ข่าวต่างประเทศ - บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป พอใจผลงานในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีนที่ทำยอดขายเติบโต ลั่นจับมือพันธมิตรเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการลูกค้าต่อเนื่อง
เอียน โรเบิร์ตสัน กรรมการบริหาร บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี กล่าวว่า ยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่ประเทศจีนในเดือนมกราคมทำได้ 11,919 คัน เพิ่มขึ้น122% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 11,369 คันนั้น ซึ่งเป็นสถิติใหม่และเป็นครั้งแรกที่ยอดขายต่อเดือนทะลุหลัก 10,000 คันสำหรับตลาดประเทศจีน อีกทั้งยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ใหม่ที่ทำได้ถึง 1,705 คัน ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของรถยนต์ระดับซุเปอร์ซาลูนจากบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7
"ตลาดจีนในปี 2009 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิได้ถึง 90,536 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 37.5% เมื่อเทียบกับปี 2008 ดังนั้นเราจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และปีนี้เราตั้งเป้าที่จะเติบโตอีกอย่างน้อย 10% ในตลาดแห่งนี้"
ขณะเดียวกันถ้ามองศักยภาพในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เริ่มลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจังในแต่ละตลาด ซึ่งบริษัทได้เห็นผลสำเร็จของความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับภูมิภาคนี้ ยกตัวอย่างเช่น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ทำยอดขายรวมในปีที่แล้วของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 2,763 คัน เพิ่มขึ้นถึง 20.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยูสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยมได้อีก 5.0% อีกทั้งยังเป็นรายเดียวในเซ็กเมนท์ที่ขยายส่วนแบ่งตลาดได้ในปีที่ผ่านมา
ด้านตลาดอินเดีย ที่บีเอ็มดับเบิลยูได้เข้าเริ่มทำตลาดและตั้งโรงงานประกอบตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศอินเดีย สามารถทำยอดขายได้ถึง 3,619 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัว เมื่อเทียบกับยอดขายของปีค.ศ. 2007 ที่ทำได้ 1,387 คัน ในขณะเดียวกัน ในประเทศเกาหลีใต้ บีเอ็มดับเบิลยูก็สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 23.8% อีกทั้งยังเป็นประเทศอันดับที่ 4 สำหรับยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 เป็นรองเพียงตลาดจีน อเมริกา และเยอรมัน และบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
นอกจากตลาดหลักๆอย่างเช่น ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย ประเทศอินเดีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลีใต้แล้ว ตลาดอื่นๆที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ขายผ่านตัวแทนนำเข้าก็สามารถทำยอดขายในปีที่ผ่านมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ตลาดหลักของตัวแทนนำเข้าในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเติบโตขึ้น 1.5% ปิดยอดขายที่ 5,840 คัน โดยตลาดหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มนี้ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซียทำยอดขายได้ 901 คัน (+25%) ประเทศเวียตนามทำยอดขายได้ 334 คัน (+25%) และประเทศบรูไนทำยอดขายได้ 213 คัน (+16%)
"เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาตลาดในกลุ่มประเทศที่ขายผ่านระบบตัวแทนนำเข้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าจะยังคงสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง"
นายโรเบิร์ตสัน กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญในการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียอยู่ที่การเพิ่มกำลังการผลิตและการบริหารการผลิตอย่างประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น โรงงานที่เมืองเสิ่นหยางในประเทศจีนจะค่อยๆเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 41,000 คันเป็น 100,000 คันในอนาคต โรงงานนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2003 โดยการร่วมทุนกับกลุ่มบริลเลียนซ์ของประเทศจีน ปัจจุบันผลิตรถยนต์รุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 เพื่อป้อนให้กับตลาดในประเทศจีนโดยเฉพาะ
สำหรับประเทศอินเดีย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะเริ่มการทำตลาดรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle ด้วยการขยายไลน์การประกอบรถยนต์ BMW X1 SAV ที่โรงงานในเมืองเชนไน ซึ่งประกอบรุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 ในปัจจุบัน และในขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะทำการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการเพื่อให้ครอบคลุมอีก 10 เมืองในส่วนต่างๆของประเทศอินเดีย
