หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย ถือโอกาสชวนสื่อมวลชนเยี่ยมศูนย์บริการมินิ เอกมัย เพื่อแสดงศักยภาพด้านบริการของตัวแทนจำหน่ายมิลเลนเนียม ออโต้ รวมถึงสรุปสภาพตลาดตลอดปีที่ผ่านมา และทิศทางที่กำลังจะมุ่งไปในอนาคต...“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” สัมภาษณ์
- สรุปสถานการณ์ของมินิ
แม้ปีนี้ตลาดรถยนต์จะได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจบ้าง แต่ในส่วนของ มินิ เอง ยังทำยอดได้ตามเป้า หรืออาจจะดีกว่าที่คาดการไว้ด้วยซ้ำ คือต้นปีเราคิดว่าจะขายประมาณ 350 คัน แต่ตอนนี้ปรับเป้าเป็น 400 คันแล้ว ซึ่งรุ่นที่ขายดีสุดยังเป็นพวก คูเปอร์ เอส
- แผนการตลาดปลายปี
เราเตรียมเข้าร่วมงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เดือนธันวาคมนี้ พร้อมเปิดตัวรถมินิตกแต่งพิเศษ 2 รุ่นคือ มินิ เมย์แฟร์ และมินิ แคมเดน โดยนำเข้ามาอย่างละ 5 คัน ขณะเดียวกันยังมีแคมเปญพิเศษเอาใจลูกค้าอีกด้วย
- โปรดักต์ใหม่ในปีหน้า
มินิ ครอสโอเวอร์ คงจะมาแน่ๆในปีหน้า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยช่วงเวลาเปิดตัวที่แน่นอนได้
- แผนทำตลาด มินิ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษา และพัฒนา แม้เราเข้าใจว่ามีความต้องการจากลูกค้าชาวไทย แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
-มีแผนเพิ่มดีลเลอร์ขายมินิหรือไม่(ตอนนี้ให้ มิลเลนเนียม ขายอยู่เจ้าเดียว)
เราได้โควต้านำเข้ามาขายจาก มินิ อังกฤษ อยู่ประมาณ 300 – 400 คัน ต่อปี ซึ่งปริมาณดังกล่าวเหมาะสมกับ ดีลเลอร์ ในปัจจุบันแล้ว และ 5-7 ปี จากนี้ ยังไม่มีแผนจะเพิ่ม อย่างไรก็ตามในส่วนของศูนย์บริการนั้นจะต้องขยายให้เหมาะสมกับจำนวนลูกค้าแน่นอน
- ตลาดมีความต้องการมินิเยอะมากแต่เมื่อมีผู้ขายรายเดียวจะมีผลเรื่องราคา หรือการผูกขาดหรือไม่
ปกติเรื่องการวางราคา มินิ ประเทศไทยจะเป็นผู้กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งเราก็พิจารณาราคาของคู่แข่งประกอบด้วย (กฤษฎา อุตตโมทย์ ยกตัวอย่าง เกรย์มาร์เก็ต และ โฟล์คสวาเกน ซิรอคโค)และแม้ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ถือเป็นราคาที่เหมาะสม สามารถแข่งขันได้ในท้องตลาด
- ปัญหาใดที่คุณหนักใจที่สุดในการเข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป มินิ
ผมทำงานกับ บีเอ็มดับเบิลยู มา 8 ปี ดูแลดีลเลอร์ วางแผนการขาย รวมถึงยูสคาร์ (บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเลคชัน) ซึ่งการได้รับโอกาสให้มารับผิดชอบแบรนด์ มินิ ถือว่ามีความท้าทายมาก และต่างจากการขาย บีเอ็มดับเบิลยูพอสมควร
“ถ้าเปรียบบีเอ็มดับเบิลยูเหมือนผู้ใหญ่ มินิ ก็จะเป็นพวกวัยรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผมพยายามจะเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า พร้อมดูว่าลูกค้าต้องการอะไรและตอบสนองในสิ่งที่เขาต้องการให้ได้ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าฐานลูกค้ามินิในไทยยังขยายได้มากกว่านี้ และนั่นคืองานของผม”
