อิสลามแบงก์ขยายวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อเปลี่ยนรถตู้เก่าวงเงิน 2 พันล้านบาท หลังเฟสแรกมีกระแสตอบรับดี ชูผ่อนนาน 7-8 ปี ดอกเบี้ยสูงสุดแค่ 5% ส่วนสินเชื่อรีไฟแนนซ์ยังจิ๊บจ๊อย 1.6 พันล้านบาท
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามในโครงการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อสร้างอาชีพใหม่ โครงการ 2 ร่วมกับ พันธมิตร 6 แห่งประกอบด้วยกรมขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือขสมก. บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัทโตโยต้า มอเตอร์(ประเทศไทย) และบริษัทเมืองไทยประกันภัย ว่า โครงการเฟส 2 ถือว่าดำเนินการตอ่เนื่องจกาเฟสแรกหลังจากที่ธนาคารประสบความสำเร็จในการให้สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อสร้างอาชีพใหม่ สำหรับผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะระหว่างจังหวัด และสนับสนุนการจัดหารถตู้ใหม่มาปรับเปลี่ยนครบกำหนดแทนรถตู้เดิมจำนวน 6,467 คันที่จะครบกำหนดผ่อนผันอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปีภายในวันที่ 1 มิ.ย.53 โดยเฟส 2 กำหนดวงเงิน 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-นี้ 31 ธ.ค. 52 นี้ และพร้อมจะเพิ่มวงเงินให้อีก
สำหรับเกณฑ์การเช่าซ้อสำหรับผู้ประกอบการทั่วไปให้วงเงินเช่าซื้อสูงสุด 95% ในอัตรากำไรสุทธิ ขั้นต่ำ 5% ระยะเวลาการเช่าซ้อสูงสุด 84 เดือน สำหรับผู้ประกอบการท เป็นชาวมุสลิมหรือเป็นบุคคลที่ประพฤติตนอยู่ในศิลธรรมอันดี ไม่ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ธนาคารให้วงเงินเช้าซื้อ 100% คิดอัตรากำไรสุทธิขั้นต่ำ 4.5% ระยะเวลาการเช่าซื้อสูงสุด 96 เดือน
“เฟสแรกถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถปล่อยไปได้แล้วประมาณ 60% ของวงเงินที่ตั้งไว้ 1.3 พันล้านบาท ส่วนเฟส 2 น่าจะปล่อยได้ประมาณ 1.8 พันคัน รวมกว่า 3 พันคันหรือครึ่งหนึ่งของรถตู้เก่าที่เปลี่ยนจากใช้น้ำมันมาเป็นเอ็นจีวี เพื่อช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน”นายธีรศักดิ์ กล่าว
ส่วนโครงการสินเชื่อซับน้ำตาที่เปิดให้กู้เพื่อรีไฟแนนซ์บ้านและหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้นอกระบบนั้น ขณะนี้ปล่อยไปได้แล้ว 1.6 พันล้านบาท โดยพันล้านบาทเป็นรีไฟแนนซ์หนี้บ้าน ส่วน 600 ล้านเป็นหนี้บัตรเครดิตซึ่งในจำนวนนี้ 30%เป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการส.ค.นี้ ถือว่าไม่น้อยเพราะเป็นหนี้รายย่อยแค่ 1-2 แสนบาทต่อราย ส่วนจะยืดเวลาหรือไม่คงต้องตัดสินใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามวันที่ 23-29 ก.ค.นี้ธนาคารจะร่วมออกบูธในโครงการ”ฟ้าสดใส คนไทยยิ่มได้” ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ที่ 3 จังหวัดภาคใต้เริ่มที่ปัตตานีก่อน โดยจะสินเชื่อให้บริการหลากหลาย จึงจำเป็นที่ธนาคารต้องได้เงินเพิ่มทุน 6 พันล้านบาทเข้ามาภายในปีนี้ เพราะต้องใช้เงินปล่อยสินเชื่อว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นเร็วนี้ๆนี้จะสามารถสรุปสัดส่วนการเพิ่มทุนได้ทั้งส่วนของกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามในโครงการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อสร้างอาชีพใหม่ โครงการ 2 ร่วมกับ พันธมิตร 6 แห่งประกอบด้วยกรมขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือขสมก. บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัทโตโยต้า มอเตอร์(ประเทศไทย) และบริษัทเมืองไทยประกันภัย ว่า โครงการเฟส 2 ถือว่าดำเนินการตอ่เนื่องจกาเฟสแรกหลังจากที่ธนาคารประสบความสำเร็จในการให้สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อสร้างอาชีพใหม่ สำหรับผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะระหว่างจังหวัด และสนับสนุนการจัดหารถตู้ใหม่มาปรับเปลี่ยนครบกำหนดแทนรถตู้เดิมจำนวน 6,467 คันที่จะครบกำหนดผ่อนผันอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปีภายในวันที่ 1 มิ.ย.53 โดยเฟส 2 กำหนดวงเงิน 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-นี้ 31 ธ.ค. 52 นี้ และพร้อมจะเพิ่มวงเงินให้อีก
สำหรับเกณฑ์การเช่าซ้อสำหรับผู้ประกอบการทั่วไปให้วงเงินเช่าซื้อสูงสุด 95% ในอัตรากำไรสุทธิ ขั้นต่ำ 5% ระยะเวลาการเช่าซ้อสูงสุด 84 เดือน สำหรับผู้ประกอบการท เป็นชาวมุสลิมหรือเป็นบุคคลที่ประพฤติตนอยู่ในศิลธรรมอันดี ไม่ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ธนาคารให้วงเงินเช้าซื้อ 100% คิดอัตรากำไรสุทธิขั้นต่ำ 4.5% ระยะเวลาการเช่าซื้อสูงสุด 96 เดือน
“เฟสแรกถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถปล่อยไปได้แล้วประมาณ 60% ของวงเงินที่ตั้งไว้ 1.3 พันล้านบาท ส่วนเฟส 2 น่าจะปล่อยได้ประมาณ 1.8 พันคัน รวมกว่า 3 พันคันหรือครึ่งหนึ่งของรถตู้เก่าที่เปลี่ยนจากใช้น้ำมันมาเป็นเอ็นจีวี เพื่อช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน”นายธีรศักดิ์ กล่าว
ส่วนโครงการสินเชื่อซับน้ำตาที่เปิดให้กู้เพื่อรีไฟแนนซ์บ้านและหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้นอกระบบนั้น ขณะนี้ปล่อยไปได้แล้ว 1.6 พันล้านบาท โดยพันล้านบาทเป็นรีไฟแนนซ์หนี้บ้าน ส่วน 600 ล้านเป็นหนี้บัตรเครดิตซึ่งในจำนวนนี้ 30%เป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการส.ค.นี้ ถือว่าไม่น้อยเพราะเป็นหนี้รายย่อยแค่ 1-2 แสนบาทต่อราย ส่วนจะยืดเวลาหรือไม่คงต้องตัดสินใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามวันที่ 23-29 ก.ค.นี้ธนาคารจะร่วมออกบูธในโครงการ”ฟ้าสดใส คนไทยยิ่มได้” ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ที่ 3 จังหวัดภาคใต้เริ่มที่ปัตตานีก่อน โดยจะสินเชื่อให้บริการหลากหลาย จึงจำเป็นที่ธนาคารต้องได้เงินเพิ่มทุน 6 พันล้านบาทเข้ามาภายในปีนี้ เพราะต้องใช้เงินปล่อยสินเชื่อว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นเร็วนี้ๆนี้จะสามารถสรุปสัดส่วนการเพิ่มทุนได้ทั้งส่วนของกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย
