ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1932 Audiwerke, Horchwerke และ Zschopauer Motorenwerke/DKWได้รวมตัวกันแล้วตั้งเป็นบริษัทชื่อว่า Auto Union AG รวมถึงการได้ร่วมทำข้อตกลงกับ Wanderer Werkeในการเป็นพันธมิตรร่วมกันและใช้โลโก้ของบริษัทใหม่เป็นรูปแหวนทรงกลมสี่ห่วงร้อยเรียงกันดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ นัยว่าวงแหวนแต่ละวงแทน แหวนแต่งงานและเมื่อนำแหวนแต่งงานมาร้อยกัน 4 วงก็จะกลายเป็นการรวมตัวกันของ Auto Union
การรวมตัวกันของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 4 แบรนด์ ทำให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันและผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายในแบรนด์ต่างๆ ภายใต้โลโก้เดียวกัน แต่แล้วไม่นานสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้นทำให้โรงงานผลิตรถของ Auto Union AG ต้องยุติการผลิตรถยนต์ชั่วคราวโดย ปี 1940 เป็นปีสุดท้ายที่รถออดี้คันสุดท้ายปล่อยออกจากสายการผลิต
ยุคใหม่ใน Ingolstadt
หลังสงครามโลกยุติในปี 1945 โรงงานส่วนใหญ่ของ Auto Union AG อยู่ในเขตปกครองของรัสเซีย ดังนั้นผู้ร่วมกิจการจึงตัดสินใจได้ย้ายฐานการผลิตมายังฝั่งตะวันตก โดยเลือกเมืองอิงโกลสตัดท์ ในแคว้นบาวาเรีย และได้เริ่มผลิตอะไหล่ให้กับรถที่ยังใช้อยู่
ปี 1949 เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Auto Union GmbH และเริ่มทำการผลิตรถ DKWเครื่องยนต์ 2 จังหวะโดยเป็นรถแวน DKW F 89 L และรถมอเตอร์ไซค์ DKW RT 125W เปิดตัวครั้งแรกในงานฮันโนเวอร์แฟร์
ต่อมาปี 1954 Friedrich Flick ผู้มีสิทธิมีเสียงมากที่สุดใน Auto Union GmbH ได้วางยุทธศาสตร์ใหม่ด้วยการมองหาหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งสำหรับบริษัทและทำให้ Daimler-Benz AG เข้ามาถือหุ้นถึง 88% ในบริษัทเมื่อปี 1958 และเพิ่มเป็น 100%ในปีต่อมา
ถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง
การลดลงของยอดจำหน่ายเครื่องยนต์แบบสองจังหวะในช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ทำให้ Ludwig Kraus ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Auto Union GmbH ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาเป็น 4 สูบ 4 จังหวะ ของเดมเลอร์-เบนซ์ นำมาใช้กับ DKW F102และชื่อของออดี้ ก็ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
หลังจากนั้น โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และดำเนินกิจการทั้งหมดแทนเดมเลอร์ ในปี 1964โดยเปิดตัว ออดี้ 100 อย่างเป็นทางการครั้งแรกเดือน พ.ย. 1968 ต่อมาในปี 1969 โฟล์ค กรุ๊ป ได้รวม Auto Union GmbH กับ Neckarsulm Motorenwerke AG เข้าด้วยกันโดยใช้ชื่อว่า Audi NSU Auto Union AG พร้อมทั้งใช้สโลแกนในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ตั้งแต่ปี 1971 ว่า “Vorsprung durch Technik”
จาก ออดี้100 ตามมาด้วย ออดี้80 ในปี 1972 ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมใหม่ของโลกยานยนต์เช่น เครื่องยนต์ 5 สูบ (ปี 1976), ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ (ปี 1979) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อQuattro (1980) รวมถึงการได้รับจารึกด้านการผลิตว่าเป็นรถที่มีจำนวนผลิตมากกว่า 1 ล้านคัน
ในปี 1985 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Audi AG โดยใช้มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับการเป็นค่ายรถที่บุกเบิกเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายเช่น เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ เครื่องยนต์ดีเซลระบบไดเรคอินเจคชั่น ตัวถังอะลูมิเนียม และเครื่องยนต์เบนซินระบบไดเรคอินเจคชั่น เป็นต้น
