“อยากเปลี่ยนสีรถ” ความต้องการของคนมีรถที่มักจะมีคำถามและปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง จะไปทำอู่สีที่ไหน ทำออกมาดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ เสียเวลาทำก็นานแล้วไหนจะเสียราคาตอนขายต่อเพราะเปลี่ยนสี ที่สำคัญคือเสียเงินมากมายโดยใช่เหตุ แถมถ้าทำออกมาไม่ดี รถเสียคุณค่าในตัวเองไป ดูแล้วการเปลี่ยนสีรถมีแต่เรื่องเสียกับเสียเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว ประกอบกับวิวัฒนาการของวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน ทำให้การเปลี่ยนสีรถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และเหนืออื่นใด คุณค่าของรถไม่เสียไปแม้แต่น้อย “ เอ็กโซติก ฟิล์ม” เทคนิคการเปลี่ยนสีที่ใช้เวลา 2 วันกับการได้สีรถใหม่ และเสียเวลาเพียง 2 ชั่วโมงกับการคืนกลับมาเป็นสีเดิม
ทีมงาน ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง สัมภาษณ์ “ดานิเอเล โบนาโต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้า เทคโนโลยีใหม่ของการเปลี่ยนสีรถยนต์มาสู่เมืองไทย
เทคโนโลยีใหม่คืออะไร?
เป็นฟิล์มเปลี่ยนสีรถ ผลิตจากประเทศเยอรมัน โดยเป็นวัสดุพลาสติกพีวีซี(PVC)ชนิดพิเศษเพื่อการห่อหุ้ม(Wrap)รถทั้งคันโดยเฉพาะ ซึ่งเราจะไม่มีการทำร้ายสีเดิมของรถแต่อย่างใด รถจะถูกห่อหุ้มด้วยฟิล์มทั้งคัน และลูกค้าสามารถเลือกสีได้ทุกสี เลือกแบบได้ทุกลายที่ต้องการ
ทั้งนี้ข้อดีคือ สีรถเดิมยังคงอยู่และได้รับการปกป้องด้วยฟิล์มที่ติดเข้าไปใหม่อีกด้วย นอกจากนั้นยังสะดวก รวดเร็ว ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้สีรถเดิมเสียหาย เนื่องจากฟิล์มที่ติดเข้าไปจะมีส่วนผสมของกาวอยู่เพียงเล็กน้อย แต่จะใช้ทักษะในการติดเพื่อให้ฟิล์มคงอยู่บนตัวถัง ดูภายนอกแล้วสีรถจะสวยงามไม่แตกต่างจากการพ่นสี
การติดตั้ง?
สำหรับการติดตั้งจะใช้เวลา 2 วันต่อรถ 1 คัน โดยใช้ทีมช่าง 1 ชุด แต่หากเบื่อสีที่ติดไปแล้วอยากเปลี่ยนใหม่ ก็สามารถลอกฟิล์มออกได้โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และอย่างที่บอกไป การลอกฟิล์มออกจะไม่ทำร้ายสีรถเดิมอย่างแน่นอน
ตัวอย่างการเปลี่ยนสีรถด้วยการติดฟิล์มทั้งคัน สามารถเห็นได้เยอะในรถที่อยู่แถบตะวันออกกลาง ซึ่งเทคโนโลยีการเปลี่ยนสีด้วยฟิล์มนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับรถสปอร์ตระดับซุเปอร์คาร์หลากหลายรุ่น
เทคนิคการติดตั้งจะใช้ความชำนาญของช่างและคุณสมบัติของฟิล์ม โดยเราจะมีการถอดชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เช่น กันชนหน้าและกันชันหลัง ขึ้นกับรถแต่ละคัน ดังนั้นรถจะไม่ได้รับความเสียหายหรือช้ำจากการถูกถอดชิ้นส่วน
อายุการใช้งาน?
ฟิล์มเปลี่ยนสีรถของเราจะมีอายุการใช้งานราว 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิล์มที่เลือกใช้และสภาพการใช้งาน ซึ่งการดูแลรักษาก็เหมือนกับรถปกติ สามารถล้างรถและเคลือบสีด้วยแว็กซ์หรือใช้ยาขัดเงาสีรถได้เหมือนรถทำสีทั่วไป
ส่วนกรณีหากเกิดความเสียหายเช่น โดนขีดข่วน หรือถลอก สามารถซ่อมเฉพาะชิ้นส่วนได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ฟิล์มที่ห่อหุ้มเข้าไปจะไม่สามารถปกปิดรอยบุบหรือลักยิ้ม รวมถึงการที่สีไม่เรียบ (ที่เป็นเม็ดหยาบ) เนื่องจากเป็นการหุ้มแนบชิดกับพื้นผิว
ราคาเท่าไหร่?
