xs
xsm
sm
md
lg

ควบBT-50…ป้ายหน้า“ปิล็อก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมืองหลวงช่วงเดือนสิงหาคม ดูจะชุ่มช่ำกันถ้วนหน้าจากฝนฟ้าที่เทกระหน่ำ บ้างก็ว่าดีแล้วดับร้อน แต่บ้างก็บ่นกับการจราจรอันแสนติดขัด ยิ่งบางพื้นที่ระบายน้ำไม่ทัน อาจทำให้หลายคนต้องแลกแข้งตะลุยความเปียกระดับหัวเข่า!... ผู้เขียนตัดใจหนีความลำบากสัญจรในกรุงเทพ ด้วยการเกาะทริปทดสอบรถยนต์มาสด้า ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี

ฟังเผินๆเหมือนจะไปใกล้ๆแค่ “เมืองกาญ” แต่เมื่อถามอย่างละเอียดแล้ว....โน้นครับ “เหมืองปิล๊อก” อำเภอทองผาภูมิ คือจากกรุงเทพไปตัวเมืองกาญจนบุรีอาจใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 120 - 130 กิโลเมตร แต่ถ้าคุณเลือกเป้าหมายป้ายหน้าเป็นเหมืองดีบุกสุดเขตชายแดนไทย เวลาและระยะทางดังกล่าวต้องบวกเพิ่มไปอย่างน้อยเท่าตัว

...แต่ดีนะว่าพาหนะที่ใช้ในทริปนี้เป็น ปิกอัพขับสนุก BT-50 ผู้เขียนจึงไม่ลังเลที่จะขอติดขบวนไปด้วย!(555)


จริงๆแล้วมาสด้าถือโอกาสที่ BT-50 มีการปรับหน้าตาเล็กน้อย (น้อยจริงๆเรียกว่าไม่บอกไม่รู้) ให้กับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูง “ไฮ-เรเซอร์” จึงได้จัดทริปทดสอบนี้ขึ้นมา โดยรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปมีทั้ง ลายขอบกันชนหน้า กรอบไฟตัดหมอก ฝาถังน้ำมันโครเมียม และสติกเกอร์ Hi-Racer+ลายใหม่ ส่วนการตกแต่งภายใน รวมถึงรายละเอียดทางวิศวกรรมอย่างช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ไม่ได้ไปแตะต้องอะไร

ผู้เขียนพร้อมเพื่อนร่วมทางจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้ BT-50 Hi-Racer+ ตัวถังฟรีสไตล์แค็บ รุ่นท็อป (มีเครื่องหมายบวกต่อท้ายจะเสริมออปชันความปลอดภัยอย่าง ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง) มาเป็นพาหนะซึ่งความประทับใจแรกก็เริ่มตั้งแต่ความอเนกประสงค์ของแค็บเปิดได้ เพราะพวกกระเป๋าสัมภาระ เสบียงกรัง ไปจนถึงถังน้ำแข็งใบโต สามารถอัดไว้ตรงที่ว่างหลังคนขับ-ผู้โดยสารได้สบาย ที่สำคัญยังขนย้ายเข้าออกสะดวกอีกด้วย

แม้ตัวถังรวมๆจะเล็กกว่า เพื่อนปิกอัพในท้องตลาด แต่การนั่งในตำแหน่งคนขับหรือผู้โดยสารด้านหน้ายังสบายๆ เบาะนั่งนุ่มกำลังดี ขณะที่ตำแหน่งคนขับให้วิสัยทัศน์อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ส่วนแค็บเปิดได้ก็อเนกประสงค์อย่างที่กล่าวไป เว้นแต่ใครจะเลือกซื้อรุ่นตัวถังดับเบิ้ลแค็บ อันนี้ด้อยกว่าปิกอัพญี่ปุ่นทุกเจ้า

เราออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 8 โมงเช้า ขับกันไปเรื่อยๆความเร็วประมาณ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จอดแวะพักเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำกินกาแฟตามสมควร เที่ยงกว่าๆก็ถึงอำเภอทองผาภูมิแล้ว ซึ่งหลังการได้ขับทางยาวๆในช่วงแรก BT-50 ไฮ-เรเซอร์ ยังคงบุคลิกเดิมๆ คือ เครื่องยนต์ WLC ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 143 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน-เมตร ให้การตอบสนองดีเยี่ยม ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่สับคล่องเปลี่ยนเกียร์ง่าย ให้ทั้งความสนุกพร้อมถ่ายทอดกำลังได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าถ้ารถประเภท ขับสองยกสูง ไม่เน้นบรรทุกหรือลุยหนัก เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร นี่เหลือเฟือแล้ว



หลังโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังที่ตัวอำเภอทองผาภูมิ คณะเราก็มุ่งหน้าต่อไปยังอำเภอบ้านไร่ ก่อนเข้าไปยังหุบเขาคดเคี้ยว (ชาวบ้านเรียก 399 โค้ง) ที่ตลอดเส้นทางเป็นถนนแคบ ซ้ายภูเขาขวาหน้าผา ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขึ้นมาอีกนิด แต่กระนั้นแล้วด้วยช่วงล่างอันหนึบแน่นของ BT-50 ก็เอาอยู่ทุกโค้ง สบายใจได้

...เพราะรับฝนมากว่า 2 เดือน ทำให้เส้นทางประมาณ 30 กิโลเมตรที่เราขับผ่านดูร่มรื่น จากต้นไม้ใบหญ้าที่แข่งกันผลิดอกออกใบ หรือถ้ามองข้ามไปยังภูเขาลูกอื่นก็มีแต่ความเขียวขจีชุ่มชื่น สุดลูกหูลูกตา

เราใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ผ่านเส้นทาง 399 โค้ง จากนั้นจะมีทางตัดเข้าซอยซ้ายไปยังตัวที่พัก อีกประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนดินสลับหินแข็งๆ และแม้ป้ายจะแนะนำให้รถที่ขับเข้าไป ต้องเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น แต่ “ออฟโรดปลอม” อย่างไฮ-เรเซอร์ ก็ไม่เกี่ยงครับ สามารถตะกุยผ่านทางชัน เนินสูงไปได้ไร้ปัญหา (แต่ถ้าช่วงฝนตกดินลื่นก็ไม่แน่) จนแดดร่มลมตกประมาณบ่าย 3 โมง คณะ BT-50 ก็มาถึงจุดหมายคือ “เหมืองสมศักดิ์” รีสอร์ทชื่อดังของย่านนี้

ความเหนื่อยที่เราดั้นด้นมาเกินครึ่งวัน กับระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอการต้อนรับอันอบอุ่นจากเจ้าของสถานที่ พร้อมอาหารว่างอย่าง เค้กอบใหม่หลากรส ผสมนมเนยและท็อปปิ้งไม่อั้น สไตล์ชาวบ้านทำเอง (โฮมเมด) เสิร์ฟกับชาร้อนหอมกรุ่น หรือใครจะเลือกเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้ว เพิ่มความสดชื่นยามบ่ายได้ดีทีเดียว

ณ ที่นี้ เรายังมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนน้ำตกใกล้ๆที่คงความงามบริสุทธิ์ หินก้อนน้อยใหญ่เหมือนธรรมชาติจงใจขัดให้เลี่ยมเงางาม น้ำที่ผ่านมาจากธารแร่เดิมใสสะอาดสบายตัว พอตกดึกบรรยากาศเริ่มเย็น มีสายลมโชยอ่อนๆ พร้อมอาหารอร่อย ปรุงจากวัตถุดิบบ้านๆที่หาได้ตามป่าเขา ทั้งผักสดๆ หน่อไม้หวานๆ ปลาทอดตัวโตที่เพิ่งจับมาจากเขื่อน หรือจะเลือกเสิร์ฟเองย่างเองกับบาร์บีคิวเนื้อนุ่ม ที่เตรียมเอาไว้ไม่อั้น

ด้านกลุ่มเพื่อนพร้อมใจตั้งวงสนทนา ย้อนคุยถึงเส้นทางที่ผ่านมาตลอดวันกับ BT-50 สมรรถนะอันยอดเยี่ยมที่พาเรามาเจอกับธรรมชาติอันอุดมซ้อนเร้น และคัดกรองนักท่องเที่ยวโดยความมุ่งมั่นตั้งใจ…..พร้อมดาวเดือนเต็มฟ้าสรวลเสเฮฮากันไม่รู้หลับ แต่ทำไมหนึ่งราตรีที่ “ปิล๊อก” มันช่างสั้นนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น