ถึงวันนี้ ออดี้ ผ่านการดำเนินงานและบุกเบิกยานยนต์มาเป็นเวลากว่า 100 ปี แล้ว และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
การรวมตัวกันของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 4 แบรนด์ ทำให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันและผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายในแบรนด์ต่างๆ ภายใต้โลโก้เดียวกัน แต่แล้วไม่นานสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้นทำให้โรงงานผลิตรถของ Auto Union AG ต้องยุติการผลิตรถยนต์ชั่วคราวโดย ปี 1940 เป็นปีสุดท้ายที่รถออดี้คันสุดท้ายปล่อยออกจากสายการผลิต
ยุคใหม่ใน Ingolstadt
หลังสงครามโลกยุติในปี 1945 โรงงานส่วนใหญ่ของ Auto Union AG อยู่ในเขตปกครองของรัสเซีย ดังนั้นผู้ร่วมกิจการจึงตัดสินใจได้ย้ายฐานการผลิตมายังฝั่งตะวันตก โดยเลือกเมืองอิงโกลสตัดท์ ในแคว้นบาวาเรีย และได้เริ่มผลิตอะไหล่ให้กับรถที่ยังใช้อยู่
ปี 1949 เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Auto Union GmbH และเริ่มทำการผลิตรถ DKWเครื่องยนต์ 2 จังหวะโดยเป็นรถแวน DKW F 89 L และรถมอเตอร์ไซค์ DKW RT 125W เปิดตัวครั้งแรกในงานฮันโนเวอร์แฟร์
ต่อมาปี 1954 Friedrich Flick ผู้มีสิทธิมีเสียงมากที่สุดใน Auto Union GmbH ได้วางยุทธศาสตร์ใหม่ด้วยการมองหาหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งสำหรับบริษัทและทำให้ Daimler-Benz AG เข้ามาถือหุ้นถึง 88% ในบริษัทเมื่อปี 1958 และเพิ่มเป็น 100%ในปีต่อมา
ถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง
การลดลงของยอดจำหน่ายเครื่องยนต์แบบสองจังหวะในช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ทำให้ Ludwig Kraus ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Auto Union GmbH ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาเป็น 4 สูบ 4 จังหวะ ของเดมเลอร์-เบนซ์ นำมาใช้กับ DKW F102และชื่อของออดี้ ก็ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
หลังจากนั้น โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และดำเนินกิจการทั้งหมดแทนเดมเลอร์ ในปี 1964โดยเปิดตัว ออดี้ 100 อย่างเป็นทางการครั้งแรกเดือน พ.ย. 1968 ต่อมาในปี 1969 โฟล์ค กรุ๊ป ได้รวม Auto Union GmbH กับ Neckarsulm Motorenwerke AG เข้าด้วยกันโดยใช้ชื่อว่า Audi NSU Auto Union AG พร้อมทั้งใช้สโลแกนในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ตั้งแต่ปี 1971 ว่า “Vorsprung durch Technik”
จาก ออดี้100 ตามมาด้วย ออดี้80 ในปี 1972 ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมใหม่ของโลกยานยนต์เช่น เครื่องยนต์ 5 สูบ (ปี 1976), ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ (ปี 1979) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อQuattro (1980) รวมถึงการได้รับจารึกด้านการผลิตว่าเป็นรถที่มีจำนวนผลิตมากกว่า 1 ล้านคัน
ในปี 1985 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Audi AG โดยใช้มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับการเป็นค่ายรถที่บุกเบิกเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายเช่น เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ เครื่องยนต์ดีเซลระบบไดเรคอินเจคชั่น ตัวถังอะลูมิเนียม และเครื่องยนต์เบนซินระบบไดเรคอินเจคชั่น เป็นต้น
ถึงวันนี้ ออดี้ ผ่านการดำเนินงานและบุกเบิกยานยนต์มาเป็นเวลากว่า 100 ปี แล้ว และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง