xs
xsm
sm
md
lg

ตลาด จยย.ปี 50 ทรุด 17% ฮอนด้าแชมป์ติดต่อ 19 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปิดตลาดรถจักรยานยนต์ปี 50 ตัวเลขยอดจดทะเบียนทั้งสิ้นกว่า 1.59 ล้านคัน หล่นวูบจากปีก่อนถึง 17% ชี้ปัจจัยลบอื้อ ทั้งสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการหดตัวในการบริโภค สวนทางรถ เอ.ที.มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เหตุเพราะการโหมกระตุ้นเปิดตัวผลิตภัณฑ์และปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ในกลุ่มรถประเภทนี้ของค่ายผู้ผลิต ส่วนฮอนด้ายังครองแชมป์ยอดขายสูงสุด 19 ปีติดต่อกัน

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ ในปี 2550 ปรากฏว่า มีปริมาณทั้งสิ้น 1,598,876 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีปริมาณ 1,926,804 คันแล้ว มีปริมาณลดลง 327,928 คัน หรือมีอัตราการเติบโตลดลง 17% ทั้งนี้ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 804,527 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50% รถแบบ เอ.ที.(Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ 727,869 คัน สัดส่วนตลาด 46% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 51,501 คัน สัดส่วนตลาด 3% รถแบบสปอร์ต 10,947 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 4,032 คัน

“สาเหตุของการเติบโตลดลง เช่น สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มผู้บริโภคในระดับรากหญ้า อันเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดรถจักรยานยนต์ การขาดความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจของผู้บริโภค ส่งผลให้มีการชะลอการจับจ่ายใช้สอย”

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดโดยรวมจะเติบโตลดลง แต่ในกลุ่มรถประเภท เอ.ที.กลับมีการเติบโตสวนทิศทางของตลาด โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 727,869 คัน สัดส่วนตลาด 46% จากปีก่อนหน้านี้ที่มีปริมาณ 648,537 คัน สัดส่วนตลาด 34% เท่านั้น ส่งผลให้รถแบบ เอ.ที.มีอัตราการขยายตัวถึง 12% ในขณะที่รถจักรยานยนต์กลุ่มอื่นๆ ที่เป็นประเภทหลักของตลาด อันได้แก่ รถแบบครอบครัว แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต และแบบสปอร์ต มีอัตราการขยายตัวลดลงทั้งสิ้น คือ 31% 47% และ 9% ตามลำดับ

สาเหตุของการขยายตัวในกลุ่มรถประเภท เอ.ที.ว่า เนื่องมาจากการมุ่งเน้นและโหมกระตุ้นตลาดรถประเภทนี้ของค่ายผู้ผลิตต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปโฉมและภาพลักษณ์ของรถรุ่นเดิมที่มีอยู่ในตลาดให้มีความสดใหม่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายรถประเภทนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“แม้ว่าในช่วงระยะสามเดือนแรกของครึ่งปี หลังตลาดจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้มีปริมาณการจำหน่ายลดลง โดยกลุ่มผู้บริโภคหันไปนิยมรถแบบครอบครัวที่มีจุดเด่นด้านความประหยัดก็ตาม แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น ตลาดรถแบบ เอ.ที.ก็กลับมาตื่นตัวและคึกคักขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะจากการที่ค่ายฮอนด้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มรถประเภทนี้ ได้แก่รุ่น ไอคอน พร้อมทั้งรุกจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายที่เข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนับเป็นแรงผลักดันสำคัญในการกระตุ้นตลาด”

ทั้งนี้ ฮอนด้ามีปริมาณยอดการจดทะเบียนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง คือ 1,118,555 คัน เทียบเท่าอัตราส่วนครองตลาด 70% ซึ่งส่งผลผลให้ฮอนด้าสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ติดต่อกัน

“แนวโน้มตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2551 นี้ คาดว่า สภาพตลาดจะอยู่ในภาวะทรงตัว โดยมีปริมาณตลาดรวมทั้งหมดใกล้เคียงกับเมื่อปีที่ผ่านมา และจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันจะเป็นตัวกำหนดให้รถในประเภทครอบครัวยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ในขณะที่รถแบบ เอ.ที.หรือ เกียร์อัตโนมัติ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มผู้ใช้ และมีส่วนในการสร้างความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องให้กับตลาด” นายธีระพัฒน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น