ASTV ผู้จัดการรายวัน - “บีเอ็มดับเบิลยู” ประกาศแตกหักกับผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต ไม่รับประกันสินค้าและบริการรถบีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงแบรนด์ในเครือมินิ ที่ไม่ได้ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการ นับตั้งแต่โฉมใหม่ซีรี่ส์ 5 ที่จะเปิดตัวในตลาดโลกมีนาคมนี้ และรุ่นต่างๆ ที่จะตามมาหลังจากนั้น เหตุรถถูกล็อคระบบและปรับเปลี่ยนทางเทคนิคเฉพาะประเทศนั้นๆ ให้เหมาะสมกับมาตรฐานน้ำมันและไอเสียที่ต่างกันในแต่ละภูมิภาค พร้อมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง หวังชิงตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรู
นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความแตกต่างของมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำมัน และไอเสียของรถยนต์ ในแต่ละภูมิภาคหรือประเทศต่างๆ อย่างในไทยน้ำมันจะมีมาตรฐานระดับยูโร3 แต่ประเทศในยุโรปอยู่ระดับยูโร5 และกำลังจะก้าวไปสู่มาตรฐานยูโร6 แล้ว ทำให้รถยนต์ที่จำหน่ายแต่ละภูมิภาค ต้องปรับเปลี่ยนทางเทคนิครถไม่เหมือนกัน อย่างรถบีเอ็มดับเบิลยูที่จำหน่ายในไทย จะได้รับการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคโดยเฉพาะ เพื่อรองรับความแตกต่างของมาตรฐานดังกล่าว รวมถึงการปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน ให้เหมาะสมกับอากาศร้อนในประเทศไทยด้วย
“เหตุนี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงประกาศยกเลิกนโยบายการให้การรับประกันสินค้า และการให้บริการหลังการขาย สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ที่ไม่ได้จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มมีผลสำหรับรถยนต์รุ่นต่างๆ นับจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 5 รุ่นใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับโลกเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงรุ่นต่างๆ ที่ตามมาหลังจากนั้น”
นายคอร์ดิสกล่าวว่า โดยการรับประกันสินค้าจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศที่จำหน่าย ยกตัวอย่างรถบีเอ็มดับเบิลยู หรือมินิ ที่ได้รับการนำเข้าจากประเทศอังกฤษโดยผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต จะได้รับการรับประกันสินค้าและให้บริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศอังกฤษเท่านั้น เพราะรถยนต์แต่ละคันจะมีรหัส หรือโค้ดของแต่ละประเทศ ดังนั้นหากข้อมูลทางระบบตรวจสอบพบรถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ระบบของรถจะทำการล็อคไม่ให้ปฏิบัติการได้ แม้ทางตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ต้องการจะให้บริการลูกค้าก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่ดำเนินการ
“การที่บีเอ็มดับเบิลยูสร้างระบบดังกล่าว เนื่องจากปัญหามาตรฐานค่าน้ำมัน และไอเสียของรถยนต์แต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน โดยเฉพาะรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง แต่ปรากฎว่ามีผู้นำเข้ารถจากภูมิภาคหนึ่งมาจำหน่ายในอีกภูมิภาคหนึ่ง เช่นเกรย์มาร์เก็ตได้นำเข้ารถจากอังกฤษ ซึ่งได้ปรับทางเทคนิครองรับมาตรฐานของยุโรปโดยเฉพาะ เมื่อนำเข้ามาขายให้กับผู้บริโภคในไทย ซึ่งมีมาตรฐานน้ำมันต่ำกว่า ทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหา และสร้างความเข้าใจผิดให้กับลูกค้า ส่งผลเสียต่อแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ว่าไม่รับประกันสินค้าและให้บริการหลังการขาย กับรถยนต์ที่ไม่ได้ซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเกรย์มาร์เก็ตจะนำเข้าซี่รี่ส์ 5 รุ่นใหม่ มาจำหน่ายก่อนบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย”
นายคอร์ดิสกล่าวว่า ส่วนการดำเนินธุรกิจของในไทย บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ของตลาดรถระดับหรูหราในไทย หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมียอดขายเติบโตมากถึง 26% ขยายตัวสูงสุดในกลุ่มรถพรีเมี่ยม แม้จะยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ก็ตาม แต่จากแนวโน้มในช่วงปลายปีที่แล้ว แสดงให้เห็นทิศทางที่เป็นไปได้ทีเดียว โดยในปีนี้จะมุ่งที่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ และการวางพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านการสร้างแบรนด์และการให้บริการที่ดี เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
ในส่วนของแผนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเป็นที่ 1 จึงต้องครอบคลุมตั้งแต่การขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่ายและบริการเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด และเพิ่มศักยภาพการบริการ เพื่อความพีงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดย 3 แห่งจะเป็นศูนย์จำหน่ายและบริการเต็มรูปแบบ และอีก 1 แห่งเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มศักยภาพการบริการลูกค้า คือ ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร BMW Training Academy ซึ่งพร้อมดำเนินงานเต็มรูปแบบ ทั้งการอบรมด้านเทคนิคและบริหารการให้บริการ สำหรับทั้งในส่วนการขายและบริการหลังการขาย
