xs
xsm
sm
md
lg

จีเอ็มปักธงแดนมังกร...ยุทธศาสตร์กู้ชีพ-เปิดแนวรุกใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิค ไรลีย์
ด้วยตลาดใหญ่ระดับประชาการ 1,300 ล้านคน บวกกับทิศทางเศรษฐกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ถือเป็นความท้าทายอันหอมหวน ชวนให้หลายบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกต่างเบนเข็ม เข้าร่วมดำเนินธุรกิจในจีนมากมาย ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่จากแดนมะกัน “จีเอ็ม”

จีนหลังเข้าสู่ยุคปฏิรูปและเปิดประเทศ ภายใต้การนำของเติ้งเสี่ยวผิง เมื่อ 20 กว่าปีก่อน กับแนวคิด“แมวขาวแมวดำไม่เกี่ยงขอให้จับหนูได้เป็นพอ”...ไม่สนว่าวิธีการจะเป็นทุนนิยมหรือสังคมนิยม เพียงแต่ให้จีนพัฒนารุ่งเรือง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนเป็นอันใช้ได้ แต่กระนั้นด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี และความรู้ในศาสตร์หลายแขนงยังล้าหลังอยู่มาก รัฐบาลจึงเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อพัฒนาสินค้า-บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีธุรกิจต่อเนื่องมากมาย

เมื่อนโยบายที่อิงการวางแผนจากส่วนกลาง เริ่มโน้มเอียงมาสู่กลไกตลาด สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ต้องการความทันสมัยของเทคโนโลยี เพื่อเป็นตัวนำในการพัฒนาเศรษฐกิจ ถึงวันนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจีนก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยจุดมุ่งหมายชัดเจน และคาดหมายกันว่าภายในปีนี้ จีนจะเป็นตลาดที่ทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก แซงหน้าสหรัฐอเมริกา(หลังแซงญี่ปุ่นและเยอรมันมาแล้ว)ด้วยตัวเลขกว่า 10 ล้านคัน

จีเอ็มหรือ เจเนอรัล มอเตอร์ส ถือเป็นหนึ่งค่ายรถยนต์ที่มีส่วนช่วยผลักดันความสำเร็จดังกล่าว โดยเริ่มดำเนินธุรกิจในจีนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อปี 2540 ด้วยการร่วมทุนกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ หรือ เอสเอไอซี (จริงๆแล้ว SAIC ร่วมทุนกับโฟล์คสวาเกนจากเยอรมันเป็นรายแรกเมื่อปีพ.ศ.2527) โดยเป็นการถือหุ้นแบบ 50-50 ภายใต้ชื่อบริษัท เซี่ยงไฮ้ เจเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม เซี่ยงไฮ้

ค่ายรถยนต์อันดับหนึ่งของอเมริกา ทำตลาดผ่านแบรนด์ดังอย่าง เชฟโรเลต คาดิลเลค บูอิค ซาบ รวมถึงวูหลิง ซึ่งปีที่แล้วปิดยอดขายรวมกันกว่า 1.09 ล้านคัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และนับเป็นอัตราเติบโตถึง 6% เมื่อเทียบกับปี 2550 ขณะเดียวกัน “เซี่ยงไฮ้ออโต้ โชว์ 2009” ที่จัดขึ้นระหว่าง 20-28 เมษายน จีเอ็มยังโชว์ศักยภาพ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมีตัวตนในจีนอย่างยิ่งใหญ่ แม้ว่าในแผ่นดินเกิดจะยังทุลักทุเล กับการปรับแผนฟื้นฟู และต้องการเงินกู้เพิ่มเติมจากรัฐบาลก็ตาม
เชฟโรเลต ครูซ
บนพื้นที่ 4,900 ตารางเมตรในศูนย์แสดงสินค้าเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์โป เซ็นเตอร์ จีเอ็มขนทั้งยนตรกรรมในสายการผลิตพร้อมขาย และคอนเซปต์คาร์รวม 37 รุ่นมาอวดโฉมไล่ตั้งแต่เชฟโรเลต “ครูซ” คอมแพกต์คาร์รุ่นล่าสุด ที่จะมาทำตลาดแทนออพตร้า ซึ่งเตรียมขายในจีนตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
รถไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน เชฟโรเลต โวลต์
เชฟโรเลต คามาโร
ขณะที่เชฟโรเลต “โวลต์” รถพลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่นำมาโชว์ให้ชาวจีนได้ชมเป็นครั้งแรก ก่อนมีกำหนดทำตลาดในปี 2554 นอกจากนี้จีเอ็มยังเอาใจคอรถสปอร์ต และแฟนหนังทรานส์ฟอร์เมอร์ ด้วยการนำ “คามาโร” มาให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เรียกกว่าจะเข้าไปนั่งหรือนอนในสปอร์ตคาร์ระดับตำนานอย่างไรก็ได้ไม่มีหวง

