ช่วงจังหวะเดียวกับที่โตโยต้าจัดการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของวิตซ์ในญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคม หลังจากนั้นไม่นานก็จะมีการเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของตัวถังซีดานที่ขายในตลาดแห่งนี้ว่า “เบลต้า” ตามออกมา และจะเดินหน้าลุยปรับในตลาดสหรัฐอเมริกา ด้วยชื่อ “ยาริส ซีดาน” โดยส่งขึ้นโชว์รูมในฐานะรถยนต์รุ่นปี 2009 เพื่อกระตุ้นตลาด ส่วนตลาดแห่งอื่นๆ ของโลกรวมถึงเมืองไทยที่ใช้ชื่อ “วีออส” คาดว่าคงจะมีความเคลื่อนไหวตามมาในอีกไม่ช้า
ทั้งเบลต้า, วีออส และยาริส ซีดานถือเป็นรถยนต์คันเดียวกันที่ถูกเปลี่ยนชื่อรุ่นและรายละเอียดปลีกย่อย เช่น เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนภายนอกและภายใน ให้แตกต่างกันออกไปตามความต้องการของตลาดในแต่ละภูมิภาค โดยทั้งหมดได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ในกลุ่ม B-Segment ของโตโยต้าร่วมกับยาริส หรือวิตซ์ ซึ่งเป็นตัวถังแฮตช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู
สำหรับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเรียกว่าเพียงเล็กน้อยก็ไม่ถึงเป็นเช่นนั้น เพราะจริงอยู่ที่ไฟหน้าไม่มีการเปลี่ยนรูปทรง แต่สำหรับเวอร์ชันอเมริกาเหนือก็มีการเพิ่มความสดใหม่ด้วยแถบไฟเลี้ยวเหลืองที่ใต้ไฟเลี้ยว ขณะที่กระจังหน้ายังเป็นทรงเดิมแต่เปลี่ยนจากลายซี่แนวนอนขนาดใหญ่มาเป็นการเปิดโล่งพร้อมตะแกรงลายสปอร์ต
ส่วนไฟเลี้ยวบนแก้มตัวถังช่วงซุ้มล้อหน้าถูกถอดออกไป เพราะว่ามีการย้ายไฟเลี้ยวตรงส่วนนี้ไปฝังอยู่บนกรอบของกระจกมองข้าง และขนาดตัวถังแทบไม่เปลี่ยนแปลงกับความยาวในระดับ 4,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,690 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตร
คนที่คาดหวังความเปลี่ยนแปลงในส่วนท้ายของตัวถังและรายละเอียดภายในห้องโดยสารอาจจะผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะว่าโตโยต้าไม่มีจัดการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สัมผัสความสดใหม่ในส่วนนี้ นอกจากการเปลี่ยนวัสดุใหม่สำหรับการตกแต่ง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับรุ่นเบลตาสำหรับตลาดญี่ปุ่นด้วยการติดตั้งม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยป้องกันการกระแทกทางด้านข้างมาให้เป็นอุปรณ์มาตรฐานในบางรุ่นเช่นเดียวกับระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
เบลต้าในญี่ปุ่นยังมาพร้อมกับหลากหลายทางเลือกของการขับเคลื่อนเหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่รุ่นเล็กอย่างรหัส 1KR-FE แบบ 3 สูบ ทวินแคม 1000 ซีซี 71 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 9.6 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที และรหัส 2SZ-FE แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1300 ซีซี VVT-I 87 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาทีสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ Super CVT-i
ขณะที่อีกรุ่นเป็น 1300 ซีซีเหมือนกันแต่เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ แต่เป็นขุมพลังรหัส 2NZ-FE ที่มีแรงม้าเท่ากับ 2SZ-FE แต่แรงบิดสูงสุดขยับขึ้นมาเป็น 12.2 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที
สำหรับสเปกอเมริกาเหนือที่ขายในชื่อยาริส ซีดานมากับทางเลือกแบบเดิมเหมือนกับวีออสในตลาดโลกและบ้านเรา คือ ขุมพลัง 1NZ-FE แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,500 ซีซี VVT-I 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.2 กก.-ม.ที่ 4,200 รอบ/นาที มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ
ระบบกันสะเทือนด้านหน้ายังเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นเดิม ส่วนระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็กแอนด์พิเนียน ใช้เพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ในการช่วยผ่อนแรง
