นอกจากเวทีมอเตอร์โชว์สำหรับรถยนต์ในไลน์ผลิตที่มีจัดกันทั่วโลกแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ยังมองหาช่องทางอื่นในการเข้าถึงลูกค้าของตัวเอง และแน่นอนการจัดงานแสดงประเภทรถแต่งหรือรถโมดิฟาย คือ อีกหนึ่งวิธีที่ว่านี้
ถ้าสังเกตให้ดีในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาตามงานโชว์ใหญ่ๆ เช่น โตเกียว ออโต้ ซาลอนที่ญี่ปุ่น หรือ SEMA Show-Specialty Equiptment Maket Association ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา จึงไม่ได้มีแต่สำนักแต่งหรือผู้ผลิตอุปกรณ์โมดิฟายเท่านั้น แต่แบรนด์รถยนต์ต่างๆ พยายามเข้ามาจับจองพื้นที่พร้อมกับนำรถแต่งของตัวเองมาสร้างสีสันเพื่อดึงดูดความสนใจ เพื่อเป็นการเจาะเข้าสู่ตลาด After Market หรือตลาดอุปกรณ์ตกแต่งรถ ซึ่งมีตัวเลขของมูลค่าที่เยอะจนไม่อาจมองข้ามได้
สำหรับ SEMA Show ในปีนี้ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็เหมือนกับหลายปีที่ผ่านมา จริงอยู่ที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของลาสเวกัส คอนเว็นชั่น เซ็นเตอร์จะถูกยึดครองโดยสำนักแต่งอิสระและผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่ง แต่อีกส่วนก็มีผู้ผลิตรถยนต์หลายรายพาเหรดกันเข้ามาร่วมแจมเพื่อสร้างสีสันอีกด้วย โดยเฉพาะแบรนด์ที่ให้ความสนใจในการเจาะตลาดสหรัฐอเมริกา
GM : ไฮไลต์ของจีเอ็มในปีนี้ตกอยู่ที่รถสปอร์ตในกลุ่ม Pony Car อย่างเชฟโรเลต คามาโรที่พวกเขาปัดฝุ่นนำกลับมาขายเพื่อแข่งกับฟอร์ด มัสแตง และดอดจ์ แชลเลนเจอร์ ซึ่งการสร้างกระแสของพวกเขาไม่ได้มาแค่การนำต้นแบบคันหรือ 2 คันเท่านั้นมาจัดแสดง แต่มาทีเดียวถึง 4 คัน ซึ่งแต่ละคันต่างก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปโดยที่มี GM Performance Parts อยู่เบื้องหลังในการสร้างสรรค์ความแรง
คามาโร ต้นแบบที่เปิดตัวในงานนี้มีทั้งตัวธรรมดาที่มีแนวโน้มว่าจะผลิตขายในอนาคต เช่น LS7 ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ LS7 แบบวี8 ที่คาดว่าจะสามารถรีดกำลังออกมาได้ 550 แรงม้า และแรงบิดมากกว่า 69 กก.-ม. หรือแม้แต่เวอร์ชันพิเศษที่ผลิตเพื่อเอาใจลูกค้าคนพิเศษอย่างเดล เอิร์นฮาร์ด จูเนียร์ เอดิชัน ซึ่งเป็นการตกแต่งตามสไตล์ของนักแข่งรถ NASCAR ชื่อดังที่เป็นทายาทของเดล เอิร์นฮาร์ด ผู้ล่วงลับ แถมคามาโรรุ่นนี้ยังใช้ E85 เป็นเชื้อเพลิงได้อีกด้วย หรืออีกรุ่นก็เป็น Black Edition มาในสไตล์ไก่ดำ คือ เน้นความดำตลอดทั้งคัน ทั้งภายนอกและภายใน ไม่เว้นแม้กระทั่งล้อขนาด 21 นิ้ว
นอกจากนั้น คามาโรจะไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ในตลาดเท่านั้น แต่ยังเตรียมลุยสนามแข่ง ซึ่งเชฟโรเลตประกาศแน่ว่าเอาชัวร์ เพราะเผยโฉมตัวแข่งรุ่นใหม่สำหรับใช้ในการแข่งขัน Grand Am Koni Challenge ในปี 2009 ตัวรถใช้เครื่องยนต์วี8 รหัส LS3 จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบอัตราทดชิด 6 จังหวะ และมากับสีน้ำเงินเหลือซึ่งเป็นการเดิมตามแนวทางเดิมของคามาโรที่ในอดีตเคยโด่งดังกับการแข่งขัน Trans Am และคันนี้ได้รับการตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน-เหลืองของ Mark Donohue ที่โด่งดังมากในปี 1969 กับรถแข่งคามาโรหมายเลข 6 ที่คว้าแชมป์รายการนี้มาครอง
