ข่าวในประเทศ - ยังไม่ถอดใจ! ค่าย “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” ยืนยันเข้าร่วมงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 แน่นอน หลังจับเข่าคุยกับเจ้าพ่อมอเตอร์โชว์ “ปราจิน” สรุปจัดพื้นที่พิเศษไม่รวมอยู่ในโซนรถยนต์ ขนแบรนด์ในเครือ 7 ยี่ห้อ มาปั้นยอดขายได้เต็มที่ รับแม้เวลาจะน้อยแต่พร้อมแสดงพลัง เล็งนำเข้า “เกีย โซล” ครอสโอเวอร์ต้นแบบมาโชว์
ขณะที่รถใหม่เปิดตัวขายในงาน มีให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลาย ทั้ง“ออดี้ เอ8” รุ่นฐานล้อยาว และเอ็มพีวีหรู “จัมเปอร์” ตลอดจนรถตู้หลังคาสูงจากจีน “โพลาซัน” มาขาย ขณะที่แบรนด์ร่วมชาติ “จีลี” มาแน่ แต่งานนี้แค่มาโชว์เท่านั้น จากเดิมกำหนดเปิดตัวในงานนี้ จำเป็นต้องเลื่อนแผนทำตลาดออกไปเป็นกลางปีแทน เพราะคิดการใหญ่เตรียมขึ้นไลน์ประกอบในไทย และเพิ่มรุ่นทำตลาดมากขึ้น จากเดิมเฉพาะ “จีลี ซีเค” เปลี่ยนมาควงเก๋งซีดาน “จีลี เอ็มเค” ช่วยกันเขย่าตลาดรถยนต์ไทย แถมยังสนใจนำรถเล็ก “จีลี แพนด้า” มาเสริมอีกรุ่นในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นยังวางแผนผลิตส่งออกในภูมิภาคอาเซียน หวังปั้นให้เป็นรถธงตัวใหม่ของเครือยนตรกิจฯ
ฮือฮาพอสมควรกับกระแสข่าว การไม่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ของกลุ่มผู้จำหน่ายรถยนต์ชื่อดัง “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” ที่มีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากเกือบ 10 ยี่ห้อ ทั้งรถยนต์จากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเหตุผลถึงกับลือกันไปว่า ยนตรกิจฯ ไม่อยากเสี่ยงทุ่มเงินออกงาน หลังจากเกิดสภาวะเศรษฐกิจเดี้ยง ตลาดรถยนต์ดิ่งเหว งานนี้ทำเอาเจ้าพ่องานมอเตอร์โชว์ “ปราจิน เอี่ยมลำเนา” ต้องออกมาแจงว่า เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค และจะจับเข่าคุยกับทางยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น เพื่อหาทางออกจากไม่มีพื้นที่รองรับ
ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไร? และอนาคตของยนตรกิจฯ จะไปในทิศทางไหน? ภายหลังจากได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่… “วิเชียร ลีนุตพงษ์” จะเป็นผู้ให้คำตอบ!
“เราเห็นความสำคัญของงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ มาโดยตลอด เพราะเป็นงานใหญ่ระดับภูมิภาค และยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น มีความต้องการอยากจะร่วมงาน แต่ปรากฎว่าพื้นที่เต็มก่อน เหตุนี้จึงทำให้เราต้องหารือกับทางผู้จัดงาน เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ที่สุดคุณปราจิน(เอี่ยมลำเนา) ได้จัดพื้นที่พิเศษให้กับกลุ่มยนตรกิจฯ โดยแยกออกมาโซนแสดงรถยนต์ มาอยู่ในโซนรถจักรยานยนต์ แต่ก็ไม่ห่างจากกันมากนัก และเป็นที่พอใจของยนตรกิจฯ มาก”
นั่นคือคำกล่าวของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และได้เปิดเผยว่า... “ฉะนั้นในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 ปลายเดือนมีนาคมนี้ จะมีรถยนต์ในเครือของยนตรกิจฯ เข้าร่วมแสดงในงานแน่นอน โดยมีทั้งหมด 7 ยี่ห้อ ได้แก่ ออดี้, ซีตรอง, มิตซูโอกะ, เกีย, นาซ่า, โพลาซัน และจีลี่ ส่วนรถยนต์ยี่ห้อเซียทและสโกด้า ยังไม่พร้อมเรื่องตัวสินค้า จึงไม่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้”
ต่อคำถามที่ว่ายนตกิจฯ แยกออกไปจัดแสดงรถยนต์เดี่ยวๆ และเป็นโซนเดียวกับรถจักรยานยนต์ จะเกิดปัญหาเสียเปรียบคู่แข่งรายอื่นๆ หรือไม่? เพราะอาจจะมีลูกค้าไม่ทราบ หรือไม่ได้เดินไปดู เรื่องนี้วิเชียรกล่าวอย่างมั่นใจว่า...