- สรุปสถานการณ์ของมินิ
แม้ปีนี้ตลาดรถยนต์จะได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจบ้าง แต่ในส่วนของ มินิ เอง ยังทำยอดได้ตามเป้า หรืออาจจะดีกว่าที่คาดการไว้ด้วยซ้ำ คือต้นปีเราคิดว่าจะขายประมาณ 350 คัน แต่ตอนนี้ปรับเป้าเป็น 400 คันแล้ว ซึ่งรุ่นที่ขายดีสุดยังเป็นพวก คูเปอร์ เอส
- แผนการตลาดปลายปี
เราเตรียมเข้าร่วมงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เดือนธันวาคมนี้ พร้อมเปิดตัวรถมินิตกแต่งพิเศษ 2 รุ่นคือ มินิ เมย์แฟร์ และมินิ แคมเดน โดยนำเข้ามาอย่างละ 5 คัน ขณะเดียวกันยังมีแคมเปญพิเศษเอาใจลูกค้าอีกด้วย
- โปรดักต์ใหม่ในปีหน้า
มินิ ครอสโอเวอร์ คงจะมาแน่ๆในปีหน้า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยช่วงเวลาเปิดตัวที่แน่นอนได้
- แผนทำตลาด มินิ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษา และพัฒนา แม้เราเข้าใจว่ามีความต้องการจากลูกค้าชาวไทย แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
-มีแผนเพิ่มดีลเลอร์ขายมินิหรือไม่(ตอนนี้ให้ มิลเลนเนียม ขายอยู่เจ้าเดียว)
เราได้โควต้านำเข้ามาขายจาก มินิ อังกฤษ อยู่ประมาณ 300 – 400 คัน ต่อปี ซึ่งปริมาณดังกล่าวเหมาะสมกับ ดีลเลอร์ ในปัจจุบันแล้ว และ 5-7 ปี จากนี้ ยังไม่มีแผนจะเพิ่ม อย่างไรก็ตามในส่วนของศูนย์บริการนั้นจะต้องขยายให้เหมาะสมกับจำนวนลูกค้าแน่นอน
- ตลาดมีความต้องการมินิเยอะมากแต่เมื่อมีผู้ขายรายเดียวจะมีผลเรื่องราคา หรือการผูกขาดหรือไม่
ปกติเรื่องการวางราคา มินิ ประเทศไทยจะเป็นผู้กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งเราก็พิจารณาราคาของคู่แข่งประกอบด้วย (กฤษฎา อุตตโมทย์ ยกตัวอย่าง เกรย์มาร์เก็ต และ โฟล์คสวาเกน ซิรอคโค)และแม้ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ถือเป็นราคาที่เหมาะสม สามารถแข่งขันได้ในท้องตลาด
- ปัญหาใดที่คุณหนักใจที่สุดในการเข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป มินิ
ผมทำงานกับ บีเอ็มดับเบิลยู มา 8 ปี ดูแลดีลเลอร์ วางแผนการขาย รวมถึงยูสคาร์ (บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเลคชัน) ซึ่งการได้รับโอกาสให้มารับผิดชอบแบรนด์ มินิ ถือว่ามีความท้าทายมาก และต่างจากการขาย บีเอ็มดับเบิลยูพอสมควร
“ถ้าเปรียบบีเอ็มดับเบิลยูเหมือนผู้ใหญ่ มินิ ก็จะเป็นพวกวัยรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผมพยายามจะเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า พร้อมดูว่าลูกค้าต้องการอะไรและตอบสนองในสิ่งที่เขาต้องการให้ได้ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าฐานลูกค้ามินิในไทยยังขยายได้มากกว่านี้ และนั่นคืองานของผม”