ปีใหม่ไทยหรือเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวๆ ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่พี่น้องชาวไทยเดินทางใช้รถใช้ถนนกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวสังสรรค์ หรือกลับภูมิลำเนาถิ่นเกิด และเมื่อทุกคนมีจุดมุ่งหมายคล้ายกันๆ หากแต่ต้องใช้บริการหรือเส้นทางสาธารณะเหมือนกัน ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อตนเองและเพื่อร่วมทางไม่ได้
เพื่อเป็นการป้องปราม และสนับสนุนให้การเดินทางของทุกชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ทางภาครัฐบาลกับหน่วยงานหลายสังกัด รวมถึงภาคเอกชนอย่างค่ายรถยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างร่วมมือร่วมใจเปิดโครงการรณรงค์หลากหลาย โดยมุ่งหวังความปลอดภัยสูงสุดในช่วงเทศกาลอันอบอุ่นนี้
“กรมขนส่ง”แม่งานรณรงค์
กรมการขนส่งทางบก ของอธิบดี “ชัยรัตน์ สงวนชื่อ” เตรียมพร้อมรับการเดินทางโดยเฉพาะการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ กับนโยบายให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะต้องเป็นศูนย์ โดยจะส่งผู้ตรวจการออกตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและผู้ขับรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และบนถนนสายหลักจากกรุงเทพมหานครไปยังส่วนภูมิภาค ตลอดวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
“ปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สามารถขับรถได้ แต่เนื่องจากผู้ขับรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสร้างความสูญเสียร้ายแรงกว่ารถขนาดเล็ก อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก กวดขันให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะจะต้องไม่เสพสิ่งมึนเมาก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะต้องเป็นศูนย์ ซึ่งหากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนจะสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่และเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถใหม่ทันที”นายชัยรัตน์กล่าวและว่า
“ผมอยากฝากถึงผู้ประกอบการขนส่ง ขอให้เข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถก่อนออกให้บริการประชาชน เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนที่พบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หมายเลข 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง”
นอกจากนี้กรมขนส่งทางบกยังเปิดโครงการที่ทำต่อเนื่องมาทุกเทศกาลคือ"ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" โดยร่วมมือกับภาคเอกชนให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า ๒,๐๐๐ จุด ที่มีป้ายเข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันที่ 10 เมษายนนี้
ขณะเดียวกันกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ยังได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ สำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดนักศึกษาสาขาช่างยนต์ และสาขาเทคนิคยานยนต์ให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง พร้อมบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องน้ำมันเบรก น้ำมันคลัตซ์ บริการตรวจเติมน้ำกลั่นและซ่อมรถเบื้องต้นฟรี ณ จุดบริการบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศกว่า 300 จุด ถึงวันที่ 16 เมษายนนี้
ฮอนด้า Bon Voyage
สำหรับฮอนด้า นอกจากจะร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ซึ่งจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฮอนด้าฟรี 20 รายการ ณ ศูนย์บริการฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ จนถึง 30 เมษายนนี้แล้ว ยังเปิดโครงการ “Bon Voyage ยิ่งมีสติ… ยิ่งปลอดภัย”รณรงค์ให้ผู้ใช้รถยนต์ขับขี่อย่างถูกต้องพร้อมสติสัมปชัญญะ
ภายใต้โครงการ Bon Voyage ยิ่งมีสติ… ยิ่งปลอดภัย ฮอนด้าจะจัดทีมคาราวานซึ่งประกอบด้วยหนูน้อยปลอดภัย และทีมนักแสดงที่มีชื่อเสียง รวมทั้งทีมงานรณรงค์แจกจ่ายเอกสารเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและมีสติเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ตามจุดสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ
ในช่วงก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
โดยพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โครงการนี้ จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ที่จะรณรงค์ทุกช่วงวันหยุดยาวประจำปี และเชื่อว่าความร่วมมือจากทุกฝ่ายรวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนเอง จะมีส่วนช่วยลดสถิติอุบัติเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีลงได้
“เราจะดำเนินโครงการเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่องและจริงจังโดยให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และฝึกอบรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดสติและจิตสำนึก และล่าสุดกลุ่มบริษัทฮอนด้าเพิ่งจะเปิดศูนย์ขับขี่ปลอดภัยไป (รามคำแหง) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และใหญ่สุดในอาเซียน รองรับการฝึกขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่หลักสูตรขึ้นพื้นฐานถึงระดับฝึกทักษะขั้นสูง”พิทักษ์ กล่าว
