ข่าวในประเทศ - เจ้าพ่อมอเตอร์โชว์ “ปราจิน” ฟันธง! เก๋งเล็กแรงดันเงินสะพัดในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 พุ่งไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะอีโคคาร์ของนิสสันที่เปิดตัวเป็นยี่ห้อแรก และจะเป็นพระเอกภายในงานคาดมียอดจองไม่ต่ำกว่า 2 พันคัน หรือ 20% ของรถเล็กทั้งหมด เหตุรูปลักษณ์และราคาที่เริ่มต้นคาด 3.89 แสนบาทโดนใจขณะที่นิสสัน มอเตอร์ เผยโฉม “นิสสัน ไมครา” ว่าที่อีโคคาร์นิสสันที่จะเปิดตัวในไทย วันที่ 12 มี.ค.นี้ จนตลาดซับคอมแพ็กต์ และโดยเฉพาะรถมือสองสั่นสะเทือนไปหมด
เก๋งเล็ก-อีโคคาร์ดันมอเตอร์โชว์คึก
ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดงานครั้งนี้ว่า “รักรถ รักษ์โลก” เพื่อร่วมกันใส่ใจในการรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และประหยัดการใช้พลังงานเพื่อให้โลกน่าอยู่
ทั้งนี้บริษัทรถยนต์ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบมาจัดแสดง 7-8 คัน ที่สำคัญรถยนต์ที่ทำตลาดทั่วไปก็มีการเปิดตัวรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นครั้งแรกของโลกซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฮไลต์ของงานครั้งนี้ จึงเป็นอีกความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการเป็นฐานผลิตของโลก โดยเฉพาะอนาคตที่จะมีอีโคคาร์จากฮอนด้า และซูซูกิตามมาใน 1-2 ปีจากนี้
“จากการได้รับทราบข้อมูลอีโคคาร์ของนิสสัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.89 แสนบาท และสูงสุดประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ เมื่อบวกกับรูปลักษณ์และมาตรฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี ทำให้ประเมินว่าอีโคคาร์นิสสันจะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 20% ของรถยนต์นั่งขนาดเล็กทั้งหมดภายในงาน หรือมียอดจองมากกว่า 2,000 คัน แต่ทั้งหมดนิสสันจะต้องตอบโจทย์และนำเสนอให้ลูกค้าทราบจุดดี เหมือนเช่นที่มาสด้า2 ได้ทำสำเร็จมาแล้ว”
นายปราจินเปิดเผยว่า ภาพรวมภายในงานปีนี้รถยนต์นั่ง หรือเก๋งขนาดเล็ก จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์ของนิสสัน หรือเก๋งซับคอมแพ็กต์ (บี-คาร์) ทั้งมาสด้า2 ที่เตรียมเปิดตัวรุ่น 4 ประตู เพิ่มมาเป็นอีกทางเลือก และการเปิดตัวของฟอร์ด เฟียสต้า รวมถึงรถที่มีในตลาดอย่าง โตโยต้า วีอสส/ยาริส และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ส ซึ่งรถยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ยอดจองภายในงานเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือประมาณเกือบ 2 หมื่นคัน ส่งผลให้เงินสะพัดภายในงานเมื่อรวมกับอุปกรณ์ประดับยนต์ไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท มีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านคน
นิสสันเปิด“ไมครา”ว่าที่อีโคคาร์ในไทย
สำหรับอีโคคาร์ของนิสสันจะเปิดตัวกับสื่อมวลชน พร้อมกับทำพิธีฉลองรถที่ออกจากสายผลิตคันแรกในไทย วันที่ 12 มีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจะเปิดให้จองและขายอย่างเป็นทางการในไทยเป็นประเทศแรก ซึ่งจากกระแสข่าวล่าสุดอีโคคาร์นิสสันค่อนข้างแน่นอนว่า จะใช้ชื่อ “มาร์ช” ตามชื่อเรียกที่ทำตลาดในญี่ปุ่น และเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ภายใต้โครงการอีโคคาร์ที่รัฐบาลไทยสนับสนุน
