xs
xsm
sm
md
lg

มิคาเอล คอร์ดิส“BMWพร้อมแซงเบนซ์ขึ้นเจ้าตลาด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในยุคบอสใหญ่ “มิคาเอล คอร์ดิส” ดูจะมีความเคลื่อนไหวอันน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งจากโปรดักต์หลากหลาย รวมถึงการทำตลาดเชิงรุกท้าชนคู่แข่งแบบ “ปะ-ฉะ-ดะ” ที่สำคัญในปีที่แล้วยังสร้างความฮือฮา ด้วยการประกาศว่า เร็ววันนี้ตนเองจะต้องขึ้นเบอร์หนึ่งตลาดรถหรูเมืองไทยแทนที่“เมอร์เซเดส-เบนซ์” ให้ได้

มาปีนี้บอสใหญ่ค่ายใบพัดสีฟ้า จะยังมุ่งมั่นในทิศทางเดิม หรือจะนำกลยุทธ์ใดมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย...“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ร่วมสัมภาษณ์ มิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
มิคาเอล คอร์ดิส
สรุปยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูในปี 2552

ปีที่แล้วบีเอ็มดับเบิลยูทำยอดขายได้ 2,356 คัน โต 26% เมื่อเทียบกับปี 2551 (1,876 คัน) สูงกว่าอัตราเติบโต 5% ของตลาดรถหรู (7,585 คัน) ขณะเดียวกันถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว เราถือเป็นค่ายเดียวที่มีตัวเลขการเติบโตสูงขนาดนี้

“ตลาดโลกบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในเซกเมนท์รถหรู ส่วนประเทศไทยเราก็ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะเติบโตสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์หรูเพียงแบรนด์เดียวที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในเซ็กเมนท์อีกด้วย”

ยอดขาย มินิ และมอเตอร์ไซค์ (Motorrad)

มินิ ขายได้ 407 คัน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับปี2551 (413 คัน) ขณะที่มอเตอร์ไซค์ ขายได้ 142 คัน เทียบเท่าปีก่อน(141 คัน)

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

ประการแรกคือเราให้ความสำคัญเรื่องเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาในรถ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคในกลุ่มรถหรู หันมามองเรื่องการประหยัดน้ำมัน และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียเรื่องความสะดวกสบายพร้อมอารมณ์ขับสนุกไป ดังนั้นเทคโนโลยีต่างๆที่เรามีทั้ง เครื่องยนต์ดีเซล ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแปรผันอัตโนมัติ X-Drive หรือยางรันเฟลตที่ใส่มาเป็นมาตรฐานในรถทุกรุ่น ซึ่งทั้งหมดตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้เรายังมีโปรดักต์หลากหลาย โดยทำการเปิดตัวรถใหม่มากกว่า 25 รุ่นในปีที่ผ่านมา พร้อมการตั้งราคาที่สมเหตุสมผล และพยายามรักษาราคาให้อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น หรือคือไม่ลดราคาลงฮวบฮาบ ซึ่งอาจจะมีผลกับราคารถมือสองได้

อีกประการสำคัญไม่แพ้กันคือ เครือข่ายตัวแทนจำหน่าย ที่ปีก่อนต่างลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งตรงนี้ต้องขอบคุณบรรดาดีลเลอร์ที่เป็นพันธมิตรที่ดีของเรา

อย่างไรก็ตามในปีนี้เราเตรียมเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 3 แห่ง ในเขตกรุงเทพ ไล่ตั้งแต่ บางนา รองเมือง พระราม3 และอีก 1 แห่งที่พระราม 9 จะรับบริการหลังการขายอย่างเดียว

“เราต้องการให้ลูกค้าใช้บริการได้สะดวกและทั่วถึง แต่กระนั้นต้องไม่ลืมคู่ค้า(ดีลเลอร์)ของเราด้วย ซึ่งเราต้องตระหนักถึงการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อได้กำไรกลับมาในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลเช่นกัน”
BMW 320i SE รองรับแก็สโซฮอล์ อี20
แผนการตลาดปีนี้

ที่ชัดเจนคือเราพยายามจะขยายไลน์โปรดักต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มหลักและกลุ่มย่อย ล่าสุดได้เปิดตัว BMW 320i SE DVD+Navigator E20 รองรับแก็สโซฮอล์ E20 ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ระบบนำทาง Navigation , DVD, USC Connector และ Comfort Access ในราคา 2.599 ล้านบาท

“ 320i SE เดิมที่ยังไม่สามารถใช้อี20 ได้ราคา 2.749 ล้านบาท ซึ่งส่วนต่างที่หายไป 1.5 แสนบาทส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาษีสรรพสามิตอัตราพิเศษที่ลดลงไป และเราก็คืนกลับไปให้ลูกค้าทั้งหมด ดังนั้นจึงถือว่า320i SE เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่ามากในตลาดรถหรูตอนนี้”

