ระลอกที่ 2 ในการสร้างความฮือฮาในตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าของเทสล่า แบรนด์ดังจากแคลิฟอร์เนีย ด้วยทางเลือกใหม่ในแบบ 4 ประตูสำหรับเอาใจลูกค้าระดับหรูที่อยากได้ความสะดวกสบายในการขับพร้อมๆ กับการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ผลผลิตใหม่นี้ใช้ชื่อว่า โมเดล เอส และในตอนนี้ยังเป็นรุ่นต้นแบบสำหรับจัดแสดงอยู่ แต่จะเริ่มขายแน่นอนในปี 2011 หากว่าทางเทสล่าสามารถขอกู้ยืมเงินจากรัฐบาลจำนวน 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 12,250 ล้านบาทได้ เพราะว่าเทสล่าจะนำเงินจำนวนนี้มาใช้ในการลงทุนเพื่อปรับปรุงและสร้างไลน์ผลิตของตัวเองที่โรงงานในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ถ้าเงินก้อนนี้ไม่ผ่าน ก็อาจจะต้องรอนานกันหน่อย เหมือนกับที่ลูกค้าเคยต้องร้องเพลงรอรุ่นโรดสเตอร์ หรือสปอร์ตเปิดประทุนกันมาแล้ว
นอกจากนั้น รถยนต์ซีดาน 4 ประตูพลังไฟฟ้ารุ่นนี้ยังเกิดเรื้องอื้อฉาวไม่น้อยในช่วงขั้นของการพัฒนา เพราะว่าเทสล่าได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2008 หรือ 3 เดือนหลังจากที่ฟิสเคอร์เปิดตัวรถยนต์ซีดาน 4 ประตูต้นแบบของตัวเองออกมาที่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ เดือนมกราคมปีเดียวกัน เนื่องจากคิดว่าโดนทางบริษัทแห่งนี้ขโมยไอเดียในการพัฒนารถยนต์
โดยเรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเพราะเทสล่าว่าจ้างฟิสเคอร์ โค้ชบิลเดอร์ บริษัทแม่ของฟิสเคอร์ ออโต้โมบิลในการออกแบบโมเดล เอส และในเมื่อฟิสเคอร์เปิดตัวรถยนต์ซีดานของตัวเองก่อน ทางเทสล่าก็เลยเกิดข้อกังขาขึ้นมา แต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายแพ้ และศาลก็สั่งให้ฟิสเคอร์สามารถเดินหน้าโครงการคาร์มาต่อไปได้จนกลายเป็นรุ่นจำหน่ายจริงที่เปิดตัวในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2009
สำหรับโมเดล เอสได้รับการออกแบบโดย Franz von Holzhausen มากับตัวถังซีดาน 4 ประตูที่มีความยาว 4,978 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,959 มิลลิเมตร หรือใกล้เคียงกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 แต่สิ่งที่เหนือชั้นคือ ทางเทสล่าบอกว่ารถยนต์คันนี้สามารถรองรับผู้ขับและผู้โดยสารจำนวน 7 ที่นั่งเทียบเท่ากับมินิแวนที่มี 3 แถว แต่ทว่าเทสล่าไม่ได้นำภาพของภายในห้องโดยสารมาเปิดเผยก็เลยไม่รู้ว่าทำอย่างไร ซีดานรุ่นนี้ถึงอเนกประสงค์ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าในตอนท้ายของเอกสารข่าวจะระบุว่า 7 ที่นั่งที่ว่าเป็นแบบผู้ใหญ่ 5 คน และเด็ก 2 คนก็ตาม
ตัวรถเป็นแบบขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าแท้ๆ ไม่ใช่กลุ่ม E-REV ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 9 นิ้วใช้ระบบของเหลวในการระบายความร้อน และแบตเตอรี่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าในระดับ 120, 240 หรือ 480 โวลต์ได้โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในโหมด Quick Charge โดยในรุ่นจำหน่ายจริงทางเทสลาเผยว่าจะมีแบตเตอรี่ให้เลือกติดตั้งหลายแบบตามความต้องการของลูกค้าทั้งแบบที่ขับได้ 160, 230 หรือ 300 ไมล์ (257, 370 และ 482 กิโลเมตร) ตามลำดับ
แม้จะเป็นซีดาน 4 ประตูที่มีน้ำหนักร่วม 1,700 กิโลกรัม แต่สมรรถนะในการขับเคลื่อนก็เร้าใจไม่น้อย จากการส่งกำลังด้วยเกียร์แบบสปีดเดียว อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.6 วินาที (รุ่นโรดสเตอร์ 3.9 วินาที)และทำความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่ใช้เวลา 14 วินาทีในการแล่นควอเตอร์ไมล์ หรือระยะทาง 0-402 เมตร
