดูอัลคลัทซ์มาช่วย ก็ไม่ได้ทำให้ตัวรถกระปรี้กระเปร่าขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.9วินาที ที่สำคัญการสับคันเกียร์เล่นเองยังออกแนวแข็ง ต้องใช้แรงดึงโยกพอสมควร
แม้จะมีข้อจำกัดของพลังเครื่องยนต์หรือการเซ็ตอัตราทดเกียร์ จะไม่ทำให้ วี50 พุ่งทยานดังหวัง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องขอบคุณที่ วอลโว่ ใจดีติดตั้งระบบส่งกำลังชุดนี้มาให้ ซึ่งเกียร์แบบดูอัลลคลัทซ์ 6 สปีดที่วอลโว่เรียกว่า “เพาเวอร์ชิฟท์” เป็นลูกเดียวกับที่วางในโฟกัส ดีเซล แต่จะต่างกันตรงอีซียูสั่งการที่ปรับเซ็ทมาต่างกัน
โดยเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ ใช้หลักการทำงานเหมือนมีเกียร์ธรรมดา 2 ชุด (ไม่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์)พร้อมคลัทช์คู่แบบเปียกที่ทำงานแยกกันอิสระ ซึ่งชุดแรกจะควบคุมการเกียร์ 1, 3, 5 และเกียร์ถอยหลัง ส่วนอีกชุดจะควบคุมเกียร์ 2, 4, 6 โดยแต่ละชุดจะสลับกันทำงาน กล่าวคือ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานผลิตกำลังเต็มที่แล้วในเกียร์ 1 คลัทช์ชุดที่สองจะเข้ารอที่เกียร์ 2 ทันที เมื่อเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ 2 แล้ว คลัทช์ชุดแรกจะไปรออยู่ที่เกียร์ 3 สลับกันไปเรื่อยๆ จึงส่งกำลังได้ไหลลื่นต่อเนื่อง ที่สำคัญไม่เสียแรงบิด ทั้งยังช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมัน
สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมัน ที่ตลอดเส้นทางมีขึ้นเนินลงเขาสลับกันไป รวมถึงทางตรงยิงยาวๆ มีการกดคิกดาวน์บ่อยครั้ง หรือใช้ความเร็ว120-140กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้เขียนมองไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่ เห็นตัวเลขระดับ 8.6 ลิตร/100 กม. หรือ 11.6 กม./ลิตร ก็ถือว่าพอรับได้ครับ
รวบรัดตัดความ...วี50 เกิดมาเป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์ ขับสบายๆไม่ต้องรีบร้อน ส่วนใครหวังจะมีเครื่องยนต์ดีเซลมาประทับในรุ่นนี้(หรือ เอส40) คงต้องรอนานครับ เพราะวอลโว่ประกาศชัดว่ายังไม่มีแผน แต่ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์หรู พร้อมตัวถังสเตชันแวกอน ราคาแค่ 1.799 ล้านบาท คู่แข่งโดยตรงในตลาดไม่มี ยิ่งมองไปที่ออปชันความปลอดภัย สิ่งอำนวยตวามสะดวก หรือจะเป็นระบบเกียร์ดูอัลลคลัทซ์ ที่ใส่มาให้ ต้องบอกว่าเป็นรถที่คุ้มค่ากับราคาสุดๆ
