ข่าวต่างประเทศ - บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมนี สนับสนุนทางรัฐบาลของแคว้นบาวาเรียในการยื่นชื่อเมืองหลวงอย่างมิวนิกให้เข้าสู่การคัดเลือกเพื่อรับเป็นเจ้าภาพการจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 โดยทางแบรนด์ดังจะเป็นสปอนเซอร์ควักเงินก้อนโตในการเป็นแบ็คอัพตลอดช่วง 3 ปีของการรณรงค์เพื่อการนี้โดย เฉพาะเพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
"มิวนิก และบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนในทุกด้าน ความสนใจในด้านกีฬา ถือเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเราเสมอมา และเราต้องการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพเพื่อรองรับกับนักกีฬาจากทั่วโลกทั้งชายและหญิงให้เดินทางมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่นี่ในปี 2018 และถ้าเมืองมิวนิกได้รับเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เราก็ต้องการที่จะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน" Dr. Norbert Reithofer ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปกล่าวในงานแถลงข่าวที่นครมิวนิก
คาดว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะต้องซัพพอร์ตทางด้านการเงินเป็นจำนวน 3-5 ล้านยูโร หรือ 145-225 ล้านบาทสำหรับการรณรงค์ในครั้งนี้ตลอดช่วงปี 2009-2011 และก็รวมถึงการสนับสนุนในส่วนที่ไม่ใช่เงินทุน เช่น รถยนต์ ฯลฯ อีกด้วย
ทางด้าน Horst Seehofer นายกรัฐมนตรีของแคว้นบาวาเรียกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้บีเอ็มดับเบิลยูเป็นพันธมิตรในการรณรงค์ครั้งนี้ เพราะว่าบีเอ็มดับเบิลยูถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่คู่กับเมืองมิวนิกและแคว้นบาวาเรียมาช้านาน โดยการคัดเลือกและประกาศเมืองที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2011 จากการโหวตของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ International Olympic Committee (IOC)
และถ้าทำได้ มิวนิกจะกลายเป็นเมืองแรกในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพทั้งการแข่งขันฤดูร้อนและหนาว โดยก่อนหน้านั้นในปี 1972 ก็เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนมาแล้ว ซึ่งเป็นครั้งที่ 20 พร้อมกับเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่โด่งดังไปทั่วโลกกับการลอบสังหารนักกีฬากรีฑาและสต๊าฟฟ์โค้ชทีมชาติอิสราเอลโดยกลุ่ม Black September และทางบีเอ็มดับเบิลยูเองก็พัฒนารถยนต์รุ่น 1602 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าสำหรับใช้ในการดูแลนักกีฬาที่แข่งขันวิ่งมาราธอน และเดินทน
"มิวนิก และบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนในทุกด้าน ความสนใจในด้านกีฬา ถือเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเราเสมอมา และเราต้องการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพเพื่อรองรับกับนักกีฬาจากทั่วโลกทั้งชายและหญิงให้เดินทางมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่นี่ในปี 2018 และถ้าเมืองมิวนิกได้รับเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เราก็ต้องการที่จะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน" Dr. Norbert Reithofer ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปกล่าวในงานแถลงข่าวที่นครมิวนิก
คาดว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะต้องซัพพอร์ตทางด้านการเงินเป็นจำนวน 3-5 ล้านยูโร หรือ 145-225 ล้านบาทสำหรับการรณรงค์ในครั้งนี้ตลอดช่วงปี 2009-2011 และก็รวมถึงการสนับสนุนในส่วนที่ไม่ใช่เงินทุน เช่น รถยนต์ ฯลฯ อีกด้วย
ทางด้าน Horst Seehofer นายกรัฐมนตรีของแคว้นบาวาเรียกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้บีเอ็มดับเบิลยูเป็นพันธมิตรในการรณรงค์ครั้งนี้ เพราะว่าบีเอ็มดับเบิลยูถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่คู่กับเมืองมิวนิกและแคว้นบาวาเรียมาช้านาน โดยการคัดเลือกและประกาศเมืองที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2011 จากการโหวตของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ International Olympic Committee (IOC)
และถ้าทำได้ มิวนิกจะกลายเป็นเมืองแรกในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพทั้งการแข่งขันฤดูร้อนและหนาว โดยก่อนหน้านั้นในปี 1972 ก็เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนมาแล้ว ซึ่งเป็นครั้งที่ 20 พร้อมกับเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่โด่งดังไปทั่วโลกกับการลอบสังหารนักกีฬากรีฑาและสต๊าฟฟ์โค้ชทีมชาติอิสราเอลโดยกลุ่ม Black September และทางบีเอ็มดับเบิลยูเองก็พัฒนารถยนต์รุ่น 1602 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าสำหรับใช้ในการดูแลนักกีฬาที่แข่งขันวิ่งมาราธอน และเดินทน