ราคาของเบลต้าในญี่ปุ่นตั้งเอาไว้ที่ 1,207,500-1,788,500 เยน หรือ 423,000-625,000 บาท ส่วนในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 12,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 420,000 บาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน สำหรับบ้านเราที่ขายในชื่อวีออส ความเปลี่ยนแปลงน่าจะมีให้สัมผัสกันในเร็วๆ นี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้แผนการต่างๆ ถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงจะอยู่ภายในปีนี้แน่นอน
ทั้งเบลต้า, วีออส และยาริส ซีดานถือเป็นรถยนต์คันเดียวกันที่ถูกเปลี่ยนชื่อรุ่นและรายละเอียดปลีกย่อย เช่น เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนภายนอกและภายใน ให้แตกต่างกันออกไปตามความต้องการของตลาดในแต่ละภูมิภาค โดยทั้งหมดได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ในกลุ่ม B-Segment ของโตโยต้าร่วมกับยาริส หรือวิตซ์ ซึ่งเป็นตัวถังแฮตช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู
สำหรับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเรียกว่าเพียงเล็กน้อยก็ไม่ถึงเป็นเช่นนั้น เพราะจริงอยู่ที่ไฟหน้าไม่มีการเปลี่ยนรูปทรง แต่สำหรับเวอร์ชันอเมริกาเหนือก็มีการเพิ่มความสดใหม่ด้วยแถบไฟเลี้ยวเหลืองที่ใต้ไฟเลี้ยว ขณะที่กระจังหน้ายังเป็นทรงเดิมแต่เปลี่ยนจากลายซี่แนวนอนขนาดใหญ่มาเป็นการเปิดโล่งพร้อมตะแกรงลายสปอร์ต
ส่วนไฟเลี้ยวบนแก้มตัวถังช่วงซุ้มล้อหน้าถูกถอดออกไป เพราะว่ามีการย้ายไฟเลี้ยวตรงส่วนนี้ไปฝังอยู่บนกรอบของกระจกมองข้าง และขนาดตัวถังแทบไม่เปลี่ยนแปลงกับความยาวในระดับ 4,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,690 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตร
คนที่คาดหวังความเปลี่ยนแปลงในส่วนท้ายของตัวถังและรายละเอียดภายในห้องโดยสารอาจจะผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะว่าโตโยต้าไม่มีจัดการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สัมผัสความสดใหม่ในส่วนนี้ นอกจากการเปลี่ยนวัสดุใหม่สำหรับการตกแต่ง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับรุ่นเบลตาสำหรับตลาดญี่ปุ่นด้วยการติดตั้งม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยป้องกันการกระแทกทางด้านข้างมาให้เป็นอุปรณ์มาตรฐานในบางรุ่นเช่นเดียวกับระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
เบลต้าในญี่ปุ่นยังมาพร้อมกับหลากหลายทางเลือกของการขับเคลื่อนเหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่รุ่นเล็กอย่างรหัส 1KR-FE แบบ 3 สูบ ทวินแคม 1000 ซีซี 71 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 9.6 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที และรหัส 2SZ-FE แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1300 ซีซี VVT-I 87 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาทีสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ Super CVT-i
ขณะที่อีกรุ่นเป็น 1300 ซีซีเหมือนกันแต่เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ แต่เป็นขุมพลังรหัส 2NZ-FE ที่มีแรงม้าเท่ากับ 2SZ-FE แต่แรงบิดสูงสุดขยับขึ้นมาเป็น 12.2 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที
สำหรับสเปกอเมริกาเหนือที่ขายในชื่อยาริส ซีดานมากับทางเลือกแบบเดิมเหมือนกับวีออสในตลาดโลกและบ้านเรา คือ ขุมพลัง 1NZ-FE แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,500 ซีซี VVT-I 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.2 กก.-ม.ที่ 4,200 รอบ/นาที มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ
ระบบกันสะเทือนด้านหน้ายังเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นเดิม ส่วนระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็กแอนด์พิเนียน ใช้เพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ในการช่วยผ่อนแรง
ราคาของเบลต้าในญี่ปุ่นตั้งเอาไว้ที่ 1,207,500-1,788,500 เยน หรือ 423,000-625,000 บาท ส่วนในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 12,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 420,000 บาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน สำหรับบ้านเราที่ขายในชื่อวีออส ความเปลี่ยนแปลงน่าจะมีให้สัมผัสกันในเร็วๆ นี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้แผนการต่างๆ ถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงจะอยู่ภายในปีนี้แน่นอน