“อีซูซุ” ค่ายรถที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับวงการรถปิกอัพของเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การใช้เครื่องยนต์ดีเซลในรถปิกอัพเป็นครั้งแรก, การเปิดตัวรถปิกอัพแบบตอนครึ่งหรือ สเปคแค็บ, การผลิตรถปิกอัพแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และการนำเกียร์อัตโนมัติมาใส่ไว้กับรถปิกอัพ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดอีซูซุคือเจ้าแรกของการทำตลาด และล่าสุดกับการเปิดตัว “ไอ-จีนี่(i-GENii)” ครั้งแรกของระบบนำทางติดรถยนต์ในปิกอัพจากโรงงานผู้ผลิตซึ่งมาพร้อมกับการเผยโฉม “อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม”
เหมือนเช่นเคย หลังการเปิดตัว อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม โฉมล่าสุดไม่นาน ทางค่ายตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จัดทริปท่องเที่ยวให้กับสื่อมวลชนมีโอกาสสัมผัสและทดลองใช้ระบบนำทางใหม่ล่าสุด ที่มากับสโลแกนกิ๊บเก๋ติดปากว่า “อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม นำทางรวย”
นัดแนะเตรียมพร้อมกันที่ตึกของบริษัท ตรีเพชร ช่วงเวลาเช้า เราถูกกำหนดให้ประจำการในรถ “ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม แคบ4 แอลเอส (Cab4 LS)” ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา ที่มาพร้อมกับระบบนำทาง ไอ-จีนี่ แรกเริ่มเดิมทีผู้เขียนจะขับก่อนแต่ทางผู้ร่วมเดินทาง “สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา” จากมติชน ขอให้ผมเป็นผู้โดยสารก่อนเพื่อจะได้ลองเล่นระบบนำทางดูว่ายากง่ายเพียงไร
ไม่มีปัญหา จะขับก่อนขับหลังเรื่องเล็ก ผู้เขียนจึงเข้าประจำการในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมกับการเปิดเครื่องเสียงยี่ห้อ เคนวูด(Kenwood) หน้าจอระบบสัมผัสแบบ 2 DINขนาด 7 นิ้ว ที่ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์แสดงผลได้ทั้งระบบนำทาง, ดีวีดี, โทรทัศน์ และวิทยุ
ขอย้อนกลับไปสักนิดก่อนขึ้นรถผู้เขียนได้สอบถามทีมงานผู้จัดการเดินทางครั้งนี้ “พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ” ถึงระบบนำทาง ไอ-จีนี่ ว่าได้มีการทดลองขับดูในเส้นทางจริงแล้วหรือยัง คำตอบคือ “เรียบร้อยแล้วและเซ็ทตำแหน่งจุดหมายที่จะเดินทางไปทั้งหมดอย่างครบถ้วน สบายใจได้ไม่มีหลงแน่นอน”
ซึ่งจากข้อมูลที่เราทราบมาจากทีมงานทำให้เรามีความมั่นใจอย่างหนึ่งว่า การเดินทางครั้งนี้ระบบนำทางคงรู้จักทุกสถานที่ที่เราไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราเปิดหน้าจอ กดเลือกNAV เพื่อเข้าสู่โหมดแสดงผลระบบนำทาง จากนั้นกด “ยอมรับ” ตามเงื่อนไขเพื่อเข้าสู่เมนูหลัก ของไอ-จีนี่
เมื่ออยู่หน้าเมนูหลัก เรากดเลือก “ค้นหาตำแหน่ง” จากนั้นกดเลือก “ที่ใช้ประจำ” แล้วก็กด จุดหมายแรก “ปั๊มปตท.” และกดนำทาง หน้าจอก็แสดงผลการนำทางไปยังจุดหมายปั๊มปตท. แค่นี้เสร็จสิ้น โดยกระบวนการเซทเพื่อนำทางทั้งหมดกินเวลาไม่ถึง 10 วินาที และต้องบอกกว่า นี่คือครั้งแรกของผู้เขียนที่ได้มาพบกับซอฟแวร์ระบบนำทางไอ-จีนี่