ราคาจะขึ้นอยู่กับ 2 ส่วนคือ 1. ชนิดของฟิล์มที่เลือก โดยมีหลายระดับราคาตั้งแต่ ต่ำ,กลาง และสูง จำแนกตามประเภทและคุณสมบัติของสี เช่น สีธรรมดาทั่วไปและสีพิเศษ 2. ขนาดของพื้นผิวที่จะติดตั้งโดยราคาเริ่มต้นสำหรับการห่อหุ้มแบบทั้งคันคือ 35,000 บาท รถเล็กสีธรรมดา ไปจนถึงแพงสุดประมาณ 60,000 บาท สีพิเศษ แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าอยากติดเพียงชิ้นเดียวหรือ 2 ชิ้นก็สามารถมาติดตั้งได้ รวมถึงการอยากให้เราทำลวดลายพิเศษอย่างไร เราสามารถทำให้ได้หมดทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ลายเสือ ลายงู แม้กระทั่งลวยลายรูปใบหน้าของเจ้าของรถก็ติดให้ได้เช่นกัน ส่วนสีที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ สีเคฟล่าร์ และสีดำด้าน
เริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างไร?
แต่เดิมผมเป็นคนขายรถสปอร์ตจำพวกซุเปอร์คาร์ในดูไบ แล้วเห็นว่ารถที่ลูกค้าสั่งซื้อจำนวนไม่น้อยมีการสั่งเปลี่ยนสีโดยใช้ฟิล์มตั้งแต่ก่อนรับรถ และเมื่อผมเข้ามาอยู่ในเมืองไทย เนื่องจากภรรยา(คนไทย) อยากกลับมาอยู่บ้าน จึงได้นำการเปลี่ยนสีรถโดยใช้ฟิล์มเข้ามาทดลองทำตลาดดู เพราะจากที่เห็นในดูไบ การเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์มได้รับการตอบรับดีมาก เมืองไทยก็น่าจะพอทำตลาดได้
ซึ่งผลตอบรับหลังจากเปิดดำเนินการมาได้ 2 เดือน ถือว่าดีมากเกินคาด เดือนแรก เรามียอดติดตั้ง 15 คัน ซึ่งก็คือเต็มความสามารถของทีมช่างของเรา เนื่องจากรถ 1 คันต้องใช้เวลาติดตั้ง 2 วัน
ทิศทางในอนาคต?
ตลาดของฟิล์มเปลี่ยนสีรถน่าจะเติบโตได้อีกมาก เรามีการวางแผนเตรียมขยายสาขา คาดว่าจะเพิ่มให้เป็นราว 3-4 แห่งกระจายตามมุมเมืองของกรุงเทพฯ ตอนนี้ที่เล็งไว้ คือบางนาและปิ่นเกล้า แต่คงจะไม่มากกว่านี้เพราะต้องควบคุมคุณภาพการติดตั้งให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
รู้อย่างนี้แล้วใครกำลังเบื่อสีรถของตัวเองหรือมีหมอดูทักว่าสีไม่ถูกโฉลกอยากเปลี่ยนสี โดยไม่เสียคุณค่าของรถไป “เอ็กโซติก ฟิล์ม” น่าจะเป็นหนึ่งในทางออกที่ตอบสนองได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว ประกอบกับวิวัฒนาการของวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน ทำให้การเปลี่ยนสีรถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และเหนืออื่นใด คุณค่าของรถไม่เสียไปแม้แต่น้อย “ เอ็กโซติก ฟิล์ม” เทคนิคการเปลี่ยนสีที่ใช้เวลา 2 วันกับการได้สีรถใหม่ และเสียเวลาเพียง 2 ชั่วโมงกับการคืนกลับมาเป็นสีเดิม
ทีมงาน ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง สัมภาษณ์ “ดานิเอเล โบนาโต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้า เทคโนโลยีใหม่ของการเปลี่ยนสีรถยนต์มาสู่เมืองไทย
เทคโนโลยีใหม่คืออะไร?
เป็นฟิล์มเปลี่ยนสีรถ ผลิตจากประเทศเยอรมัน โดยเป็นวัสดุพลาสติกพีวีซี(PVC)ชนิดพิเศษเพื่อการห่อหุ้ม(Wrap)รถทั้งคันโดยเฉพาะ ซึ่งเราจะไม่มีการทำร้ายสีเดิมของรถแต่อย่างใด รถจะถูกห่อหุ้มด้วยฟิล์มทั้งคัน และลูกค้าสามารถเลือกสีได้ทุกสี เลือกแบบได้ทุกลายที่ต้องการ
ทั้งนี้ข้อดีคือ สีรถเดิมยังคงอยู่และได้รับการปกป้องด้วยฟิล์มที่ติดเข้าไปใหม่อีกด้วย นอกจากนั้นยังสะดวก รวดเร็ว ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้สีรถเดิมเสียหาย เนื่องจากฟิล์มที่ติดเข้าไปจะมีส่วนผสมของกาวอยู่เพียงเล็กน้อย แต่จะใช้ทักษะในการติดเพื่อให้ฟิล์มคงอยู่บนตัวถัง ดูภายนอกแล้วสีรถจะสวยงามไม่แตกต่างจากการพ่นสี
การติดตั้ง?
สำหรับการติดตั้งจะใช้เวลา 2 วันต่อรถ 1 คัน โดยใช้ทีมช่าง 1 ชุด แต่หากเบื่อสีที่ติดไปแล้วอยากเปลี่ยนใหม่ ก็สามารถลอกฟิล์มออกได้โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และอย่างที่บอกไป การลอกฟิล์มออกจะไม่ทำร้ายสีรถเดิมอย่างแน่นอน
ตัวอย่างการเปลี่ยนสีรถด้วยการติดฟิล์มทั้งคัน สามารถเห็นได้เยอะในรถที่อยู่แถบตะวันออกกลาง ซึ่งเทคโนโลยีการเปลี่ยนสีด้วยฟิล์มนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับรถสปอร์ตระดับซุเปอร์คาร์หลากหลายรุ่น
เทคนิคการติดตั้งจะใช้ความชำนาญของช่างและคุณสมบัติของฟิล์ม โดยเราจะมีการถอดชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เช่น กันชนหน้าและกันชันหลัง ขึ้นกับรถแต่ละคัน ดังนั้นรถจะไม่ได้รับความเสียหายหรือช้ำจากการถูกถอดชิ้นส่วน
อายุการใช้งาน?
ฟิล์มเปลี่ยนสีรถของเราจะมีอายุการใช้งานราว 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิล์มที่เลือกใช้และสภาพการใช้งาน ซึ่งการดูแลรักษาก็เหมือนกับรถปกติ สามารถล้างรถและเคลือบสีด้วยแว็กซ์หรือใช้ยาขัดเงาสีรถได้เหมือนรถทำสีทั่วไป
ส่วนกรณีหากเกิดความเสียหายเช่น โดนขีดข่วน หรือถลอก สามารถซ่อมเฉพาะชิ้นส่วนได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ฟิล์มที่ห่อหุ้มเข้าไปจะไม่สามารถปกปิดรอยบุบหรือลักยิ้ม รวมถึงการที่สีไม่เรียบ (ที่เป็นเม็ดหยาบ) เนื่องจากเป็นการหุ้มแนบชิดกับพื้นผิว
ราคาเท่าไหร่?
ราคาจะขึ้นอยู่กับ 2 ส่วนคือ 1. ชนิดของฟิล์มที่เลือก โดยมีหลายระดับราคาตั้งแต่ ต่ำ,กลาง และสูง จำแนกตามประเภทและคุณสมบัติของสี เช่น สีธรรมดาทั่วไปและสีพิเศษ 2. ขนาดของพื้นผิวที่จะติดตั้งโดยราคาเริ่มต้นสำหรับการห่อหุ้มแบบทั้งคันคือ 35,000 บาท รถเล็กสีธรรมดา ไปจนถึงแพงสุดประมาณ 60,000 บาท สีพิเศษ แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าอยากติดเพียงชิ้นเดียวหรือ 2 ชิ้นก็สามารถมาติดตั้งได้ รวมถึงการอยากให้เราทำลวดลายพิเศษอย่างไร เราสามารถทำให้ได้หมดทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ลายเสือ ลายงู แม้กระทั่งลวยลายรูปใบหน้าของเจ้าของรถก็ติดให้ได้เช่นกัน ส่วนสีที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ สีเคฟล่าร์ และสีดำด้าน
เริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างไร?
แต่เดิมผมเป็นคนขายรถสปอร์ตจำพวกซุเปอร์คาร์ในดูไบ แล้วเห็นว่ารถที่ลูกค้าสั่งซื้อจำนวนไม่น้อยมีการสั่งเปลี่ยนสีโดยใช้ฟิล์มตั้งแต่ก่อนรับรถ และเมื่อผมเข้ามาอยู่ในเมืองไทย เนื่องจากภรรยา(คนไทย) อยากกลับมาอยู่บ้าน จึงได้นำการเปลี่ยนสีรถโดยใช้ฟิล์มเข้ามาทดลองทำตลาดดู เพราะจากที่เห็นในดูไบ การเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์มได้รับการตอบรับดีมาก เมืองไทยก็น่าจะพอทำตลาดได้
ซึ่งผลตอบรับหลังจากเปิดดำเนินการมาได้ 2 เดือน ถือว่าดีมากเกินคาด เดือนแรก เรามียอดติดตั้ง 15 คัน ซึ่งก็คือเต็มความสามารถของทีมช่างของเรา เนื่องจากรถ 1 คันต้องใช้เวลาติดตั้ง 2 วัน
ทิศทางในอนาคต?
ตลาดของฟิล์มเปลี่ยนสีรถน่าจะเติบโตได้อีกมาก เรามีการวางแผนเตรียมขยายสาขา คาดว่าจะเพิ่มให้เป็นราว 3-4 แห่งกระจายตามมุมเมืองของกรุงเทพฯ ตอนนี้ที่เล็งไว้ คือบางนาและปิ่นเกล้า แต่คงจะไม่มากกว่านี้เพราะต้องควบคุมคุณภาพการติดตั้งให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
รู้อย่างนี้แล้วใครกำลังเบื่อสีรถของตัวเองหรือมีหมอดูทักว่าสีไม่ถูกโฉลกอยากเปลี่ยนสี โดยไม่เสียคุณค่าของรถไป “เอ็กโซติก ฟิล์ม” น่าจะเป็นหนึ่งในทางออกที่ตอบสนองได้