ส่วนรายละเอียดและรูปลักษณ์ของอีโคคาร์ นิสสันยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ล่าสุดนิสสัน มอเตอร์ส ได้เผยโฉม “นิสสัน ไมครา”(micra) สำหรับทำตลาดในยุโรป ที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ช่วงเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นทราบกันดีว่าไมคราก็คือ “มาร์ช” ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น อาจจะแตกต่างกันเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น จึงพอจะกล่าวได้ว่านิสสัน ไมครา เป็นว่าที่อีโคคาร์ของนิสสันที่จะเปิดตัวขายในไทยเป็นแห่งแรก โดยไมคราจะเริ่มทำตลาดในยุโรปประมาณเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้
นิสสัน ไมครา เป็นเจนเนอเรชันที่ 4 ของมาร์ช หรือไมครา โดยตัวรถได้รับการออกแบบบนพื้นตัวถังใหม่ที่เรียกว่า V Platform ซึ่งมีการขยายระยะฐานล้อจากรุ่นเดิม เพื่อความกว้างขวางของห้องโดยสาร และให้ความคล่องตัวด้วยตัวถังทรง 5 ประตูกะทัดรัด ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.5 เมตรเท่านั้น
รายละเอียดของรุ่นที่เปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นสเปกยุโรป ทางนิสสันเผยว่ามีทำตลาด 2 รุ่น โดยอิงพื้นฐานของเครื่องยนต์ 3 สูบ ในรหัส HR12 ที่มีความจุ 1,200 ซีซี มาพร้อมระบบวาล์วแปรผัน VTC-Valve Timing Control มีกำลัง 80 แรงม้า และรุ่นซูเปอร์ชาร์จ มาพร้อมกับระบบไดเรกต์อินเจกชัน มีกำลัง 98 แรงม้า และติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อจอดเดินเบาอยู่กับที่ หรือ Auto Start/Stop เหมือนกับรถยนต์ไฮบริด โดยทั้ง 2 รุ่นเลือกส่งกำลังได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ และธรรมดา 5 จังหวะ ซึ่งจากข่าวคราวสเปกอีโคคาร์ที่จะทำตลาดในไทยไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
บีคาร์ไม่หวั่น-รถมือสองสะเทือน
การเปิดตัวของอีโคคาร์ในไทย นับว่าได้รับการเฝ้าจับตามองทั้งจากผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้องในแวดวงยานยนต์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะค่ายที่มีรถยนต์ขนาดเล็กแบบซับคอมแพ็กต์ หรือบี-คาร์ ซึ่งมีขนาดตัวถังและราคาใกล้เคียงกัน แม้ส่วนใหญ่จะมองว่าไม่ใช่ตลาดเดียวกัน แต่ก็เห็นความเคลื่อนไหวจากบริษัทเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ที่เปิดตัว โตโยต้า วีออส ไมเนอร์เชนจ์ ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ และมาสด้าที่จะเปิดตัวรุ่น 4 ประตูของมาสด้า 2 รวมถึงฟอร์ดที่จะเปิดตัวรุ่นเฟียสต้าที่จะเปิดขายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์
นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า อีโคคาร์นิสสันไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฟอร์ด เฟียสต้า ที่กำลังจะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการ และจริงๆ แล้วอีโคคาร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทย และเคยมีรถคล้ายๆ แบบนี้มาแล้ว แต่จะเห็นว่าที่สุดกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเลือกเครื่องยนต์ 1.5-1.6 ลิตร และมีราคาระดับประมาณ 5-7 แสนบาท ดังนั้นการเปิดตัวอีโคคาร์ของนิสสันน่าจะส่งผลต่อตลาดรถมือสองมากกว่า เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าเดียวกัน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวของอีโคคาร์น่าจะมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับตลาดรถยนต์นั่งของไทย และทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น และบริษัทมองว่ารถมาสด้า2 ใหม่ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะโดดเด่นทั้งเรื่องรูปลักษณ์ และสมรรถนะที่ดีกว่า