“เรากลับคิดว่าได้เปรียบเสียอีก และตรงกับความต้องการของยนตรกิจฯ พอดี เพราะเรามีรถนต์ในเครือหลายแบรนด์ ครอบคลุมรถทุกเซกเม้นท์ ตั้งแต่ตลาดล่างราคา 3-4 แสนบาท ไปจนถึงตลาดบนรถราคาหลายล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องได้พื้นที่โดดเด่นเป็นพิเศษ และเชื่อมั่นรถยนต์ทั้งหมดในเครือยนตรกิจฯ มีศักยภาพในการดึงลูกค้าพอ”
สำหรับรถยนต์ที่เป็นไฮไลต์ของยนตรกิจฯ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ วิเชียรบอกว่าเนื่องจากเวลาจำกัด เพราะตอนแรกพื้นที่เต็มก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร แต่ยืนยันจะพยายามนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาแน่นอน
“หากมีเวลาพอเราอาจจะนำ เกีย โซล (Kia Soul)รถต้นแบบครอสโอเวอร์ มาจัดแสดงภายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 โดยรถรุ่นนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก เกีย เมซา (Kia Mesa) ซึ่งเป็นรถเอสยูวีวีขนาดใหญ่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.0 ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ลงสู่ล้อหน้า พร้อมระบบครูสคอนทโรล”
ส่วนรถใหม่ที่นำเข้ามาขายมีเปิดตัวในงานนี้ คือ รถยนต์หรูหราจากเยอรมนี “ออดี้ เอ8” รุ่นฐานล้อยาว ซึ่งเป็นท็อปไลน์โปรดักซ์ โดยกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะนำเข้าจากที่ไหน เพื่อให้ทันเปิดตัวในงานครั้งนี้ เพราะคงไม่สามารถนำเข้าจากเยอรมันได้ทัน ตอนนี้กำลังตรวจสอบดูสเปกรุ่นที่ขายในอินโดนีเซียอยู่ หากตรงกับสเปกที่ยนตรกิจฯ จะขาย ก็จะนำเข้ามาจากอินโดนีเซียมาแสดงให้ลูกค้าได้ดูก่อน
ขณะที่ยี่ห้อซีตรองยังจะเป็นรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีรุ่น “จัมเปอร์” เพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ และนอกจากลูกค้าทั่วไป ยนตรกิจฯ กำลังจะขยายตลาดไปสู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร อย่างบริษัททัวร์ที่ต้องการรถระดับหรูมารองรับลูกค้า ส่วนรถตู้จากประเทศจีน “โพลาซัน” (Polarsun) จะมีการแนะนำรุ่นหลังคาสูงเพิ่มอีกทางเลือก หลังจากได้มีการแนะนำรุ่นธรรมดา ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 ที่ผ่านไป และก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
“ในส่วนของจีลี (Geely) รถยนต์ยี่ห้อดังจากประเทศจีน ถือเป็นแบรนด์สำคัญของยนตรกิจฯ โดยในงานจะมีการนำมาจัดแสดงเช่นกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้รถรุ่นนี้แจ้งเกิดในไทย แม้จากเดิมกำหนดจะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในงาน แต่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงกลางปีนี้แทน เพราะต้องการทดสอบสมรรถนะกับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันได้นำเข้ามากว่า 10 คัน ในการทดสอบทั่วประเทศ”
เมื่อถามถึงผลตอบรับของลูกค้า ต่อรถยนต์จีลีในการนำเข้ามาจัดแสดง ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา วิเชียรบอกว่ามีลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และมีจำนวนเป็นพันรายที่แจ้งจำนง ให้ยนตรกิจฯ ติดต่อกลับ เมื่อนำรถยนต์จีลีเข้ามาจำหน่ายเป็นทางการ
“เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำตลาดรถยี่ห้อนี้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงต้องมั่นใจว่ามีสมรรถนะดีที่สุด จึงจะนำเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง และจากความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้ยนตรกิจฯ ตัดสินใจที่จะประกอบรถยนต์รุ่นนี้ในไทย นี่จึงเป็นอีกเหตุผลในการเลื่อนเปิดตัวทำตลาดออกไป” วิเชียรกล่าวและว่า
“นอกจากนี้เรายังต้องเพิ่มรุ่นทำตลาดในไทย จากเดิมที่มีเฉพาะรุ่น จีลี ซีเค (Geely CK) ซึ่งเป็นเก๋งซับคอมแพ็กต์ขนาดเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตร ราคาประมาณกว่า 4 แสนบาทขึ้นไป และจะมีการขึ้นไลน์ผลิตรถซีดาน จีลี เอ็มเค (Geely MK) อีกรุ่นพร้อมๆ กัน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ไม่เพียงเท่านั้นเรากำลังพิจารณารถเล็กอย่าง จีลี แพนด้า ขนาด 1.1 และ 1.3 ลิตร มาทำตลาดในอนาคตด้วย”
ในส่วนของแผนการผลิตรถยนต์จีลี วิเชียรเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมไลน์ผลิตที่โรงงานไทยประดิษฐ์ของยนตรกิจฯ อยู่ เบื้องต้นจะผลิตประมาณ 100 คันต่อเดือน และจากนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศประมาณ 40% ตามกรอบข้อตกลงของอาฟต้า (AFTA) เพราะมีแผนที่จะผลิตส่งออกไปยังอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกันภายใต้กรอบอาฟต้า เนื่องจากอินโดนีเซียก็มีการประกอบรถยนต์จีลีเช่นกัน
“เราคาดหวังและเชื่อมั่นว่า จีลีจะเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของยนตรกิจฯ ต่อไป เพราะจากแนวโน้มความต้องการของตลาด เริ่มนิยมรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้จากทิศทางตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา หรือดูจากรถเล็ก นาซ่า ฟอร์ซ่า ที่ยนตรกิจฯ นำเข้ามาจากมาเลเซีย เพื่อทำตลาดในไทยเมื่อปีที่แล้วมา มียอดขายกว่า 500 คัน นับว่าประสบความสำเร็จทีเดียว แต่ยอมรับว่าปัญหาภาพลักษณ์รถยนต์จากจีน ยังไม่ได้รับความเชื่อถือจากคนไทยเท่าที่ควร ฉะนั้นเราจึงต้องทดสอบอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้ว่า จีลีเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดีและทนทาน ไม่แพ้รถยนต์จากประเทศไหนๆ”
สำหรับปัญหาแย่งชิงลูกค้ากันเอง ระหว่างจีลีกับนาซ่ารถขนาดเล็กจากมาเลเซีย ที่ยนตรกิจฯ นำเข้ามาทำตลาดอยู่ในปัจจุบันหรือไม่? วิเชียรยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบแน่นอน เพราะมีความแตกต่างของตัวสินค้า ที่นาซ่า ฟอร์ซ่า เป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู และมีราคาเพียง 3.9 แสนบาท แต่จีลี ซีเค ราคาเริ่มต้นที่กว่า 4 แสนบาท
ทั้งหมดชัดเจว่า... ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ยังพร้อมที่จะลุยตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะกับเดิมพันรถยนต์ขนาดเล็กจากประเทศจีน “จีลี” ซึ่งภายในปีนี้คงจะได้รู้กันเป็นของแท้หรือไม่?