ทันทีที่ผู้เขียนบอกกับผู้ขับว่า "พี่ครับ นำทางเรียบร้อยแล้ว" ผู้ขับถึงกับออกอาการ ตกใจ เล็กน้อยว่า ทำไมมันง่ายและรวดเร็วอะไรขนาดนั้น ซึ่งความจริงผู้เขียนก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่แกล้งทำหน้านิ่งๆ เอาไว้
การแสดงผลของไอ-จีนี่ นำทางเราด้วยเส้นนำทางสีโดดเด่นชัดเจน พร้อมกับแสดงข้อมูลอื่นๆ อีกหลายรายการเช่น ระยะทางในการเลี้ยว, ความเร็ว, แสดงตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน และเวลาถึงจุดหมาย
เราขับกันมาถึงจุดหมายแรกแบบไม่กลัวหลง แม้จะมีปั๊ม ปตท. อยู่หลายแห่ง แต่ ไอ-จีนี่ ระบุตำแหน่งชัดเจน พร้อมการบอกว่าระยะที่จะถึงจุดหมายตามความเหมาะสม เช่นเมื่อเจอทางแยกหรือจุดตัด หลังจากพักเรียบร้อยขบวนอีซูซุออกเดินทางต่อเพื่อไปยัง ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค
เราใช้ไอ-จีนี่ นำทางเหมือนเดิม ด้วยระยะเวลาการเซทจุดหมายไม่ถึง 10 วินาที เฉกเช่นครั้งแรก ซึ่งระหว่างการขับช่วงนี้ มีรถบางคันในขบวนที่ขับนำหน้า ไม่เชื่อการนำทางของไอ-จีนี่(หรือไม่ก็ไม่ได้เปิดระบบนำทาง) เผลอขับเลยจุดเลี้ยวและเมื่อถึงทางแยกตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปทางไหนดี รอจนรถของเราที่เชื่อการนำทางของไอ-จีนี่ขับนำผ่านไป เขาจึงขับตามมา
ตัวอย่างเล็กๆ เช่นกรณีดังกล่าว แสดงให้เราเห็นถึงประโยชน์ของระบบนำทางอย่างชัดเจน เมื่อเราต้องขับไปในเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน และไอ-จีนี่ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อนำทางเราไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ
หลังออกจากฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค ถึงคิวของเรามานั่งประจำการในตำแหน่งผู้ขับบ้าง พละกำลัง 163 แรงม้า ของเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน(VGS) อินเตอร์คูลเลอร์ แรงเหลือเฟือ ออกตัวทันใจ แถมเสียงเครื่องยนต์ที่มักจะดังทะลุเข้ามาในห้องโดยสารในรุ่นเก่าๆ กลับเบาลงไปเยอะ
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เราได้ขับในครั้งนี้ โหมดปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนระหว่าง 2 ล้อและ 4 ล้อ สามารถทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยระบบไฟฟ้า Touch-on-the-fly พร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปลดปัญหาล้อหมุนฟรีขณะขับขี่บนทางลื่น ซึ่งเราได้ทดลองใช้ด้วย ความแตกต่างรู้สึกว่า เมื่อเป็นโหมดขับ 4 ล้อ(H4)ความเร็วสูง รถจะรู้สึกหนีดและติดถนนมากกว่าแบบขับ 2 ล้อ
กลับมาเข้าเรื่องของการใช้ระบบไอ-จีนี่ นำทางกันต่อ จุดหมายสุดท้ายของทริปอยู่ที่ ชาโต เดอ เขาใหญ่ รีสอร์ท ไอ-จีนี่ นำเรามาถึงแต่ช่วงท้ายมีสับสนเล็กน้อยเนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จ100% และมีทางเข้าออกได้ 2 ทาง ซึ่งไอ-จีนี่นำทางเราไปสุด ณ ทางเข้าที่ยังสร้างไม่เสร็จซึ่งจะขับถึงก่อนทางเข้าอีกประตูที่สร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องหาทางไปต่อเองโดยไม่มีการนำทางจากไอ-จีนี่ แต่ก็เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ และไม่หลง ซึ่งกรณีนี้ไม่ถือว่า ไอ-จีนี่นำทางผิดหรือพลาดแต่อย่างใด
