ด้วยปรัชญาพื้นฐานของฮอนด้า คือ ยินดีที่ได้ซื้อ ยินดีที่ได้ขาย และยินดีที่ได้สร้างสรรค์ ผ่านสินค้าคุณภาพไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ รวมถึงการบริการหลังการขายที่ครอบคุลมครบวงจรพร้อมให้ความพอใจสูงสุดกับลูกค้า และที่สำคัญคือนโยบายการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งประเด็นหลังนี้เป็นสิ่งที่หลายบริษัท เริ่มหันมาใส่ใจมากขึ้น
ในส่วนของฮอนด้า ได้ผุดโครงการการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมและแคมเปญต่างๆตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันถาวรสถานที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอย่าง ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า (Honda Safety Driving Center) บนถนนรามคำแหง ก็เป็นสิ่งยืนยันในแนวทางดังกล่าว
บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานที่มีห้องฝึกอบรมภาคทฤษฎี 4 ห้อง หรือจะขยายรวมกันเป็นห้องใหญ่ รองรับผู้อบรมได้ถึง 300 คน สื่อการเรียนการสอนอันทันสมัย รวมถึงพื้นที่ฝึกภาคปฏิบัติที่แยกเป็นสนามฝึกอบรมของ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ กับเม็ดเงินลงทุนกว่า 900 ล้าน ที่กลุ่มบริษัทฮอนด้าในไทยร่วมลงขัน ส่งผลให้ที่แห่งนี้เป็นศูนย์ฝึกการขับขี่ปลอดภัยครบวงจรที่ได้มาตรฐานและใหญ่ที่สุดในอาเซียน
“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” พร้อมผู้สื่อข่าวในเครือASTVผู้จัดการ มีโอกาสไปสัมผัสและได้เรียนรู้คอร์สขับขี่รถยนต์ปลอดภัยถึง 1 วันเต็ม ตามคำเชิญของ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด
“ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน และเล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่รถให้ปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ฮอนด้าจึงดำเนินการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยผ่านกิจกรรมต่างๆมาตลอดหลายปี และล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ บนถนนรามคำแหง” พงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ในช่วงแรกจะเปิดให้อบรมเป็นหมู่คณะ หรือกลุ่มลูกค้าของฮอนด้าที่สนใจก่อน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ลูกค้าซื้อรถล็อตใหญ่อย่างพวก บริษัทรถเช่า หน่วยงานเอกชน-ราชการ หรือบรรดาดีลเลอร์ที่ติดต่อมาเป็นพิเศษ) และในอนาคตก็เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาอบรมเช่นกัน
ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีที่ “ASTVผู้จัดการ”จะได้เป็นผู้อบรมกลุ่มแรกๆ กับหลักสูตรที่สั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น
เริ่มจากช่วงเช้า เราจะต้องเข้าไปในห้องเรียนภาคทฤษฎีประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมทั้ง กฎหมายจราจรที่ควรรู้ มารยาทในการขับขี่ การขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุ เทคนิคการขับรถหน้าฝน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณี ยางแตก ยางแบน หรือวิธีปฏิบัติเมื่อกระจกบังลมหน้าแตก
ภาคบ่ายเราได้ฝึกปฏิบัติจริง เริ่มจากการตรวจสภาพรถยนต์และการบำรุงรักษาเบื้องต้น รวมถึงการจัดท่านั่ง การรัดเข็มขัด การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง พร้อมกันนี้ยังมีห้องให้ทดสอบสายตาซึ่ง เครื่องมือ และวิธีการเหมือนกับที่กรมขนส่งทางบกใช้ทดสอบใบขับขี่ อาทิ ทดสอบสายตา การกะระยะ ตาบอดสี และการตอบสนองต่อของปฏิกิริยาด้วยการเยียบแป้นเบรก
อีกไฮไลต์ในภาคบ่ายคือ การทดสอบการทำงานของถุงลมนิรภัย ซึ่งจะมีเครื่องนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะให้ผู้อบรมนั่งอยู่หลังพวงมาลัย พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เสมือนขับรถจริง จากนั้นเมื่อครูฝึกดันเราไปข้างหน้าแล้วกระแทก ถุงลมก็จะทำงานทันทีพร้อมเสียงที่ดังมากๆ ซึ่งอย่างน้อยๆก็จะทำให้หลายคนให้ความสำคัญกับระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงท่านั่งที่ถูกต้องและการรัดเข็มขัดนิรภัย เพื่อผ่อนจากหนักเป็นเบาในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ในส่วนของการขับขี่จริง เราจะได้ใช้ “ฮอนด้า ซิวิค” ฝึกการบังคับรถในสภาพถนนลื่นพร้อมทดสอบการทำงานของเบรก ABS ทดสอบความไวของปฏิกิริยาการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างกรณีมีรถตัดหน้า รวมถึงการขับแบบสลาลม และการถอยรถเข้าจอดในที่แคบ
...หลังเรียนจบครบถ้วนกระบวนการหนึ่งวัน จะมีการประเมินผล(ว่าเรียนไปแล้วได้อะไรบ้าง) และตอบแบบสอบถามเล็กน้อย จากนั้นก็มอบประกาศนียบัตร เป็นอันเสร็จพิธี