จากเหตุผลดังกล่าวทำให้มาสด้า2 ได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดขายสูงกว่า 5,000 คัน จากการเปิดตัวในเวลาเพียงแค่ 3 เดือน และยังมีแบ็กออเดอร์อีกกว่า 3,000 คัน ขณะเดียวกันบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจากับโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ โดยการขอโควตาเพิ่มจากเดิมอีกถึง 2 เท่าตัว พร้อมอัดกิจกรรมต่างๆ ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องไปทั่วประเทศ
เก๋งเล็ก-อีโคคาร์ดันมอเตอร์โชว์คึก
ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดงานครั้งนี้ว่า “รักรถ รักษ์โลก” เพื่อร่วมกันใส่ใจในการรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และประหยัดการใช้พลังงานเพื่อให้โลกน่าอยู่
ทั้งนี้บริษัทรถยนต์ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบมาจัดแสดง 7-8 คัน ที่สำคัญรถยนต์ที่ทำตลาดทั่วไปก็มีการเปิดตัวรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นครั้งแรกของโลกซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฮไลต์ของงานครั้งนี้ จึงเป็นอีกความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการเป็นฐานผลิตของโลก โดยเฉพาะอนาคตที่จะมีอีโคคาร์จากฮอนด้า และซูซูกิตามมาใน 1-2 ปีจากนี้
“จากการได้รับทราบข้อมูลอีโคคาร์ของนิสสัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.89 แสนบาท และสูงสุดประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ เมื่อบวกกับรูปลักษณ์และมาตรฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี ทำให้ประเมินว่าอีโคคาร์นิสสันจะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 20% ของรถยนต์นั่งขนาดเล็กทั้งหมดภายในงาน หรือมียอดจองมากกว่า 2,000 คัน แต่ทั้งหมดนิสสันจะต้องตอบโจทย์และนำเสนอให้ลูกค้าทราบจุดดี เหมือนเช่นที่มาสด้า2 ได้ทำสำเร็จมาแล้ว”
นายปราจินเปิดเผยว่า ภาพรวมภายในงานปีนี้รถยนต์นั่ง หรือเก๋งขนาดเล็ก จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์ของนิสสัน หรือเก๋งซับคอมแพ็กต์ (บี-คาร์) ทั้งมาสด้า2 ที่เตรียมเปิดตัวรุ่น 4 ประตู เพิ่มมาเป็นอีกทางเลือก และการเปิดตัวของฟอร์ด เฟียสต้า รวมถึงรถที่มีในตลาดอย่าง โตโยต้า วีอสส/ยาริส และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ส ซึ่งรถยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ยอดจองภายในงานเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือประมาณเกือบ 2 หมื่นคัน ส่งผลให้เงินสะพัดภายในงานเมื่อรวมกับอุปกรณ์ประดับยนต์ไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท มีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านคน
นิสสันเปิด“ไมครา”ว่าที่อีโคคาร์ในไทย
สำหรับอีโคคาร์ของนิสสันจะเปิดตัวกับสื่อมวลชน พร้อมกับทำพิธีฉลองรถที่ออกจากสายผลิตคันแรกในไทย วันที่ 12 มีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจะเปิดให้จองและขายอย่างเป็นทางการในไทยเป็นประเทศแรก ซึ่งจากกระแสข่าวล่าสุดอีโคคาร์นิสสันค่อนข้างแน่นอนว่า จะใช้ชื่อ “มาร์ช” ตามชื่อเรียกที่ทำตลาดในญี่ปุ่น และเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ภายใต้โครงการอีโคคาร์ที่รัฐบาลไทยสนับสนุน
ส่วนรายละเอียดและรูปลักษณ์ของอีโคคาร์ นิสสันยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ล่าสุดนิสสัน มอเตอร์ส ได้เผยโฉม “นิสสัน ไมครา”(micra) สำหรับทำตลาดในยุโรป ที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ช่วงเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นทราบกันดีว่าไมคราก็คือ “มาร์ช” ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น อาจจะแตกต่างกันเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น จึงพอจะกล่าวได้ว่านิสสัน ไมครา เป็นว่าที่อีโคคาร์ของนิสสันที่จะเปิดตัวขายในไทยเป็นแห่งแรก โดยไมคราจะเริ่มทำตลาดในยุโรปประมาณเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้