ขณะที่ขากลับผู้เขียนขับกลับมือเดียวจากเขาใหญ่ถึงสำนักงานใหญ่ของอีซูซุ บนถนนวิภาวดี โดยไม่ได้ใช้ไอ-จีนี่นำทาง บอกได้คำเดียวว่า “ถ้าไม่รู้ทางมาก่อนผมคงหลงอยู่ในเขาใหญ่ เสียทั้งน้ำมันไปฟรีๆและเสียเวลาอีกนานแน่นอนครับพี่น้อง”
เหมือนเช่นเคย หลังการเปิดตัว อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม โฉมล่าสุดไม่นาน ทางค่ายตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จัดทริปท่องเที่ยวให้กับสื่อมวลชนมีโอกาสสัมผัสและทดลองใช้ระบบนำทางใหม่ล่าสุด ที่มากับสโลแกนกิ๊บเก๋ติดปากว่า “อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม นำทางรวย”
นัดแนะเตรียมพร้อมกันที่ตึกของบริษัท ตรีเพชร ช่วงเวลาเช้า เราถูกกำหนดให้ประจำการในรถ “ดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม แคบ4 แอลเอส (Cab4 LS)” ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา ที่มาพร้อมกับระบบนำทาง ไอ-จีนี่ แรกเริ่มเดิมทีผู้เขียนจะขับก่อนแต่ทางผู้ร่วมเดินทาง “สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา” จากมติชน ขอให้ผมเป็นผู้โดยสารก่อนเพื่อจะได้ลองเล่นระบบนำทางดูว่ายากง่ายเพียงไร
ไม่มีปัญหา จะขับก่อนขับหลังเรื่องเล็ก ผู้เขียนจึงเข้าประจำการในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมกับการเปิดเครื่องเสียงยี่ห้อ เคนวูด(Kenwood) หน้าจอระบบสัมผัสแบบ 2 DINขนาด 7 นิ้ว ที่ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์แสดงผลได้ทั้งระบบนำทาง, ดีวีดี, โทรทัศน์ และวิทยุ
ขอย้อนกลับไปสักนิดก่อนขึ้นรถผู้เขียนได้สอบถามทีมงานผู้จัดการเดินทางครั้งนี้ “พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ” ถึงระบบนำทาง ไอ-จีนี่ ว่าได้มีการทดลองขับดูในเส้นทางจริงแล้วหรือยัง คำตอบคือ “เรียบร้อยแล้วและเซ็ทตำแหน่งจุดหมายที่จะเดินทางไปทั้งหมดอย่างครบถ้วน สบายใจได้ไม่มีหลงแน่นอน”
ซึ่งจากข้อมูลที่เราทราบมาจากทีมงานทำให้เรามีความมั่นใจอย่างหนึ่งว่า การเดินทางครั้งนี้ระบบนำทางคงรู้จักทุกสถานที่ที่เราไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราเปิดหน้าจอ กดเลือกNAV เพื่อเข้าสู่โหมดแสดงผลระบบนำทาง จากนั้นกด “ยอมรับ” ตามเงื่อนไขเพื่อเข้าสู่เมนูหลัก ของไอ-จีนี่
เมื่ออยู่หน้าเมนูหลัก เรากดเลือก “ค้นหาตำแหน่ง” จากนั้นกดเลือก “ที่ใช้ประจำ” แล้วก็กด จุดหมายแรก “ปั๊มปตท.” และกดนำทาง หน้าจอก็แสดงผลการนำทางไปยังจุดหมายปั๊มปตท. แค่นี้เสร็จสิ้น โดยกระบวนการเซทเพื่อนำทางทั้งหมดกินเวลาไม่ถึง 10 วินาที และต้องบอกกว่า นี่คือครั้งแรกของผู้เขียนที่ได้มาพบกับซอฟแวร์ระบบนำทางไอ-จีนี่
ทันทีที่ผู้เขียนบอกกับผู้ขับว่า "พี่ครับ นำทางเรียบร้อยแล้ว" ผู้ขับถึงกับออกอาการ ตกใจ เล็กน้อยว่า ทำไมมันง่ายและรวดเร็วอะไรขนาดนั้น ซึ่งความจริงผู้เขียนก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่แกล้งทำหน้านิ่งๆ เอาไว้