อุบัติเหตุบนท้องถนนคงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าในกรณีสุดวิสัยไม่สามารถควบคุมได้ การมีสติและทักษะที่เรียนรู้มาจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน...ถือว่าช่วยๆกันครับ เมื่อผู้ประกอบการรับผิดชอบ คนขับรถ-คนใช้ถนน มีจิตสำนึกแล้ว สังคมดีขึ้นแน่นอน
ในส่วนของฮอนด้า ได้ผุดโครงการการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมและแคมเปญต่างๆตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันถาวรสถานที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอย่าง ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า (Honda Safety Driving Center) บนถนนรามคำแหง ก็เป็นสิ่งยืนยันในแนวทางดังกล่าว
บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานที่มีห้องฝึกอบรมภาคทฤษฎี 4 ห้อง หรือจะขยายรวมกันเป็นห้องใหญ่ รองรับผู้อบรมได้ถึง 300 คน สื่อการเรียนการสอนอันทันสมัย รวมถึงพื้นที่ฝึกภาคปฏิบัติที่แยกเป็นสนามฝึกอบรมของ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ กับเม็ดเงินลงทุนกว่า 900 ล้าน ที่กลุ่มบริษัทฮอนด้าในไทยร่วมลงขัน ส่งผลให้ที่แห่งนี้เป็นศูนย์ฝึกการขับขี่ปลอดภัยครบวงจรที่ได้มาตรฐานและใหญ่ที่สุดในอาเซียน
“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” พร้อมผู้สื่อข่าวในเครือASTVผู้จัดการ มีโอกาสไปสัมผัสและได้เรียนรู้คอร์สขับขี่รถยนต์ปลอดภัยถึง 1 วันเต็ม ตามคำเชิญของ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด
“ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน และเล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่รถให้ปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ฮอนด้าจึงดำเนินการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยผ่านกิจกรรมต่างๆมาตลอดหลายปี และล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ บนถนนรามคำแหง” พงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ในช่วงแรกจะเปิดให้อบรมเป็นหมู่คณะ หรือกลุ่มลูกค้าของฮอนด้าที่สนใจก่อน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ลูกค้าซื้อรถล็อตใหญ่อย่างพวก บริษัทรถเช่า หน่วยงานเอกชน-ราชการ หรือบรรดาดีลเลอร์ที่ติดต่อมาเป็นพิเศษ) และในอนาคตก็เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาอบรมเช่นกัน
ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีที่ “ASTVผู้จัดการ”จะได้เป็นผู้อบรมกลุ่มแรกๆ กับหลักสูตรที่สั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น
เริ่มจากช่วงเช้า เราจะต้องเข้าไปในห้องเรียนภาคทฤษฎีประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมทั้ง กฎหมายจราจรที่ควรรู้ มารยาทในการขับขี่ การขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุ เทคนิคการขับรถหน้าฝน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณี ยางแตก ยางแบน หรือวิธีปฏิบัติเมื่อกระจกบังลมหน้าแตก
ภาคบ่ายเราได้ฝึกปฏิบัติจริง เริ่มจากการตรวจสภาพรถยนต์และการบำรุงรักษาเบื้องต้น รวมถึงการจัดท่านั่ง การรัดเข็มขัด การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง พร้อมกันนี้ยังมีห้องให้ทดสอบสายตาซึ่ง เครื่องมือ และวิธีการเหมือนกับที่กรมขนส่งทางบกใช้ทดสอบใบขับขี่ อาทิ ทดสอบสายตา การกะระยะ ตาบอดสี และการตอบสนองต่อของปฏิกิริยาด้วยการเยียบแป้นเบรก
อีกไฮไลต์ในภาคบ่ายคือ การทดสอบการทำงานของถุงลมนิรภัย ซึ่งจะมีเครื่องนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะให้ผู้อบรมนั่งอยู่หลังพวงมาลัย พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เสมือนขับรถจริง จากนั้นเมื่อครูฝึกดันเราไปข้างหน้าแล้วกระแทก ถุงลมก็จะทำงานทันทีพร้อมเสียงที่ดังมากๆ ซึ่งอย่างน้อยๆก็จะทำให้หลายคนให้ความสำคัญกับระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงท่านั่งที่ถูกต้องและการรัดเข็มขัดนิรภัย เพื่อผ่อนจากหนักเป็นเบาในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ในส่วนของการขับขี่จริง เราจะได้ใช้ “ฮอนด้า ซิวิค” ฝึกการบังคับรถในสภาพถนนลื่นพร้อมทดสอบการทำงานของเบรก ABS ทดสอบความไวของปฏิกิริยาการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างกรณีมีรถตัดหน้า รวมถึงการขับแบบสลาลม และการถอยรถเข้าจอดในที่แคบ
...หลังเรียนจบครบถ้วนกระบวนการหนึ่งวัน จะมีการประเมินผล(ว่าเรียนไปแล้วได้อะไรบ้าง) และตอบแบบสอบถามเล็กน้อย จากนั้นก็มอบประกาศนียบัตร เป็นอันเสร็จพิธี
อุบัติเหตุบนท้องถนนคงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าในกรณีสุดวิสัยไม่สามารถควบคุมได้ การมีสติและทักษะที่เรียนรู้มาจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน...ถือว่าช่วยๆกันครับ เมื่อผู้ประกอบการรับผิดชอบ คนขับรถ-คนใช้ถนน มีจิตสำนึกแล้ว สังคมดีขึ้นแน่นอน