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปีนี้จะมีการแนะนำสู่ตลาดทั้งในกลุ่มหลักและกลุ่มย่อย โดยล่าสุดได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320i SE DVD+Navigator E20 ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 จึงได้ปรับลดราคาลงตามอัตราภาษีสรรพสามิตที่ลดลง โดยมีราคาจำหน่าย 2.599 ล้านบาท ปรับลดลงจากเดิม 1.5 แสนบาท
นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความแตกต่างของมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำมัน และไอเสียของรถยนต์ ในแต่ละภูมิภาคหรือประเทศต่างๆ อย่างในไทยน้ำมันจะมีมาตรฐานระดับยูโร3 แต่ประเทศในยุโรปอยู่ระดับยูโร5 และกำลังจะก้าวไปสู่มาตรฐานยูโร6 แล้ว ทำให้รถยนต์ที่จำหน่ายแต่ละภูมิภาค ต้องปรับเปลี่ยนทางเทคนิครถไม่เหมือนกัน อย่างรถบีเอ็มดับเบิลยูที่จำหน่ายในไทย จะได้รับการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคโดยเฉพาะ เพื่อรองรับความแตกต่างของมาตรฐานดังกล่าว รวมถึงการปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน ให้เหมาะสมกับอากาศร้อนในประเทศไทยด้วย
“เหตุนี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงประกาศยกเลิกนโยบายการให้การรับประกันสินค้า และการให้บริการหลังการขาย สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ที่ไม่ได้จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มมีผลสำหรับรถยนต์รุ่นต่างๆ นับจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 5 รุ่นใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับโลกเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงรุ่นต่างๆ ที่ตามมาหลังจากนั้น”
นายคอร์ดิสกล่าวว่า โดยการรับประกันสินค้าจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศที่จำหน่าย ยกตัวอย่างรถบีเอ็มดับเบิลยู หรือมินิ ที่ได้รับการนำเข้าจากประเทศอังกฤษโดยผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต จะได้รับการรับประกันสินค้าและให้บริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศอังกฤษเท่านั้น เพราะรถยนต์แต่ละคันจะมีรหัส หรือโค้ดของแต่ละประเทศ ดังนั้นหากข้อมูลทางระบบตรวจสอบพบรถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ระบบของรถจะทำการล็อคไม่ให้ปฏิบัติการได้ แม้ทางตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ต้องการจะให้บริการลูกค้าก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่ดำเนินการ
“การที่บีเอ็มดับเบิลยูสร้างระบบดังกล่าว เนื่องจากปัญหามาตรฐานค่าน้ำมัน และไอเสียของรถยนต์แต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน โดยเฉพาะรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง แต่ปรากฎว่ามีผู้นำเข้ารถจากภูมิภาคหนึ่งมาจำหน่ายในอีกภูมิภาคหนึ่ง เช่นเกรย์มาร์เก็ตได้นำเข้ารถจากอังกฤษ ซึ่งได้ปรับทางเทคนิครองรับมาตรฐานของยุโรปโดยเฉพาะ เมื่อนำเข้ามาขายให้กับผู้บริโภคในไทย ซึ่งมีมาตรฐานน้ำมันต่ำกว่า ทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหา และสร้างความเข้าใจผิดให้กับลูกค้า ส่งผลเสียต่อแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ว่าไม่รับประกันสินค้าและให้บริการหลังการขาย กับรถยนต์ที่ไม่ได้ซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเกรย์มาร์เก็ตจะนำเข้าซี่รี่ส์ 5 รุ่นใหม่ มาจำหน่ายก่อนบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย”
นายคอร์ดิสกล่าวว่า ส่วนการดำเนินธุรกิจของในไทย บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ของตลาดรถระดับหรูหราในไทย หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมียอดขายเติบโตมากถึง 26% ขยายตัวสูงสุดในกลุ่มรถพรีเมี่ยม แม้จะยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ก็ตาม แต่จากแนวโน้มในช่วงปลายปีที่แล้ว แสดงให้เห็นทิศทางที่เป็นไปได้ทีเดียว โดยในปีนี้จะมุ่งที่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ และการวางพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านการสร้างแบรนด์และการให้บริการที่ดี เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
ในส่วนของแผนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเป็นที่ 1 จึงต้องครอบคลุมตั้งแต่การขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่ายและบริการเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด และเพิ่มศักยภาพการบริการ เพื่อความพีงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดย 3 แห่งจะเป็นศูนย์จำหน่ายและบริการเต็มรูปแบบ และอีก 1 แห่งเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มศักยภาพการบริการลูกค้า คือ ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร BMW Training Academy ซึ่งพร้อมดำเนินงานเต็มรูปแบบ ทั้งการอบรมด้านเทคนิคและบริหารการให้บริการ สำหรับทั้งในส่วนการขายและบริการหลังการขาย
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปีนี้จะมีการแนะนำสู่ตลาดทั้งในกลุ่มหลักและกลุ่มย่อย โดยล่าสุดได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320i SE DVD+Navigator E20 ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 จึงได้ปรับลดราคาลงตามอัตราภาษีสรรพสามิตที่ลดลง โดยมีราคาจำหน่าย 2.599 ล้านบาท ปรับลดลงจากเดิม 1.5 แสนบาท