ขณะที่รถใหม่เปิดตัวขายในงาน มีให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลาย ทั้ง“ออดี้ เอ8” รุ่นฐานล้อยาว และเอ็มพีวีหรู “จัมเปอร์” ตลอดจนรถตู้หลังคาสูงจากจีน “โพลาซัน” มาขาย ขณะที่แบรนด์ร่วมชาติ “จีลี” มาแน่ แต่งานนี้แค่มาโชว์เท่านั้น จากเดิมกำหนดเปิดตัวในงานนี้ จำเป็นต้องเลื่อนแผนทำตลาดออกไปเป็นกลางปีแทน เพราะคิดการใหญ่เตรียมขึ้นไลน์ประกอบในไทย และเพิ่มรุ่นทำตลาดมากขึ้น จากเดิมเฉพาะ “จีลี ซีเค” เปลี่ยนมาควงเก๋งซีดาน “จีลี เอ็มเค” ช่วยกันเขย่าตลาดรถยนต์ไทย แถมยังสนใจนำรถเล็ก “จีลี แพนด้า” มาเสริมอีกรุ่นในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นยังวางแผนผลิตส่งออกในภูมิภาคอาเซียน หวังปั้นให้เป็นรถธงตัวใหม่ของเครือยนตรกิจฯ
ฮือฮาพอสมควรกับกระแสข่าว การไม่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ของกลุ่มผู้จำหน่ายรถยนต์ชื่อดัง “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” ที่มีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากเกือบ 10 ยี่ห้อ ทั้งรถยนต์จากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเหตุผลถึงกับลือกันไปว่า ยนตรกิจฯ ไม่อยากเสี่ยงทุ่มเงินออกงาน หลังจากเกิดสภาวะเศรษฐกิจเดี้ยง ตลาดรถยนต์ดิ่งเหว งานนี้ทำเอาเจ้าพ่องานมอเตอร์โชว์ “ปราจิน เอี่ยมลำเนา” ต้องออกมาแจงว่า เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค และจะจับเข่าคุยกับทางยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น เพื่อหาทางออกจากไม่มีพื้นที่รองรับ
ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไร? และอนาคตของยนตรกิจฯ จะไปในทิศทางไหน? ภายหลังจากได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่… “วิเชียร ลีนุตพงษ์” จะเป็นผู้ให้คำตอบ!
“เราเห็นความสำคัญของงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ มาโดยตลอด เพราะเป็นงานใหญ่ระดับภูมิภาค และยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น มีความต้องการอยากจะร่วมงาน แต่ปรากฎว่าพื้นที่เต็มก่อน เหตุนี้จึงทำให้เราต้องหารือกับทางผู้จัดงาน เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ที่สุดคุณปราจิน(เอี่ยมลำเนา) ได้จัดพื้นที่พิเศษให้กับกลุ่มยนตรกิจฯ โดยแยกออกมาโซนแสดงรถยนต์ มาอยู่ในโซนรถจักรยานยนต์ แต่ก็ไม่ห่างจากกันมากนัก และเป็นที่พอใจของยนตรกิจฯ มาก”
นั่นคือคำกล่าวของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และได้เปิดเผยว่า... “ฉะนั้นในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 ปลายเดือนมีนาคมนี้ จะมีรถยนต์ในเครือของยนตรกิจฯ เข้าร่วมแสดงในงานแน่นอน โดยมีทั้งหมด 7 ยี่ห้อ ได้แก่ ออดี้, ซีตรอง, มิตซูโอกะ, เกีย, นาซ่า, โพลาซัน และจีลี่ ส่วนรถยนต์ยี่ห้อเซียทและสโกด้า ยังไม่พร้อมเรื่องตัวสินค้า จึงไม่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้”
ต่อคำถามที่ว่ายนตกิจฯ แยกออกไปจัดแสดงรถยนต์เดี่ยวๆ และเป็นโซนเดียวกับรถจักรยานยนต์ จะเกิดปัญหาเสียเปรียบคู่แข่งรายอื่นๆ หรือไม่? เพราะอาจจะมีลูกค้าไม่ทราบ หรือไม่ได้เดินไปดู เรื่องนี้วิเชียรกล่าวอย่างมั่นใจว่า...
