ข่าวในประเทศ – เจ้าพ่อตลาดรถปิกอัพ “อีซูซุ” เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 กะรองรับตลาดรถยนต์ฟื้น หลังลดกำลังการผลิตเหลือกะเดียวตั้งแต่ต้นปี ตั้งเป้าปีนี้ในประเทศขายดีแมคซ์แตะ 100,000 คันหลังเปิดตัวรถใหม่ ระบุวิกฤตการเงินทำตลาดส่งออกยุโรปและตะวันออกกลางกระทบหนัก เบนเข็มหาตลาดใหม่รุกเข้าออสเตรเลีย กระแสตอบรับดี
ชิเงรุ วากาบายาชิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบไปทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2551 และทำให้ตลาดรถยนต์มียอดขายลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลดกำลังการผลิตลงเหลือเพียงกะเดียวตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น สังเกตุจากยอดขายของรถยนต์ปิกอัพในเดือนสิงหาคมมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อน ดังนั้นเพื่อรองรับกับกำลังซื้อที่คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติ บริษัทฯ ได้เริ่มกลับมาผลิตรถแบบ 2 กะ อีกครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
“เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการฟื้นตัวของตลาดรถปิกอัพ เราได้เริ่มผลิตรถจำนวน 2 กะอีกครั้งหลังจากหยุดเหลือเพียงกะเดียวไปเมื่อต้นปี ซึ่งมีการจ้างพนักงานชั่วคราวกลับเข้ามาทำงานเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่เต็มกำลังการผลิตเดิม แต่ถือเป็นสัญญาณดีของตลาดรถยนต์ โดยเรามีการวิเคราะห์ตลาดทุกเดือน” วากาบายาชิกล่าว
สำหรับการส่งออก ตลาดอาเซียนไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยอดสั่งซื้อยังคงอยู่ในภาวะปกติ แต่ตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้คือ ตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนแต่คาดว่าสภาพตลาดน่าจะดีขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งบริษัทฯ หาตลาดใหม่เพื่อรองรับการส่งออกเช่น ประเทศออสเตรเลีย
“เดิมเราส่งออกไปออสเตรเลียโดยทำตลาดภายใต้แบรนด์ โฮลเด้น แต่ล่าสุดบริษัทฯ รุกเข้าออสเตรเลียและทำตลาดภายใต้ชื่อของ อีซูซุ เองซึ่งรถทั้งหมดเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยแล้วส่งไปขาย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวออสเตรเลีย”
วากาบายาชิ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ไทย เมื่อต้นปีได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินอย่างมากเพื่อ บริษัทฯ ไฟแนนซ์ เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ลูกค้าโดยเฉพาะของรถปิกอัพ ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งจะมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่านเกณฑ์การขออนุมัติสินเชื่อได้ จึงเห็นยอดขายรถปิกอัพลดลงมากกว่ารถประเภทอื่น
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายปีตลาดรถจะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น เนื่องจากผลิตผลทางการเกษตรเริ่มออกจำหน่าย ทำให้เกษตรกรมีรายได้ และเป็นฤดูการขายรถ ประกอบกับอีซูซุเองได้ออกรถรุ่นใหม่คือ อีซูซุ ดี-แมคซ์ ซุเปอร์ แพลททินั่ม และมิว-7 ซุปเปอร์แพลททินั่ม น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ราว 100,000 คันสำหรับรถปิกอัพดี-แมคซ์ และ6,000 คันสำหรับมิว-7
ชิเงรุ วากาบายาชิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบไปทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2551 และทำให้ตลาดรถยนต์มียอดขายลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลดกำลังการผลิตลงเหลือเพียงกะเดียวตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น สังเกตุจากยอดขายของรถยนต์ปิกอัพในเดือนสิงหาคมมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อน ดังนั้นเพื่อรองรับกับกำลังซื้อที่คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติ บริษัทฯ ได้เริ่มกลับมาผลิตรถแบบ 2 กะ อีกครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
“เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการฟื้นตัวของตลาดรถปิกอัพ เราได้เริ่มผลิตรถจำนวน 2 กะอีกครั้งหลังจากหยุดเหลือเพียงกะเดียวไปเมื่อต้นปี ซึ่งมีการจ้างพนักงานชั่วคราวกลับเข้ามาทำงานเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่เต็มกำลังการผลิตเดิม แต่ถือเป็นสัญญาณดีของตลาดรถยนต์ โดยเรามีการวิเคราะห์ตลาดทุกเดือน” วากาบายาชิกล่าว
สำหรับการส่งออก ตลาดอาเซียนไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยอดสั่งซื้อยังคงอยู่ในภาวะปกติ แต่ตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้คือ ตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนแต่คาดว่าสภาพตลาดน่าจะดีขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งบริษัทฯ หาตลาดใหม่เพื่อรองรับการส่งออกเช่น ประเทศออสเตรเลีย
“เดิมเราส่งออกไปออสเตรเลียโดยทำตลาดภายใต้แบรนด์ โฮลเด้น แต่ล่าสุดบริษัทฯ รุกเข้าออสเตรเลียและทำตลาดภายใต้ชื่อของ อีซูซุ เองซึ่งรถทั้งหมดเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยแล้วส่งไปขาย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวออสเตรเลีย”
วากาบายาชิ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ไทย เมื่อต้นปีได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินอย่างมากเพื่อ บริษัทฯ ไฟแนนซ์ เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ลูกค้าโดยเฉพาะของรถปิกอัพ ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งจะมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่านเกณฑ์การขออนุมัติสินเชื่อได้ จึงเห็นยอดขายรถปิกอัพลดลงมากกว่ารถประเภทอื่น
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายปีตลาดรถจะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น เนื่องจากผลิตผลทางการเกษตรเริ่มออกจำหน่าย ทำให้เกษตรกรมีรายได้ และเป็นฤดูการขายรถ ประกอบกับอีซูซุเองได้ออกรถรุ่นใหม่คือ อีซูซุ ดี-แมคซ์ ซุเปอร์ แพลททินั่ม และมิว-7 ซุปเปอร์แพลททินั่ม น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ราว 100,000 คันสำหรับรถปิกอัพดี-แมคซ์ และ6,000 คันสำหรับมิว-7