เอียน โรเบิร์ตสัน กรรมการบริหาร บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี กล่าวว่า ยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่ประเทศจีนในเดือนมกราคมทำได้ 11,919 คัน เพิ่มขึ้น122% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 11,369 คันนั้น ซึ่งเป็นสถิติใหม่และเป็นครั้งแรกที่ยอดขายต่อเดือนทะลุหลัก 10,000 คันสำหรับตลาดประเทศจีน อีกทั้งยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ใหม่ที่ทำได้ถึง 1,705 คัน ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของรถยนต์ระดับซุเปอร์ซาลูนจากบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7
"ตลาดจีนในปี 2009 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิได้ถึง 90,536 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 37.5% เมื่อเทียบกับปี 2008 ดังนั้นเราจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และปีนี้เราตั้งเป้าที่จะเติบโตอีกอย่างน้อย 10% ในตลาดแห่งนี้"
ขณะเดียวกันถ้ามองศักยภาพในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เริ่มลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจังในแต่ละตลาด ซึ่งบริษัทได้เห็นผลสำเร็จของความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับภูมิภาคนี้ ยกตัวอย่างเช่น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ทำยอดขายรวมในปีที่แล้วของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 2,763 คัน เพิ่มขึ้นถึง 20.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยูสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยมได้อีก 5.0% อีกทั้งยังเป็นรายเดียวในเซ็กเมนท์ที่ขยายส่วนแบ่งตลาดได้ในปีที่ผ่านมา
ด้านตลาดอินเดีย ที่บีเอ็มดับเบิลยูได้เข้าเริ่มทำตลาดและตั้งโรงงานประกอบตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศอินเดีย สามารถทำยอดขายได้ถึง 3,619 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัว เมื่อเทียบกับยอดขายของปีค.ศ. 2007 ที่ทำได้ 1,387 คัน ในขณะเดียวกัน ในประเทศเกาหลีใต้ บีเอ็มดับเบิลยูก็สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 23.8% อีกทั้งยังเป็นประเทศอันดับที่ 4 สำหรับยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 เป็นรองเพียงตลาดจีน อเมริกา และเยอรมัน และบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
นอกจากตลาดหลักๆอย่างเช่น ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย ประเทศอินเดีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลีใต้แล้ว ตลาดอื่นๆที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ขายผ่านตัวแทนนำเข้าก็สามารถทำยอดขายในปีที่ผ่านมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ตลาดหลักของตัวแทนนำเข้าในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเติบโตขึ้น 1.5% ปิดยอดขายที่ 5,840 คัน โดยตลาดหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มนี้ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซียทำยอดขายได้ 901 คัน (+25%) ประเทศเวียตนามทำยอดขายได้ 334 คัน (+25%) และประเทศบรูไนทำยอดขายได้ 213 คัน (+16%)
"เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาตลาดในกลุ่มประเทศที่ขายผ่านระบบตัวแทนนำเข้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าจะยังคงสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง"
นายโรเบิร์ตสัน กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญในการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียอยู่ที่การเพิ่มกำลังการผลิตและการบริหารการผลิตอย่างประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น โรงงานที่เมืองเสิ่นหยางในประเทศจีนจะค่อยๆเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 41,000 คันเป็น 100,000 คันในอนาคต โรงงานนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2003 โดยการร่วมทุนกับกลุ่มบริลเลียนซ์ของประเทศจีน ปัจจุบันผลิตรถยนต์รุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 เพื่อป้อนให้กับตลาดในประเทศจีนโดยเฉพาะ
สำหรับประเทศอินเดีย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะเริ่มการทำตลาดรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle ด้วยการขยายไลน์การประกอบรถยนต์ BMW X1 SAV ที่โรงงานในเมืองเชนไน ซึ่งประกอบรุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 ในปัจจุบัน และในขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะทำการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการเพื่อให้ครอบคลุมอีก 10 เมืองในส่วนต่างๆของประเทศอินเดีย