หลังเผยข้อมูลคร่าวๆ ให้เห็นและรับทราบกันมานาน ในที่สุดเวอร์ชันไฮบริดของเอสยูวีตัวแรงจากค่ายพอร์ขอย่างคาเยนน์ก็ได้ฤกษ์เตรียมทำตลาดแล้ว โดยทางแบรนด์รถสปอร์ตแห่งเมืองสตุ๊ตการ์ทวางคิวขายเอาไว้ในปี 2010
งานนี้พอร์ชมุ่งหน้าในการทำตลาดไปที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดสำหรับรถยนต์ไฮบริดในตอนนี้ โดยระบบไฮบริดของพอร์ชเป็นแบบ Parallel Full Hybrid ซึ่งชุดมอเตอร์ไฟฟ้าถูกวางคั่นกลางเอาไว้ระหว่างฟลายวีลของเครื่องยนต์กับชุดเกียร์ และเหนือชั้นด้วยการปรับปรุงให้ตัวรถสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในบางช่วงจังหวะ
จากการเปิดเผยของพอร์ชระบุว่า ระบบไฮบริดรุ่นนี้ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับโฟล์คสวาเกน ประกอบไปด้วยตัวเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นบล็อกวี6 3,000 ซีซีแบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน มีกำลังสูงสุด 333 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 44.7 กก.-ม. จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 55 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.5 กก.-ม. ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวขับเคลื่อนหลัก, ช่วยเครื่องยนต์ในการเพิ่มกำลัง และชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่แบบนิเกล-เมทัลไฮดรายขนาด 38 กิโลวัตต์ที่มีขนาดกะทัดรัดสามารถวางแทนยางอะไหล่ได้โดยไม่กินพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารด้านหลัง
ตัวรถส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.8 วินาที และมีระดับการปลดปล่อยมลพิษอยู่ในกลุ่ม ULEV II หรือ Ultra Low Emission Vehicle โดยตัวรถจะมีโหมดการทำงานอยู่ 3 แบบซึ่งผู้ขับไม่ต้องเลือกหรือสั่งควบคุมการทำงาน และสมองกลของระบบ หรือ Hybrid Manager ซึ่งพอร์ชอ้างว่ามีความไฮเทคกว่าสมองกลของรถยนต์ไฮบริดรุ่นปัจจุบันด้วยการรับข้อมูลต่างๆ มากกว่าถึง 3 เท่าเพื่อนำมาใช้ในการประมวลผล จะรับหน้าที่ในการสั่งตัดสลับการทำงานของระบบ
ในโหมดที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ตัวรถสามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางประมาณ 1.2 ไมล์ หรือเกือบๆ 2 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อกระแสไฟฟ้าใกล้หมด Hybrid Manager จะสั่งให้เครื่องยนต์สตาร์ทการทำงานขึ้นมาทันทีจนผู้ขับแทบไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ส่วนอัตราความสิ้นเปลืองจากการทดสอบของ EPA ในสหรัฐอเมริกา มีตัวเลขอยู่ที่ 11.11 กิโลเมตร/ลิตร
ใครที่สนใจเตรียมเก็บเงินรอเอาไว้ได้เลย เพราะปีหน้ามาแน่นอน และระบบนี้จะถูกปรับปรุงเพื่อนำมาใช้ซีดาน 4 ประตูรุ่นแรกของพอร์ชอย่างพานาเมอราอีกด้วย ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้