“เรากลับคิดว่าได้เปรียบเสียอีก และตรงกับความต้องการของยนตรกิจฯ พอดี เพราะเรามีรถนต์ในเครือหลายแบรนด์ ครอบคลุมรถทุกเซกเม้นท์ ตั้งแต่ตลาดล่างราคา 3-4 แสนบาท ไปจนถึงตลาดบนรถราคาหลายล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องได้พื้นที่โดดเด่นเป็นพิเศษ และเชื่อมั่นรถยนต์ทั้งหมดในเครือยนตรกิจฯ มีศักยภาพในการดึงลูกค้าพอ”
สำหรับรถยนต์ที่เป็นไฮไลต์ของยนตรกิจฯ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ วิเชียรบอกว่าเนื่องจากเวลาจำกัด เพราะตอนแรกพื้นที่เต็มก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร แต่ยืนยันจะพยายามนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาแน่นอน
“หากมีเวลาพอเราอาจจะนำ เกีย โซล (Kia Soul)รถต้นแบบครอสโอเวอร์ มาจัดแสดงภายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 โดยรถรุ่นนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก เกีย เมซา (Kia Mesa) ซึ่งเป็นรถเอสยูวีวีขนาดใหญ่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.0 ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ลงสู่ล้อหน้า พร้อมระบบครูสคอนทโรล”
ส่วนรถใหม่ที่นำเข้ามาขายมีเปิดตัวในงานนี้ คือ รถยนต์หรูหราจากเยอรมนี “ออดี้ เอ8” รุ่นฐานล้อยาว ซึ่งเป็นท็อปไลน์โปรดักซ์ โดยกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะนำเข้าจากที่ไหน เพื่อให้ทันเปิดตัวในงานครั้งนี้ เพราะคงไม่สามารถนำเข้าจากเยอรมันได้ทัน ตอนนี้กำลังตรวจสอบดูสเปกรุ่นที่ขายในอินโดนีเซียอยู่ หากตรงกับสเปกที่ยนตรกิจฯ จะขาย ก็จะนำเข้ามาจากอินโดนีเซียมาแสดงให้ลูกค้าได้ดูก่อน
ขณะที่ยี่ห้อซีตรองยังจะเป็นรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีรุ่น “จัมเปอร์” เพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ และนอกจากลูกค้าทั่วไป ยนตรกิจฯ กำลังจะขยายตลาดไปสู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร อย่างบริษัททัวร์ที่ต้องการรถระดับหรูมารองรับลูกค้า ส่วนรถตู้จากประเทศจีน “โพลาซัน” (Polarsun) จะมีการแนะนำรุ่นหลังคาสูงเพิ่มอีกทางเลือก หลังจากได้มีการแนะนำรุ่นธรรมดา ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 ที่ผ่านไป และก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
“ในส่วนของจีลี (Geely) รถยนต์ยี่ห้อดังจากประเทศจีน ถือเป็นแบรนด์สำคัญของยนตรกิจฯ โดยในงานจะมีการนำมาจัดแสดงเช่นกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้รถรุ่นนี้แจ้งเกิดในไทย แม้จากเดิมกำหนดจะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในงาน แต่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงกลางปีนี้แทน เพราะต้องการทดสอบสมรรถนะกับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันได้นำเข้ามากว่า 10 คัน ในการทดสอบทั่วประเทศ”
เมื่อถามถึงผลตอบรับของลูกค้า ต่อรถยนต์จีลีในการนำเข้ามาจัดแสดง ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา วิเชียรบอกว่ามีลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และมีจำนวนเป็นพันรายที่แจ้งจำนง ให้ยนตรกิจฯ ติดต่อกลับ เมื่อนำรถยนต์จีลีเข้ามาจำหน่ายเป็นทางการ
“เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำตลาดรถยี่ห้อนี้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงต้องมั่นใจว่ามีสมรรถนะดีที่สุด จึงจะนำเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง และจากความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้ยนตรกิจฯ ตัดสินใจที่จะประกอบรถยนต์รุ่นนี้ในไทย นี่จึงเป็นอีกเหตุผลในการเลื่อนเปิดตัวทำตลาดออกไป” วิเชียรกล่าวและว่า
“นอกจากนี้เรายังต้องเพิ่มรุ่นทำตลาดในไทย จากเดิมที่มีเฉพาะรุ่น จีลี ซีเค (Geely CK) ซึ่งเป็นเก๋งซับคอมแพ็กต์ขนาดเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตร ราคาประมาณกว่า 4 แสนบาทขึ้นไป และจะมีการขึ้นไลน์ผลิตรถซีดาน จีลี เอ็มเค (Geely MK) อีกรุ่นพร้อมๆ กัน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ไม่เพียงเท่านั้นเรากำลังพิจารณารถเล็กอย่าง จีลี แพนด้า ขนาด 1.1 และ 1.3 ลิตร มาทำตลาดในอนาคตด้วย”
ในส่วนของแผนการผลิตรถยนต์จีลี วิเชียรเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมไลน์ผลิตที่โรงงานไทยประดิษฐ์ของยนตรกิจฯ อยู่ เบื้องต้นจะผลิตประมาณ 100 คันต่อเดือน และจากนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศประมาณ 40% ตามกรอบข้อตกลงของอาฟต้า (AFTA) เพราะมีแผนที่จะผลิตส่งออกไปยังอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกันภายใต้กรอบอาฟต้า เนื่องจากอินโดนีเซียก็มีการประกอบรถยนต์จีลีเช่นกัน
“เราคาดหวังและเชื่อมั่นว่า จีลีจะเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของยนตรกิจฯ ต่อไป เพราะจากแนวโน้มความต้องการของตลาด เริ่มนิยมรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้จากทิศทางตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา หรือดูจากรถเล็ก นาซ่า ฟอร์ซ่า ที่ยนตรกิจฯ นำเข้ามาจากมาเลเซีย เพื่อทำตลาดในไทยเมื่อปีที่แล้วมา มียอดขายกว่า 500 คัน นับว่าประสบความสำเร็จทีเดียว แต่ยอมรับว่าปัญหาภาพลักษณ์รถยนต์จากจีน ยังไม่ได้รับความเชื่อถือจากคนไทยเท่าที่ควร ฉะนั้นเราจึงต้องทดสอบอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้ว่า จีลีเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดีและทนทาน ไม่แพ้รถยนต์จากประเทศไหนๆ”
สำหรับปัญหาแย่งชิงลูกค้ากันเอง ระหว่างจีลีกับนาซ่ารถขนาดเล็กจากมาเลเซีย ที่ยนตรกิจฯ นำเข้ามาทำตลาดอยู่ในปัจจุบันหรือไม่? วิเชียรยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบแน่นอน เพราะมีความแตกต่างของตัวสินค้า ที่นาซ่า ฟอร์ซ่า เป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู และมีราคาเพียง 3.9 แสนบาท แต่จีลี ซีเค ราคาเริ่มต้นที่กว่า 4 แสนบาท
ทั้งหมดชัดเจว่า... ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ยังพร้อมที่จะลุยตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะกับเดิมพันรถยนต์ขนาดเล็กจากประเทศจีน “จีลี” ซึ่งภายในปีนี้คงจะได้รู้กันเป็นของแท้หรือไม่?