ข่าวในประเทศ – ตลาดรถ 2 ล้อเดือน เม.ย. หดตัวหนัก 19% หลังปัจจัยลบรุมเร้า ยอดจดทะเบียนลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ด้วยปริมาณทั้งสิ้น 1.05 แสนคัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว แต่รถหัวฉีดมาแรงครองส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 40%
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปริมาณการจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์โดยรวมทั้งสิ้นมีจำนวน 105,363 คัน นับเป็นปริมาณการจดทะเบียนที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ หลังจากที่ในช่วงไตรมาสแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด
นอกจากนั้นยังเป็นปริมาณการจดทะเบียนที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน คือนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2550 ที่มียอดจดทะเบียน 103,218 คัน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 130,795 คันแล้ว มีปริมาณยอดจดทะเบียนลดลง 25,432 คัน หรือเทียบเท่าอัตราการหดตัวของตลาดถึง 19%
“สาเหตุที่ทำให้ตลาดหดตัวนั้น เนื่องมาจากผลกระทบจากปัจจัยทางด้านลบหลากหลายประการ ซึ่งปัจจัยสำคัญได้แก่ สภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ที่เป็นผลให้กำลังซื้อในตลาดลดน้อยลง ประกอบกับในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีเทศกาลวันหยุดยาว รวมถึงปัจจัยในด้านสถานการณ์ทางการเมือง”
ถึงแม้ปริมาณการจดทะเบียนในช่วงเดือน เม.ย. จะมีจำนวนลดลง แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดแล้วพบว่า รถจักรยานยนต์แบบเครื่องยนต์ระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด กลับมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนรถเครื่องยนต์หัวฉีดกับตลาดโดยรวมแล้ว มีอัตราขยายตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ม.ค. คือ 22% , 25% , 37% และล่าสุด 40% ตามลำดับ สะท้อนถึงการที่ตลาดให้ความสนใจและให้ความนิยมเป็นอย่างสูง ทั้งนี้เนื่องจากมีคุณสมบัติตอบสนองตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ด้านการประหยัดน้ำมัน
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ค่ายผู้นำตลาด ฮอนด้า ได้เร่งกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขายรถประเภทนี้ ผ่านแคมเปญด้านการตลาดอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการมุ่งเน้นไปยังรถเครื่องยนต์หัวฉีดยอดนิยมแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ รุ่น ฮอนด้า คลิก-ไอ (Click-i) ส่งผลให้รถรุ่นนี้เป็นรถสุดยอดความนิยมที่มียอดการจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงที่สุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองนับตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นมา
สำหรับรายละเอียดของยอดการจดทะเบียนในเดือน เม.ย. ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 52,613 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50% , รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ 48,416 คัน สัดส่วนตลาด 46% , รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 2,627 คัน สัดส่วนตลาด 2% , รถแบบสปอร์ต 849 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ 858 คัน
ส่วนยอดจดทะเบียนสะสมในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ คือ ตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 461,655 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแล้ว มีอัตราการเติบโตลดลง 17%
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปริมาณการจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์โดยรวมทั้งสิ้นมีจำนวน 105,363 คัน นับเป็นปริมาณการจดทะเบียนที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ หลังจากที่ในช่วงไตรมาสแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด
นอกจากนั้นยังเป็นปริมาณการจดทะเบียนที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน คือนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2550 ที่มียอดจดทะเบียน 103,218 คัน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 130,795 คันแล้ว มีปริมาณยอดจดทะเบียนลดลง 25,432 คัน หรือเทียบเท่าอัตราการหดตัวของตลาดถึง 19%
“สาเหตุที่ทำให้ตลาดหดตัวนั้น เนื่องมาจากผลกระทบจากปัจจัยทางด้านลบหลากหลายประการ ซึ่งปัจจัยสำคัญได้แก่ สภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ที่เป็นผลให้กำลังซื้อในตลาดลดน้อยลง ประกอบกับในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีเทศกาลวันหยุดยาว รวมถึงปัจจัยในด้านสถานการณ์ทางการเมือง”
ถึงแม้ปริมาณการจดทะเบียนในช่วงเดือน เม.ย. จะมีจำนวนลดลง แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดแล้วพบว่า รถจักรยานยนต์แบบเครื่องยนต์ระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด กลับมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนรถเครื่องยนต์หัวฉีดกับตลาดโดยรวมแล้ว มีอัตราขยายตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ม.ค. คือ 22% , 25% , 37% และล่าสุด 40% ตามลำดับ สะท้อนถึงการที่ตลาดให้ความสนใจและให้ความนิยมเป็นอย่างสูง ทั้งนี้เนื่องจากมีคุณสมบัติตอบสนองตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ด้านการประหยัดน้ำมัน
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ค่ายผู้นำตลาด ฮอนด้า ได้เร่งกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขายรถประเภทนี้ ผ่านแคมเปญด้านการตลาดอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการมุ่งเน้นไปยังรถเครื่องยนต์หัวฉีดยอดนิยมแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ รุ่น ฮอนด้า คลิก-ไอ (Click-i) ส่งผลให้รถรุ่นนี้เป็นรถสุดยอดความนิยมที่มียอดการจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงที่สุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองนับตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นมา
สำหรับรายละเอียดของยอดการจดทะเบียนในเดือน เม.ย. ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 52,613 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50% , รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ 48,416 คัน สัดส่วนตลาด 46% , รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 2,627 คัน สัดส่วนตลาด 2% , รถแบบสปอร์ต 849 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ 858 คัน
ส่วนยอดจดทะเบียนสะสมในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ คือ ตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 461,655 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแล้ว มีอัตราการเติบโตลดลง 17%