โตโยต้า Safe Drive Smile Trip
ค่ายยักษ์โตโยต้า หวังให้ลูกค้าอุ่นใจในการใช้รถช่วงสงกรานต์และตลอดน่าร้อนนี้ด้วยแคมเปญ “Safe Drive Smile Trip” ด้วย 3 ข้อเสนอพิเศษคือ ตรวจเช็ครถฟรี 32 รายการ แบ่งเป็นตรวจเช็คทั่วไป 24 รายการ และเช็คระบบแอร์ 8 รายการ พร้อมส่วนรถค่าแรงเช็คระยะอีก 10%
นอกจากนี้ยังลดค่าอะไหล่ 20 รายการ อาทิ โช้คอัพหน้า ผ้าเบรก หัวเทียน สายพานไทม์มิ่ง โดยจะลดให้ 20% สำหรับรถโตโยต้าทุกรุ่น และลดถึง 30% สำหรับรถที่อายุเกิน 5 ปี (ออกรถก่อน 1 มิถุนายน 2546) ขณะที่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์(4 ลิตร) ราคาเหลือแค่ 1,751 บาท...โดยลูกค้าที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ จนถึง 31 พฤษภาคมนี้
ยาง-แบตเตอรี่ร่วมด้วยช่วยกัน
ไม่เพียงค่ายรถยนต์เท่านั้น พวกอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องอย่าง ยางและแบตเตอรี่ ก็ใส่ใจสังคมและลูกค้าไม่แพ้กัน อย่าง 3K แบตเตอรี่ ก็สนับสนุนผ่านสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ในโครงการ“ร่วมด้วยช่วยกัน ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์” ซึ่งจะคอยให้บริการประชาชนในการรายงานสภาพการจราจร อุบัติเหตุ ประกาศจุดอันตรายให้ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงการเดินทาง เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ผ่านทางสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 99.5 MHz.และเครือข่าย 10 สถานีทั่วประเทศ
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการดำเนินงานตลอดเดือนเมษายนนี้ แต่จะเน้นช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นพิเศษ โดยเปิดให้มีช่วงรายงานผ่านหมายเลข 1677 ทั่วประเทศ อีกทั้งให้บริการจุดพักรถใน 4 พื้นที่ โดยให้บริการน้ำดื่ม แผนที่ คู่มือการเดินทาง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร บริเวณด่านโทลเวย์ ดินแดงขาออก 2, ขอนแก่น ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด ทั้งขาเข้าและขาออก , ชุมพรตั้ง 4 จุด คือ สี่แยกท่าแซะ, สี่แยกปฐมพร , จุดท่องเที่ยวหาดทุ่งวัวแล่น ,จุดท่องเที่ยวหาดทรายรี และสระบุรี ตั้งจุดตรวจที่หน่วยตำรวจทางหลวงทับกวาง
ด้านค่ายยาง มิชลิน จับมือ ปตท. , มูลนิธิเมาไม่ขับ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดตัวโครงการ “มิชลิน เซฟ ออน เดอะ โรด” (Michelin safe on the Road) รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้และตรวจเช็คสภาพยางและความดันลมยาง ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 เมษายนนี้ ทั้งนี้ มิชลิน ได้นำ จุดบริการเติมลมยางเอกลักษณ์เฉพาะของมิชลิน (Michelin Man Air Pump) จากประเทศฝรั่งเศส มาติดตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ครั้งนี้ ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. วิภาวดีรังสิตอีกด้วย
เพื่อเป็นการป้องปราม และสนับสนุนให้การเดินทางของทุกชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ทางภาครัฐบาลกับหน่วยงานหลายสังกัด รวมถึงภาคเอกชนอย่างค่ายรถยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างร่วมมือร่วมใจเปิดโครงการรณรงค์หลากหลาย โดยมุ่งหวังความปลอดภัยสูงสุดในช่วงเทศกาลอันอบอุ่นนี้
“กรมขนส่ง”แม่งานรณรงค์
กรมการขนส่งทางบก ของอธิบดี “ชัยรัตน์ สงวนชื่อ” เตรียมพร้อมรับการเดินทางโดยเฉพาะการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ กับนโยบายให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะต้องเป็นศูนย์ โดยจะส่งผู้ตรวจการออกตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและผู้ขับรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และบนถนนสายหลักจากกรุงเทพมหานครไปยังส่วนภูมิภาค ตลอดวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
“ปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สามารถขับรถได้ แต่เนื่องจากผู้ขับรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสร้างความสูญเสียร้ายแรงกว่ารถขนาดเล็ก อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก กวดขันให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะจะต้องไม่เสพสิ่งมึนเมาก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะต้องเป็นศูนย์ ซึ่งหากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนจะสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่และเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถใหม่ทันที”นายชัยรัตน์กล่าวและว่า
“ผมอยากฝากถึงผู้ประกอบการขนส่ง ขอให้เข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถก่อนออกให้บริการประชาชน เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนที่พบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หมายเลข 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง”
นอกจากนี้กรมขนส่งทางบกยังเปิดโครงการที่ทำต่อเนื่องมาทุกเทศกาลคือ"ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" โดยร่วมมือกับภาคเอกชนให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า ๒,๐๐๐ จุด ที่มีป้ายเข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันที่ 10 เมษายนนี้
ขณะเดียวกันกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ยังได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ สำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดนักศึกษาสาขาช่างยนต์ และสาขาเทคนิคยานยนต์ให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง พร้อมบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องน้ำมันเบรก น้ำมันคลัตซ์ บริการตรวจเติมน้ำกลั่นและซ่อมรถเบื้องต้นฟรี ณ จุดบริการบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศกว่า 300 จุด ถึงวันที่ 16 เมษายนนี้
ฮอนด้า Bon Voyage
สำหรับฮอนด้า นอกจากจะร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ซึ่งจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฮอนด้าฟรี 20 รายการ ณ ศูนย์บริการฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ จนถึง 30 เมษายนนี้แล้ว ยังเปิดโครงการ “Bon Voyage ยิ่งมีสติ… ยิ่งปลอดภัย”รณรงค์ให้ผู้ใช้รถยนต์ขับขี่อย่างถูกต้องพร้อมสติสัมปชัญญะ
ภายใต้โครงการ Bon Voyage ยิ่งมีสติ… ยิ่งปลอดภัย ฮอนด้าจะจัดทีมคาราวานซึ่งประกอบด้วยหนูน้อยปลอดภัย และทีมนักแสดงที่มีชื่อเสียง รวมทั้งทีมงานรณรงค์แจกจ่ายเอกสารเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและมีสติเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ตามจุดสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ
ในช่วงก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
โดยพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โครงการนี้ จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ที่จะรณรงค์ทุกช่วงวันหยุดยาวประจำปี และเชื่อว่าความร่วมมือจากทุกฝ่ายรวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนเอง จะมีส่วนช่วยลดสถิติอุบัติเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีลงได้
“เราจะดำเนินโครงการเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่องและจริงจังโดยให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และฝึกอบรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดสติและจิตสำนึก และล่าสุดกลุ่มบริษัทฮอนด้าเพิ่งจะเปิดศูนย์ขับขี่ปลอดภัยไป (รามคำแหง) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และใหญ่สุดในอาเซียน รองรับการฝึกขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่หลักสูตรขึ้นพื้นฐานถึงระดับฝึกทักษะขั้นสูง”พิทักษ์ กล่าว
โตโยต้า Safe Drive Smile Trip
ค่ายยักษ์โตโยต้า หวังให้ลูกค้าอุ่นใจในการใช้รถช่วงสงกรานต์และตลอดน่าร้อนนี้ด้วยแคมเปญ “Safe Drive Smile Trip” ด้วย 3 ข้อเสนอพิเศษคือ ตรวจเช็ครถฟรี 32 รายการ แบ่งเป็นตรวจเช็คทั่วไป 24 รายการ และเช็คระบบแอร์ 8 รายการ พร้อมส่วนรถค่าแรงเช็คระยะอีก 10%
นอกจากนี้ยังลดค่าอะไหล่ 20 รายการ อาทิ โช้คอัพหน้า ผ้าเบรก หัวเทียน สายพานไทม์มิ่ง โดยจะลดให้ 20% สำหรับรถโตโยต้าทุกรุ่น และลดถึง 30% สำหรับรถที่อายุเกิน 5 ปี (ออกรถก่อน 1 มิถุนายน 2546) ขณะที่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์(4 ลิตร) ราคาเหลือแค่ 1,751 บาท...โดยลูกค้าที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ จนถึง 31 พฤษภาคมนี้
ยาง-แบตเตอรี่ร่วมด้วยช่วยกัน
ไม่เพียงค่ายรถยนต์เท่านั้น พวกอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องอย่าง ยางและแบตเตอรี่ ก็ใส่ใจสังคมและลูกค้าไม่แพ้กัน อย่าง 3K แบตเตอรี่ ก็สนับสนุนผ่านสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ในโครงการ“ร่วมด้วยช่วยกัน ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์” ซึ่งจะคอยให้บริการประชาชนในการรายงานสภาพการจราจร อุบัติเหตุ ประกาศจุดอันตรายให้ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงการเดินทาง เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ผ่านทางสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 99.5 MHz.และเครือข่าย 10 สถานีทั่วประเทศ
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการดำเนินงานตลอดเดือนเมษายนนี้ แต่จะเน้นช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นพิเศษ โดยเปิดให้มีช่วงรายงานผ่านหมายเลข 1677 ทั่วประเทศ อีกทั้งให้บริการจุดพักรถใน 4 พื้นที่ โดยให้บริการน้ำดื่ม แผนที่ คู่มือการเดินทาง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร บริเวณด่านโทลเวย์ ดินแดงขาออก 2, ขอนแก่น ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด ทั้งขาเข้าและขาออก , ชุมพรตั้ง 4 จุด คือ สี่แยกท่าแซะ, สี่แยกปฐมพร , จุดท่องเที่ยวหาดทุ่งวัวแล่น ,จุดท่องเที่ยวหาดทรายรี และสระบุรี ตั้งจุดตรวจที่หน่วยตำรวจทางหลวงทับกวาง
ด้านค่ายยาง มิชลิน จับมือ ปตท. , มูลนิธิเมาไม่ขับ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดตัวโครงการ “มิชลิน เซฟ ออน เดอะ โรด” (Michelin safe on the Road) รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้และตรวจเช็คสภาพยางและความดันลมยาง ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 เมษายนนี้ ทั้งนี้ มิชลิน ได้นำ จุดบริการเติมลมยางเอกลักษณ์เฉพาะของมิชลิน (Michelin Man Air Pump) จากประเทศฝรั่งเศส มาติดตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ครั้งนี้ ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. วิภาวดีรังสิตอีกด้วย