จะปรับให้รถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่นรองรับ อี20 ด้วยหรือไม่

มีแน่นอน ตอนนี้เรากำลังคุยกับลูกค้า และศึกษาความต้องการอยู่ว่าจะมาในรุ่นไหนอย่างไร
โปรดักต์อื่นๆที่เตรียมเปิดตัว

ช่วงเวลาในการเปิดตัวแน่นอนคงไม่สามารถบอกได้ แต่รถใหม่ที่จะทำตลาดปีนี้ก็จะมีทั้ง Z4 sDrive35is, ซีรี่ย์ 3 คูเป้และคอนเวิร์ทติเบิ้ลรุ่นปรับโฉม, เอสยูวี BMW X1 ส่วนแบรนด์มินิจะนำเข้ารุ่นใหม่คือ Countryman ขณะที่ธุรกิจมอเตอร์ไซค์จะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น เช่น BMW S1000RR Superbike และรุ่น R1200 ทั้งในตัวถังแบบ GS, GS Adventure และ RT
BMW X1
MINI Countryman
ซีรีย์ 5 โมเดลเชนจ์

ซีรีย์ 5 โมเดลเชนจ์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลกเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ (เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010) ซึ่งเรามีแผนขึ้นไลน์ผลิตในเมืองไทยช่วงต้นปี 2011 ส่วนการจะทำตลาดก่อน ในรูปแบบนำเข้าทั้งคัน (CBU)หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตและการเจรจากับบริษัทแม่ประเทศเยอรมัน

กังวลเรื่องเกรย์มาร์เก็ตหรือไม่

จริงๆแล้วเราอยากประกาศอย่างเป็นทางการว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยกเลิกนโยบายการให้การรับประกันสินค้าและการให้บริการหลังการขาย สำหรับรถยนต์ BMW และ MINI ที่ไม่ได้จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นนโยบายจากบริษัทแม่ที่จะทำแบบเดียวกันทั่วโลก เพื่อปกป้องแบรนด์ และลูกค้าของเรา

โดยนโยบายดังกล่าวจะเริ่มมีผลหลังจาก BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมนี้ และรวมถึงรุ่นต่างๆที่ตามมาหลังจากนั้น

“เหตุผลหลักของนโยบายใหม่นี้ สืบเนื่องมาจากความแตกต่างของมาตรฐานน้ำมันและไอเสียของรถยนต์ที่จำหน่ายในภูมิภาคยุโรปและในประเทศไทย (เช่น EU3, EU4, EU5) ซึ่งรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะได้รับการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคโดยเฉพาะ เพื่อรองรับความแตกต่างของมาตรฐานดังกล่าว รวมถึงการปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เหมาะสมกับอากาศร้อนในประเทศไทยด้วย”

ทั้งนี้การรับประกันสินค้าจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศที่จำหน่าย ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูหรือมินิที่ได้รับการนำเข้าจากประเทศอังกฤษโดยผู้นำเข้าอิสระ (เกรย์มาร์เก็ต) ก็จะได้รับการรับประกันสินค้าและการให้บริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศอังกฤษเท่านั้น ดังนั้นถ้าอยากจะให้เราซ่อมเราก็คงซ่อมให้ไม่ได้ และคงต้องกลับไปซ่อมที่อังกฤษเท่านั้น
ทีมผู้บริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
มองตลาดรถหรูปีนี้อย่างไร

ตอนนี้อาจจะยังไม่ง่ายในการให้ความเห็น เพราะประเทศไทยยังมีปัจจัยการเมืองที่ยังไม่มั่นคง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เรากังวลมากที่สุด แต่อย่างไรแล้วก็เชื่อว่าตลาดรถหรูจะไม่ตกลงไปกว่าปี 2552 ยอดขายรวมอาจจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

“เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมือง จะเห็นว่าปีนี้จะยังคงเป็นปีที่ท้าทาย แต่เราก็เตรียมพร้อมรับมือ และมุ่งมั่นในการวางรากฐานสร้างความพร้อมในการชิงตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรู นำโดยกลยุทธ์เชิงรุกด้านผลิตภัณฑ์ รวมถึงกลยุทธ์เพื่อความเป็นเลิศด้านการบริการลูกค้า”

เป้าหมายการขายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

เราถือเป็นธรรมเนียมที่ไม่สามารถบอกได้ แต่แน่นอนเรามีตัวเลขตั้งไว้ในใจอยู่แล้ว

จะขึ้นเป็นผู้นำ(ด้านยอดขาย)ตลาดรถหรูเมืองไทยเมื่อไหร่

เราพยายามสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในทุกด้าน ทั้งการสร้างแบรนด์และการให้บริการที่ดีเพื่อความพอใจสูงสุดของลูกค้า เพื่อปูทางสู่การเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถหรู ซึ่งทีมงานบีเอ็มดับเบิลยูทุกคน จะพยายามทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับผู้บริโภค
กำลังโหลดความคิดเห็น