ส่วนแบรนด์เก๋าคู่บุญอย่างคาดิลแลค นำโดยครอสโอเวอร์ขนาดกลาง “เอสอาร์เอ็กซ์ ใหม่” ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคนี้ หลังเคยอวดโฉมที่งาน “ดีทรอยท์ ออโต้โชว์ 2009” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคาดิลแลคยังนำ “เอสคาเลด ไฮบริด” เอสยูวีลูกผสมมาเปิดตัวก่อนเตรียมขายจริงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

ด้านบูอิค เป็นอีกแบรนด์ที่สร้างยอดขายในจีนอย่างเป็นกอบเป็นกำ เปิดตัวเก๋ง “ลาครอส ใหม่” ที่พร้อมขายจริงช่วงปลายปีนี้ รวมถึง “รีกัลป์ ใหม่” ที่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลก ซึ่งซีดานรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ถือเป็นรถเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบรุ่นแรกที่ผลิตโดยจีเอ็มในประเทศจีนอีกด้วย

ขณะที่ซาบ จากสวีเดน นำสายพันธ์ 9-3 รุ่นปรับโฉมมาแสดงครบไลน์ ทั้ง 9-3 คอนเวอร์ทิเบิล สปอร์ตเปิดประทุน, 9-3 เวคเตอร์ สปอร์ตซีดาน, 9-3 เวคเตอร์ สปอร์ตคอมไบ และ 9-3 ขับเคลื่อนสี่ล้อ XWD ส่วนแบรนด์“โลคอล ราคาโลว์คอส”อย่างวูหลิง เน้นไปที่รถเพื่อการพาณิชย์ นำโดยมินิแวนรุ่น รงกวง, ฮงตู รวมถึงรุ่นยอดฮิต ซันไชน์

ด้านนิค ไรลีย์ รองประธานจีเอ็ม กรุ๊ป และประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก เปิดเผยในงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่า เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ถือเป็นงานสำคัญระดับโลก เช่นกันกับจีนที่เป็นตลาดสำคัญของจีเอ็ม และบริษัทเตรียมลงทุนเกี่ยวกับโปรดักต์ใหม่ รวมถึงโครงสร้างและเทคโนโลยีล่าสุด สำหรับประเทศนี้อย่างต่อเนื่อง

“แม้เราจะประสบปัญหาที่อเมริกา รวมถึงยอดขายตกต่ำในยุโรป แต่สำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกผลการดำเนินงานยังไปได้ดี เห็นได้จากหลังปิดไตรมาสแรกของปีนี้ จีเอ็มยังมียอดขายเติบโตถึง 6% และส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากความเข้มแข็งของตลาดจีนที่มียอดขายโตถึง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว”

“การดำเนินธุรกิจในจีนมีกำไร และพึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้องอาศัยเงินทุนจากบริษัทแม่ที่อเมริกา ขณะเดียวกันด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง บวกกับสภาพตลาดที่กำลังอยู่ในช่วง(Stage) พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้จีนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เราคาดว่ายอดขายรวมของตลาดจีนปีนี้จะเติบโตอีก 5-10% เมื่อเทียบกับปี 2551”นายไรลีย์ กล่าว

สำหรับจีเอ็มยังวาดหวังว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ จะสร้างยอดขายให้เติบโตแบบเท่าตัว หรือเป็นตัวเลขระดับ 2 ล้านคันต่อปี ด้วยการขยายเครือข่ายพร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 30 รุ่น ซึ่งถือเป็นการเกทัพกลับไปยังคู่แข่งจากเยอรมันอย่างโฟล์คสวาเกน ที่ตั้งเป้ายอดขายด้วยตัวเลขเดียวกันนี้ แต่อยู่ภายใต้ระยะเวลาถึง 10 ปี (จากการเปิดเผยของ วินเฟรด แวนแลนด์ ประธานและซีอีโอของโฟล์คฯจีน)
รถฟิวเซลส์ อิควิน็อกซ์
เพื่อให้ให้บรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าว จีเอ็ม ยังพยายามเปิดแนวรุกใหม่ๆ โดยเน้นไปที่รถพลังงานทางเลือก รถลูกผสมไฮบริด รถไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน รวมถึงรถแบบฟิวเซล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีนที่เน้นเรื่องสภาพแวดล้อมมากขึ้น พร้อมให้สิทธิพิเศษด้านต่างๆโดยเฉพาะภาษี นอกจากนี้ด้วยความใหญ่ของตลาด และมีความประหยัดจากขนาดการผลิตสูง จีเอ็ม จึงไม่ลังเลที่จะใช้จีนเป็นฐานสำคัญในการผลิตรถประเภทนี้

ล่าสุดจีเอ็ม และ เอสเอไอซี ซึ่งดำเนินงานภายใต้บริษัทร่วมทุนอีก 8 แห่งในจีน เพิ่งลงนามข้อตกลงสนับสนุนเทคโนโลยียานยนต์อนาคต โดยการร่วมมือครั้งนี้ จะเริ่มต้นจากการขาย บูอิค ลาครอส อีโค-ไฮบริด รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี ฟิวเซลส์ และเปิดตัวภายใต้แบรนด์ “เซี่ยงไฮ้” ในปีหน้า

สำหรับรถแบรนด์เซี่ยงไฮ้ จะใช้เทคโนโลยีฟิวเซลรุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของจีเอ็ม (แบบเดียวกับอิควิน็อกซ์) โดยใช้ระบบขับเคลื่อนไฮโดรเจน ฟิวเซลระดับแรงดันสูง 700 บาร์ อันปราศจากมลพิษ ผลิตออกมาทั้งหมด 10 คัน เพื่อร่วมกับอิควิน็อกซ์ ในการเป็นรถรับส่งแขกวีไอพีในงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010

“เราสนับสนุนนโยบายก้าวสู่ความมั่นคงของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านพลังงานที่มีความหลากหลาย ลดการพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียม ทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”นายไรลีย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามสำหรับงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ที่เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ระหว่าง 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม ปีหน้า จีเอ็มยังรับหน้าเสื่อเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ พร้อมเนรมิตพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ริมฝั่งแม่น้ำหวงปู ระดมนวตกรรมใหม่ และเทคโนโลยีล่าสุด มาแสดงถึงพัฒนาการของจีเอ็ม และอิทธิพลที่มีต่อลูกค้าทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “ชีวิตกับยานยนต์อนาคตจะเปลี่ยนไปจากเดิม”

...จะเห็นว่าทุกเม็ดเงินที่จีเอ็มลงทุนไปในตลาดแห่งนี้ เริ่มส่งผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมสร้างเสถียรภาพให้บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไปพร้อมๆกัน และจากแผนงานที่กล่าวมา บิ๊กแดนมะกันยังไม่หยุดที่จะปักธงแห่งความสำเร็จลงไปยังดินแดนแห่งนี้ หนำซ้ำยังมีงานหนักที่รออยู่ภายหน้า ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์เล็ก-ใหญ่ ภายใต้สโลแกน...in China, with China, for China ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงจะนำพาไปสู่เป้าหมาย...for GM’s survival
กำลังโหลดความคิดเห็น