ถือว่าเร็วเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะไมเนอร์เชนจ์ของรถยนต์ในตระกูลคอนติเนนตัลจากค่ายเบนท์ลีย์เพิ่งข้ามปีมาได้ไม่นาน ทางด้านแบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษในเครือโฟล์คสวาเกนก็มีของใหม่ออกมาทำให้ลูกค้าได้เจ็บใจเล่น
โปรเจ็กต์นี้มากับชื่อซูเปอร์สปอร์ตส์ และในช่วงแรกมีขายเฉพาะรุ่นคูเป้เท่านั้น โดยที่ยังไม่เปิดเผยว่าจะมีต่อเนื่องไปยังตัวถังอื่นๆ อย่างซีดาน และเปิดประทุนด้วยหรือไม่ ซึ่งการเปิดตัวเวอร์ชันนี้ออกมาทำให้รุ่นสปีด ครองสถิติเป็นเบนท์ลีย์ที่มีม้าฝูงโตที่สุดจากโรงงานได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น
เพราะรุ่นซูเปอร์สปอร์ตส์มีการอัพเกรดเรี่ยวแรงของเครื่องยนต์ W12 6,000 ซีซี ให้มีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 30 แรงม้าเป็น 630 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 81.5 กก.-ม. ที่ 1,700-6,500 รอบต่อนาที ใช้เวลาเพียง 3.9 วินาทีเท่านั้นในการแล่นจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 8.9 วินาทีเมื่อทะยานขึ้นสู่ย่านความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ความเร็วปลายอยู่ในระดับ 329 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พร้อมการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อตลอดเวลาที่มีการกระจายกำลังจากเครื่องยนต์สู่เพลาหน้าและหลังในอัตราส่วน 40:60% ส่วนเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะเป็นรุ่นใหม่จาก ZF ซึ่งมีการอัตราการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละตำแหน่งฉับไวขึ้นจากรุ่นเดิมถีง 50% แถมยังมีน้ำหนักตัวเบากว่ารุ่นสปีดถึง 110 กิโลกรัม
นอกจากจะเป็นรถยนต์จากโรงงานของเบนท์ลีย์ที่มีกำลังสูงสุดมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เบนท์ลีย์ผลิตรถยนต์ในกลุ่ม FFV หรือ Flex Fuel Vehicle ซึ่งสามารถใช้ E85 เป็นเชื้อเพลิงออกมาขายในตลาด โดยเน้นหนักๆปที่การเจาะตลาดอเมริกาเหนือซึ่งคนที่นั่นมีเชื้อเพลิงแบบ E85 เติมกันอย่างสะดวก
ในเรื่องความสดใหม่ทางด้านหน้าตาเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปกติของคอนติเนนตัล จีทีแล้ว สามารถสัมผัสได้กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนกันชนหน้า กระจังหน้า และกันชนท้ายซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ดูสปอร์ตขึ้น และเสริมหล่อด้วยล้อแม็กวงโตขนาด 20 นิ้ว โดยที่ระบบเบรกมีการติดตั้งดิสก์ที่ผลิตจากคาร์บอนเซรามิกมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน เช่นเดียวกับสปอยเลอร์หลังแบบยกตัวขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อมีความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อการทรงตัวที่ดีขึ้นในย่านความเร็วสูง
พร้อมลุยตลาดทั่วโลกในปลายปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนค่าตัวยังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้