นิสสัน ไมครา เป็นเจนเนอเรชันที่ 4 ของมาร์ช หรือไมครา โดยตัวรถได้รับการออกแบบบนพื้นตัวถังใหม่ที่เรียกว่า V Platform ซึ่งมีการขยายระยะฐานล้อจากรุ่นเดิม เพื่อความกว้างขวางของห้องโดยสาร และให้ความคล่องตัวด้วยตัวถังทรง 5 ประตูกะทัดรัด ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.5 เมตรเท่านั้น
รายละเอียดของรุ่นที่เปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นสเปกยุโรป ทางนิสสันเผยว่ามีทำตลาด 2 รุ่น โดยอิงพื้นฐานของเครื่องยนต์ 3 สูบ ในรหัส HR12 ที่มีความจุ 1,200 ซีซี มาพร้อมระบบวาล์วแปรผัน VTC-Valve Timing Control มีกำลัง 80 แรงม้า และรุ่นซูเปอร์ชาร์จ มาพร้อมกับระบบไดเรกต์อินเจกชัน มีกำลัง 98 แรงม้า และติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อจอดเดินเบาอยู่กับที่ หรือ Auto Start/Stop เหมือนกับรถยนต์ไฮบริด โดยทั้ง 2 รุ่นเลือกส่งกำลังได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ และธรรมดา 5 จังหวะ ซึ่งจากข่าวคราวสเปกอีโคคาร์ที่จะทำตลาดในไทยไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
บีคาร์ไม่หวั่น-รถมือสองสะเทือน
การเปิดตัวของอีโคคาร์ในไทย นับว่าได้รับการเฝ้าจับตามองทั้งจากผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้องในแวดวงยานยนต์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะค่ายที่มีรถยนต์ขนาดเล็กแบบซับคอมแพ็กต์ หรือบี-คาร์ ซึ่งมีขนาดตัวถังและราคาใกล้เคียงกัน แม้ส่วนใหญ่จะมองว่าไม่ใช่ตลาดเดียวกัน แต่ก็เห็นความเคลื่อนไหวจากบริษัทเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ที่เปิดตัว โตโยต้า วีออส ไมเนอร์เชนจ์ ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ และมาสด้าที่จะเปิดตัวรุ่น 4 ประตูของมาสด้า 2 รวมถึงฟอร์ดที่จะเปิดตัวรุ่นเฟียสต้าที่จะเปิดขายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์
นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า อีโคคาร์นิสสันไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฟอร์ด เฟียสต้า ที่กำลังจะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการ และจริงๆ แล้วอีโคคาร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทย และเคยมีรถคล้ายๆ แบบนี้มาแล้ว แต่จะเห็นว่าที่สุดกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเลือกเครื่องยนต์ 1.5-1.6 ลิตร และมีราคาระดับประมาณ 5-7 แสนบาท ดังนั้นการเปิดตัวอีโคคาร์ของนิสสันน่าจะส่งผลต่อตลาดรถมือสองมากกว่า เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าเดียวกัน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวของอีโคคาร์น่าจะมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับตลาดรถยนต์นั่งของไทย และทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น และบริษัทมองว่ารถมาสด้า2 ใหม่ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะโดดเด่นทั้งเรื่องรูปลักษณ์ และสมรรถนะที่ดีกว่า
จากเหตุผลดังกล่าวทำให้มาสด้า2 ได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดขายสูงกว่า 5,000 คัน จากการเปิดตัวในเวลาเพียงแค่ 3 เดือน และยังมีแบ็กออเดอร์อีกกว่า 3,000 คัน ขณะเดียวกันบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจากับโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ โดยการขอโควตาเพิ่มจากเดิมอีกถึง 2 เท่าตัว พร้อมอัดกิจกรรมต่างๆ ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องไปทั่วประเทศ
