xs
xsm
sm
md
lg

วินิจ ปรุงพาณิช “A.C.T.ดูแลรถ ดูแลคุณ...ดันยอด 1,500ล้าน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร่วม 2 ปีที่ บริดจสโตนโฮลดิ้งส์ ประเทศไทย เข้าไปเทคโอเวอร์กิจการ “เชลล์ออโต้เซิร์ฟ” พร้อมตั้งบริษัท บริดจสโตน เอ.ที.ซี (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาบริหารจัดการภายใต้แบรนด์ A.C.T หรือ “แอค” ถึงวันนี้ความต่อเนื่องในการทำตลาด รวมถึงทิศทางธุรกิจศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ครบวงจรแบบ “ควิกเซอร์วิส”เป็นอย่างไร... “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ร่วมสัมภาษณ์ วินิจ ปรุงพาณิช กรรมการผู้จัดการ บริดจสโตน เอ.ซี.ที ประเทศไทย
วินิจ ปรุงพาณิช
2 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง

หลังการเข้าไปซื้อกิจการจากเจ้าของเดิม เราเริ่มรีแบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ “แอค” ให้ชัดเจน เห็นได้จากการทยอยปรับโฉมสาขาต่างๆ ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนเครื่องมือและเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง ซึ่งถ้านับเฉพาะเงินลงทุนส่วนนี้ก็ใช้ไปเกือบ 200 ล้าานบาทแล้ว (ไม่รวมค่าเทคโอเวอร์และงบการตลาด)

ปัจจุบันแอคมีทั้งหมด 67 สาขาทั่วประเทศ เป็นการดำเนินงานโดยบริษัทเอง ไม่มีคู่ค้าอื่นหรือปล่อยเฟรนไชส์ โดยบริษัทจะมุ่งทำสาขาในปัจจุบันให้เข้มแข็งและได้มาตรฐาน ดังจะเห็นได้จากการปรับโฉมใหม่ ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในระยะยาว

ทั้งนี้ในปี 2552 เราขยายสาขาเพิ่มไปแล้ว 2 แห่ง ที่ทุ่งครุ กรุงเทพฯ และแยกสนามบิน จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมดำเนินการปรับโฉมใหม่ให้กับ 5 สาขาในเขตกรุงเทพ ซึ่งได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดรายรับรวมในปีที่ผ่านมาถึง 1,300 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2551

แล้วต่อไปจะขายเป็นเฟรนไชส์หรือไม่

การลงทุนดำเนินกิจการแอค แต่ละสาขาจะต้องใช้เงินประมาณ 15-18 ล้านบาทไม่นับรวมค่าที่ดิน แต่ตอนนี้เรายังไม่มีนโยบายทำเฟรนไชส์

การเปลี่ยนภาพลักษณ์หรือปรับศูนย์บริการมีผลอย่างไรบ้าง

หลังการปรับโฉม ที่แต่ละสาขาต้องใช้เงินประมาณ 1-4 ล้านบาท ซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยสาขาที่ปรับแล้วจะทำยอดขายเพิ่มอย่างน้อย 10%

กลุ่มลูกค้าของ “แอค”

“แอค” เป็นศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ครบวงจร ที่กลุ่มลูกค้าส่วนมาก จะใช้รถแบบบ้านๆ ไม่แต่งรถหรือมีรถเพื่อการใช้งานจริงๆ ขณะเดียวกันก็เป็นคนรักรถแต่ไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องรถนัก ที่สำคัญจะเน้นไปที่ความปลอดภัยมากกว่า

รายได้หลักของ “แอค”

รายได้หลักของเรามาจากการขาย(เปลี่ยน)ยางที่มีสัดส่วนกว่า 60% อีก 10-15% เป็นบริการน้ำมันเครื่อง และอื่นๆ 25% ดังนั้นในธุรกิจยางบริษัทคาดว่าจะยังเติบโตได้อีกมาก และแม้ยางที่แอคให้บริการกว่า 90% จะเป็นของบริดจสโตน แต่ในกรณีที่ลูกค้ามีความต้องการยางยี่ห้ออื่น แอคก็สามารถจัดหาให้ได้เช่นกัน

“ในศูนย์บริการแอค ธุรกิจยางมีมูลค่าสูงสุด ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราขาย(เปลี่ยน)ไปกว่า 2.5-2.6 แสนเส้น ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตอีก 20% หรือจำนวน 3 แสนเส้นเป็นอย่างน้อย”

เป้าหมายปีนี้

เราจะยังยึดมั่นการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นรักษาคุณภาพและมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับ ในปี 2553เราหวังจะทำยอดรายได้ถึง1,400-1,500 ล้านบาท หรือเติบโต 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2552

การแข่งขันและแผนการตลาดของ “แอค”

สำหรับทิศทางของตลาดรวมธุรกิจออโต้แคร์ในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการใช้รถที่มีอยู่ โดยจะใช้จ่ายไปกับการบำรุงรักษารถยนต์ เพื่อให้ได้รถที่มีสภาพดีพร้อมและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งในส่วนของแอคยังมุ่งเน้นการสร้าง และรักษาจุดแข็งในหลายๆด้าน ทั้งการคัดสรรสินค้าคุณภาพ การจัดหาอุปกรณ์อันทันสมัย การอบรมพัฒนาบุคลากรให้มีทั้งความรู้ความชำนาญ ให้สมกับคำว่า “We ACT as your Safety Partner” หรือ “ดูแลรถ ดูแลคุณ”

เรามีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างเหนียวแน่น พร้อมมีแผนดำเนินการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ โดยปีนี้เรามุ่งเน้นเรื่องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการทำโฆษณาผ่านสื่อบิลบอร์ด สื่อสิ่งพิมพ์ และกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ โดยได้วางงบสื่อสารการตลาดไว้ 80-100 ล้านบาท

ข้อมูลทั่วไป

“แอค” (A.C.T) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-21.00.น.โดยมีสินค้าและบริการตั้งแต่
- ผลิตภัณฑ์ยางมากรุ่น หลายยี่ห้อ ทั้งเก๋ง ปิกอัพ เอสยูวี ฯ
- บริการตั้งศูนย์ สลับยาง ถ่วงล้อ
- บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
- บริการเปลี่ยนโช้คอัพและผ้าเบรก
- บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทั้งในและนอกสถานที่
- บริการตรวจเช็คตามระยะทาง และบริการตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัย “ACT Safety Check”
กำลังโหลดความคิดเห็น