การแสดงผลของไอ-จีนี่ นำทางเราด้วยเส้นนำทางสีโดดเด่นชัดเจน พร้อมกับแสดงข้อมูลอื่นๆ อีกหลายรายการเช่น ระยะทางในการเลี้ยว, ความเร็ว, แสดงตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน และเวลาถึงจุดหมาย
เราขับกันมาถึงจุดหมายแรกแบบไม่กลัวหลง แม้จะมีปั๊ม ปตท. อยู่หลายแห่ง แต่ ไอ-จีนี่ ระบุตำแหน่งชัดเจน พร้อมการบอกว่าระยะที่จะถึงจุดหมายตามความเหมาะสม เช่นเมื่อเจอทางแยกหรือจุดตัด หลังจากพักเรียบร้อยขบวนอีซูซุออกเดินทางต่อเพื่อไปยัง ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค
เราใช้ไอ-จีนี่ นำทางเหมือนเดิม ด้วยระยะเวลาการเซทจุดหมายไม่ถึง 10 วินาที เฉกเช่นครั้งแรก ซึ่งระหว่างการขับช่วงนี้ มีรถบางคันในขบวนที่ขับนำหน้า ไม่เชื่อการนำทางของไอ-จีนี่(หรือไม่ก็ไม่ได้เปิดระบบนำทาง) เผลอขับเลยจุดเลี้ยวและเมื่อถึงทางแยกตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปทางไหนดี รอจนรถของเราที่เชื่อการนำทางของไอ-จีนี่ขับนำผ่านไป เขาจึงขับตามมา
ตัวอย่างเล็กๆ เช่นกรณีดังกล่าว แสดงให้เราเห็นถึงประโยชน์ของระบบนำทางอย่างชัดเจน เมื่อเราต้องขับไปในเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน และไอ-จีนี่ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อนำทางเราไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ
หลังออกจากฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค ถึงคิวของเรามานั่งประจำการในตำแหน่งผู้ขับบ้าง พละกำลัง 163 แรงม้า ของเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน(VGS) อินเตอร์คูลเลอร์ แรงเหลือเฟือ ออกตัวทันใจ แถมเสียงเครื่องยนต์ที่มักจะดังทะลุเข้ามาในห้องโดยสารในรุ่นเก่าๆ กลับเบาลงไปเยอะ
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เราได้ขับในครั้งนี้ โหมดปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนระหว่าง 2 ล้อและ 4 ล้อ สามารถทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยระบบไฟฟ้า Touch-on-the-fly พร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปลดปัญหาล้อหมุนฟรีขณะขับขี่บนทางลื่น ซึ่งเราได้ทดลองใช้ด้วย ความแตกต่างรู้สึกว่า เมื่อเป็นโหมดขับ 4 ล้อ(H4)ความเร็วสูง รถจะรู้สึกหนีดและติดถนนมากกว่าแบบขับ 2 ล้อ
กลับมาเข้าเรื่องของการใช้ระบบไอ-จีนี่ นำทางกันต่อ จุดหมายสุดท้ายของทริปอยู่ที่ ชาโต เดอ เขาใหญ่ รีสอร์ท ไอ-จีนี่ นำเรามาถึงแต่ช่วงท้ายมีสับสนเล็กน้อยเนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จ100% และมีทางเข้าออกได้ 2 ทาง ซึ่งไอ-จีนี่นำทางเราไปสุด ณ ทางเข้าที่ยังสร้างไม่เสร็จซึ่งจะขับถึงก่อนทางเข้าอีกประตูที่สร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องหาทางไปต่อเองโดยไม่มีการนำทางจากไอ-จีนี่ แต่ก็เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ และไม่หลง ซึ่งกรณีนี้ไม่ถือว่า ไอ-จีนี่นำทางผิดหรือพลาดแต่อย่างใด
ขณะที่ขากลับผู้เขียนขับกลับมือเดียวจากเขาใหญ่ถึงสำนักงานใหญ่ของอีซูซุ บนถนนวิภาวดี โดยไม่ได้ใช้ไอ-จีนี่นำทาง บอกได้คำเดียวว่า “ถ้าไม่รู้ทางมาก่อนผมคงหลงอยู่ในเขาใหญ่ เสียทั้งน้ำมันไปฟรีๆและเสียเวลาอีกนานแน่นอนครับพี่น้อง”