นอกจากเชฟโรเลตแล้ว แบรนด์อื่นๆ ในเครือจีเอ็มก็มีของใหม่มาจัดแสดงกันหลายราย เช่น ฮัมเมอร์กับตัวแต่งต้นแบบ 3 คันที่ใช้พื้นฐานของ H3 ทั้งตัวเอสยูวี และตัวกระบะ ตามด้วยพอนติแอค แบรนด์สปอร์ตที่เน้นความแรงและความเร้าใจเป็นหลัก ซึ่งนำทัพโดยสปอร์ตซีดาน G8 GXP Street Concept ซึ่งเครื่องยนต์วี8 6,200 ซีซี ถูกอัพเกรดเป็นความจุ 7,400 ซีซี สามารถรีดออกมาได้ 638 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 82.8 กก.-ม.ตามด้วยตัวแรงของปิกอัพรุ่น G8 ที่จะขายในปีหน้า และเวอร์ชันคูเป้ของโรดสเตอร์รุ่นโซลส์ทิซ
Mercedes-Benz : ในสัปดาห์ที่แล้วคงเห็นกันไปแล้วกับ GLK หน้าตาแปลกๆ ซึ่งนั่นคือ 1 ใน 4 ของ GLK ที่มาจากโปรเจ็กต์ใหม่ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูเอสเอคิดขึ้นมากับ ครั้งแรก ที่ค่ายดาว 3 แฉกจับมือกับสำนักแต่งอิสระอย่างเป็นทางการในการเสริมความหล่อและสวยให้กับรถยนต์ของตัวเอง
แม้จะไม่สุดเท่ากับคันแรกที่มาจากฝีมือของ Boulevard Customs แต่สำหรับอีก 3 คันมีความโดดเด่นเหมือนกัน เริ่มจาก RENNTech กับการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้เป็นตัวแข่งไต่เขา หรือที่เรียกว่า Pikes Peak แต่สามารถใช้งานบนถนน ส่วนเครื่องยนต์วี6 ดัดแปลงให้เป็นแบบเทอร์โบ/ไฮบริดที่พัฒนาขึ้นมาเอง รีดกำลังออกมาได้ 375 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 44.2 กก.-ม.
อีกคันค่อนข้างแปลกตากว่าใครเพื่อนเป็นพัฒนาให้เป็นตัวลุยแบบเต็มขั้น ซึ่ง Legendary Motor Cars จัดการทำให้ GLK กลายพันธุ์จากเอสยูวีระดับหรูสำหรับขับย่องในเมืองมาเป็นตัวลุยชั้นเยี่ยมบนเส้นทางออฟโรด และปิดท้ายกับฝีมือการโมดิฟายของบราบัสกับตัวต้นแบบในชื่อ Brabus Widestar GLK พร้อมกับการเพิ่มสมรรถนะให้เร้าใจขึ้นอีกระดับ
Ford : มัสแตงใหม่มีคิวเปิดตัวในงานแอลเอ มอเตอร์โชว์ ที่จะมีขึ้นหลังจากงานนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็เลยไม่ได้เห็นความสปอร์ตรุ่นใหม่ของ Pony Car รุ่นนี้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้รุ่นใหม่จะไม่มา แต่ฟอร์ดก็ทำให้รุ่นเก่าแรงและเร้าใจได้กับรุ่น FR500CJ Cobra Jet Mustang เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีที่เคยเปิดตัวเวอร์ชันนี้ออกมาเมื่อปี 1968 ภายใต้แนวคิดเอาไปขับซิ่งบนถนนก็ได้ หรือว่าจะลงแข่ง Drag Racing ตามกฎของ NHRA ก็ได้ โดยเครื่องยนต์เป็นวี8 5,400 ซีซีติดซูเปอร์ชาร์จรีดกำลังออกมาได้ 400 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
สำหรับรุ่นอื่นๆ ก็มีการกระตุ้นตลาดให้กับ F-150 ใหม่ที่เปิดตัวออกมาในช่วงไม่ดีเอาเสียเลยเพราะเจอทั้งตลาดปิกอัพหดตัวและเศรษฐกิจถดถอย ฟอร์ดก็เลยต้องทำอะไรสักหน่อยเพื่อกระตุ้นตลาด นี่ก็เลยเป็นที่มาของเวอร์ชัน SVT Raptor R แต่งแบบสุดโหดพร้อมลุยด้วยการพัฒนาบนพื้นฐานของตัวแข่ง Baja1000
