xs
xsm
sm
md
lg

โตโยต้าปรับเป้าตลาดรวมลดลงอีก7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - ประธานใหม่โตโยต้า รับตลาดครึ่งปีหลังซึมยาว พร้อมปรับเป้าการขายรวมทุกยี่ห้อเหลือ 4.8 แสนคัน ลดลง 22% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากต้นปีคาดตกแค่ 15%

วันนี้(17 ก.ค.) โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดงานแนะนำตัวกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ “เคียวอิจิ ทานาดะ” อย่างเป็นทางการ พร้อมแถลงนโยบายทางการตลาด และทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในครึ่งปีหลัง

โดยนายทานาดะ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบมากจากวิกฤติการณ์การเงินโลก ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยหดตัว ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ดังนั้นตลาดรถยนต์จึงมีอัตราเติบโตลดลง 28% ปริมาณการขายรวม 231,428 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 96,056 คัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 135,372 คัน โดยเป็นรถกระบะขนาด 1 ตันในเซกเม้นท์นี้ 117,696 คัน

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราหดตัว 13% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการหดตัวมากถึง 35.3% เป็นผลมาจากการหดตัวของการลงทุนและราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ

“สำหรับปริมาณการขายของโตโยต้านั้น ลดลงด้วยเช่นกัน โดยมียอดขายรวม 95,334 คัน ลดลง 29.9 % แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 41,541 คัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 53,793 คัน และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเม้นท์นี้ 48,678 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 43.2% และ 39.7% และ 41.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามโตโยต้ายังครองอันดับ 1 ในด้านการขายในทุกตลาด”

ในด้านการส่งออกรถยนต์ของโตโยต้าใน 6 เดือนแรก มีปริมาณส่งออกทั้งสิ้น 102,179 คัน ลดลง 33% การส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่เป็นจำนวน 10,255 คอนเทนเนอร์ รวมมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 65,000 ล้านบาท ลดลง 24% เป็นผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเงินโลก

สำหรับแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในช่วงหลังของปี 2552 นายทานาดะ กล่าวว่า วิกฤติการณ์การเงินโลก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ ดังเช่นต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากยอดขายรถยนต์ 6 เดือนที่ผ่านมานั้น จะพบว่าตลาดรถยนต์มีอัตราการหดตัวน้อยลง และจะเป็นแรงบวกต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือ คาดว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตลดลงประมาณ 22% ปริมาณการขาย 480,000 คัน ลดลงจากการประมาณการเมื่อตอนต้นปี 7.7%

โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 202,000 คัน ลดลง 10.9% เนื่องจากยังคงมีความต้องการในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ในขณะที่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 278,000 คัน ลดลง 28.4% รวมถึงรถกระบะขนาด 1 ตันในเซกเม้นท์นี้ 241,000 คัน ลดลง 27.8% ทั้งนี้ การชะลอตัวของภาวะเศษฐกิจ ยังคงส่งผลลบต่อเนื่องต่อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์และตลาดรถกระบะมากกว่าตลาดรถยนต์นั่ง

ด้านเป้าหมายการขายและการส่งออกของโตโยต้าในปี2552 ตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 205,000 คัน ลดลง 21.8% คาดว่าจะครองส่วนแบ่งตลาด 42.7% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 90,500 คัน ส่วนแบ่งตลาด 44.8% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 114,500 คัน ส่วนแบ่งตลาด 41.2% โดยเป็นรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้และฟอร์จูนเนอร์ 104,000 คัน ส่วนแบ่งตลาด 43.2% ในด้านการส่งออกเราตั้งเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไว้ที่ 222,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 96,600 ล้านบาท และชิ้นส่วนอะไหล่มูลค่า 40,000 ล้านบาท รวมมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 136,600 ล้านบาท ลดลง 25.4%

นายทาดานะ กล่าวว่า บริษัทจะจัดกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้นต่อเนื่องในการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา อาทิ คัมรี ไฮบริดใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายเดือนกรกฏาคมนี้ และที่สำคัญ เรายังคงให้การส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและประโยชน์ต่อสังคมไทย”

“เราจะให้ความสนับสนุนแก่รัฐบาลในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นใจและอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค ตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงการให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยี ไฮบริดที่จะมาช่วยกระตุ้นตลาด ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ยังคงมีความแข็งแกร่งและเคยผ่านสถานการณ์ที่ตลาดตกลงในช่วงครึ่งปีแรกมาแล้ว การปรับเป้าหมายการขายของโตโยต้าและอุตสาหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ พิจารณาจากสถานการณ์ตลาดที่เกิดขึ้น และมองเห็นสัญญาณที่ดี อาทิ ราคาน้ำมันที่ไม่ผันผวน และคาดว่า ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันจะฟื้นตัว และความมั่นใจของผู้บริโภคจะมีมากขึ้น” นายทานาดะ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น