รออีกสักนิดสำหรับคนที่สนใจ และเชื่อว่ารุ่นจำหน่ายจริงคงมีหน้าตาไม่ต่างจากนี้เท่าไร ส่วนราคาเคาะออกมาแล้วประมาณ 49,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.75 ล้านบาท ช่วงนี้ก็เก็บเงินกันไปพลางๆ ก่อน
ผลผลิตใหม่นี้ใช้ชื่อว่า โมเดล เอส และในตอนนี้ยังเป็นรุ่นต้นแบบสำหรับจัดแสดงอยู่ แต่จะเริ่มขายแน่นอนในปี 2011 หากว่าทางเทสล่าสามารถขอกู้ยืมเงินจากรัฐบาลจำนวน 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 12,250 ล้านบาทได้ เพราะว่าเทสล่าจะนำเงินจำนวนนี้มาใช้ในการลงทุนเพื่อปรับปรุงและสร้างไลน์ผลิตของตัวเองที่โรงงานในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ถ้าเงินก้อนนี้ไม่ผ่าน ก็อาจจะต้องรอนานกันหน่อย เหมือนกับที่ลูกค้าเคยต้องร้องเพลงรอรุ่นโรดสเตอร์ หรือสปอร์ตเปิดประทุนกันมาแล้ว
นอกจากนั้น รถยนต์ซีดาน 4 ประตูพลังไฟฟ้ารุ่นนี้ยังเกิดเรื้องอื้อฉาวไม่น้อยในช่วงขั้นของการพัฒนา เพราะว่าเทสล่าได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2008 หรือ 3 เดือนหลังจากที่ฟิสเคอร์เปิดตัวรถยนต์ซีดาน 4 ประตูต้นแบบของตัวเองออกมาที่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ เดือนมกราคมปีเดียวกัน เนื่องจากคิดว่าโดนทางบริษัทแห่งนี้ขโมยไอเดียในการพัฒนารถยนต์
โดยเรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเพราะเทสล่าว่าจ้างฟิสเคอร์ โค้ชบิลเดอร์ บริษัทแม่ของฟิสเคอร์ ออโต้โมบิลในการออกแบบโมเดล เอส และในเมื่อฟิสเคอร์เปิดตัวรถยนต์ซีดานของตัวเองก่อน ทางเทสล่าก็เลยเกิดข้อกังขาขึ้นมา แต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายแพ้ และศาลก็สั่งให้ฟิสเคอร์สามารถเดินหน้าโครงการคาร์มาต่อไปได้จนกลายเป็นรุ่นจำหน่ายจริงที่เปิดตัวในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2009
สำหรับโมเดล เอสได้รับการออกแบบโดย Franz von Holzhausen มากับตัวถังซีดาน 4 ประตูที่มีความยาว 4,978 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,959 มิลลิเมตร หรือใกล้เคียงกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 แต่สิ่งที่เหนือชั้นคือ ทางเทสล่าบอกว่ารถยนต์คันนี้สามารถรองรับผู้ขับและผู้โดยสารจำนวน 7 ที่นั่งเทียบเท่ากับมินิแวนที่มี 3 แถว แต่ทว่าเทสล่าไม่ได้นำภาพของภายในห้องโดยสารมาเปิดเผยก็เลยไม่รู้ว่าทำอย่างไร ซีดานรุ่นนี้ถึงอเนกประสงค์ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าในตอนท้ายของเอกสารข่าวจะระบุว่า 7 ที่นั่งที่ว่าเป็นแบบผู้ใหญ่ 5 คน และเด็ก 2 คนก็ตาม
ตัวรถเป็นแบบขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าแท้ๆ ไม่ใช่กลุ่ม E-REV ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 9 นิ้วใช้ระบบของเหลวในการระบายความร้อน และแบตเตอรี่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าในระดับ 120, 240 หรือ 480 โวลต์ได้โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในโหมด Quick Charge โดยในรุ่นจำหน่ายจริงทางเทสลาเผยว่าจะมีแบตเตอรี่ให้เลือกติดตั้งหลายแบบตามความต้องการของลูกค้าทั้งแบบที่ขับได้ 160, 230 หรือ 300 ไมล์ (257, 370 และ 482 กิโลเมตร) ตามลำดับ
แม้จะเป็นซีดาน 4 ประตูที่มีน้ำหนักร่วม 1,700 กิโลกรัม แต่สมรรถนะในการขับเคลื่อนก็เร้าใจไม่น้อย จากการส่งกำลังด้วยเกียร์แบบสปีดเดียว อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.6 วินาที (รุ่นโรดสเตอร์ 3.9 วินาที)และทำความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่ใช้เวลา 14 วินาทีในการแล่นควอเตอร์ไมล์ หรือระยะทาง 0-402 เมตร
รออีกสักนิดสำหรับคนที่สนใจ และเชื่อว่ารุ่นจำหน่ายจริงคงมีหน้าตาไม่ต่างจากนี้เท่าไร ส่วนราคาเคาะออกมาแล้วประมาณ 49,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.75 ล้านบาท ช่วงนี้ก็เก็บเงินกันไปพลางๆ ก่อน