นอกจากนั้นยังมีการกระตุ้นตลาดให้กับครอสโอเวอร์รุ่นเฟล็กซ์ด้วยการนำเนลลี่ ศิลปินฮิพฮ็อปชื่อดังมาช่วยในการตกแต่ง ขณะที่แบรนด์ในเครืออย่างมาสด้าก็กระตุ้นตลาดให้กับรุ่น 6 ด้วยการจับมือกับค่าย Troy Lee Designs เสริมความสวยเพิ่มความปราดเปรียวตลอดทั้งคัน
Volkswagen : สหรัฐอเมริกาคือแนวรุกใหม่ที่โฟล์คสวาเกนให้ความสนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นแบรนด์ดังจากเยอรมนีรายนี้เข้ามาร่วมโชว์ด้วย พร้อมกับตัวแรงหลากหลายสไตล์ เช่น Tiguan กับการโมดิฟายเสต็ป 3 รีดกำลังของเครื่องยนต์เบนซิน TFSi 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบออกมาได้ 295 แรงม้า พร้อมชุดเครื่องเสียงขนาด 1,400 วัตต์ ในขณะที่พัสสาท CC มากับคอนเซ็ปต์ตัวแรงแบบปรับแรงม้าได้ 3 ระดับ มีทั้งโหมด ECO 222 แรงม้า ตามด้วย GT Mode 252 แรงม้า และ Full Power Mode 311 แรงม้า ซึ่งความเร้าใจนี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่มีขายในตอนนี้
Honda : ถือเป็นขาประจำของงานนี้ และผลงานของฮอนด้าสำหรับจัดแสดงในปีนี้มากันเพียบทั้งจากซีวิค รุ่นปรับโฉม, ฟิตใหม่, แอคคอร์ดใหม่ ไล่ไปจนถึงเอสยูวีที่มีขายในสหรัฐอเมริกาอย่างเอเลเมนท์ และริดจ์ไลน์ รวมแล้วมีมากถึง 16 คัน ซึ่งคันที่เด่นๆ ก็คือ ซีวิค ฮอนด้า แฟคตอรี่ เพอร์ฟอรแมนซ์ หรือ HFP, ฟิต มูเกน, ริดจ์ไลน์ เพาเวอร์สปอร์ต คอนเซ็ปต์ และแอคคอร์ด คูเป้ เรเซอร์ที่ได้รับการตกแต่งโดย Galpin Auto Sport
นอกจากนั้นฮอนด้ายังประกาศว่าจะส่งซีวิค Si คูเป้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Grand-Am KONI Challenge Serie ในปีหน้าอีกด้วย
Toyota : เหมือนกับฟอร์ดโดยมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นตลาดเพื่อเพิ่มความสนใจให้กับกลุ่มปิกอัพ โดยจับเอาทุนดรา ปิกอัพตัวโต และทาโคมา ปิกอัพรุ่นเล็กของตัวเองมาดัดแปลงเป็นรถยนต์ต้นแบบ 3 คัน 3 สไตล์ คันที่เด่นสุดเห็นจะเป็นโปรเจ็กต์ของทาง TRD ซึ่งจับเอาทาโคมามาดัดแปลงเป็นตัวลุย ขยายความกว้างของตัวถังและช่วงล้อหน้า-หลังอีก 7 นิ้ว วางเครื่องยนต์วี6 4,000 ซีซี ซูเปอร์ชาร์จ โดยด้านหลังออกแบบระบบกันสะเทือนใหม่เป็นแบบอิสระ และใช้โช้กอัพของบิลสไตน์
Chrysler/Dodge : ในเมื่อเป็นงานที่เน้นความสปอร์ต จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สำนัก MOPAR ของทางไครสเลอร์จะเข้ามามีส่วนในการพัฒนารถสำหรับจัดแสดงในปีนี้ แต่แน่นอนว่าไฮไลต์คือ การเปิดตัวต้นแบบของดอดจ์ แชลเลนเจอร์ที่มากับรหัส SRT10 ซึ่งเหนือระดับจากรุ่น SRT8 ที่มีขายอยู่ในตลาด เพราะว่าเป็นการถอดเอาเครื่องยนต์วี10 8,400 ซีซีรุ่นใหม่ล่าสุดของไวเปอร์มาวางใต้ฝากระโปรง แถมยังมีเรี่ยวแรงขยับขึ้นมาเป็น 600 แรงม้าเลยทีเดียว และถ้าไม่นับแชลเลนเจอร์ที่จอดโชว์อยู่บนเวทีของไครสเลอร์และดอดจ์แล้ว รถสปอร์ตรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาโมดิฟายเพื่อจัดแสดงอยู่ตามเวทีของสำนักแต่งเหมือนกับนิสสัน GT-R ซึ่งเป็นอีก 1 รถสปอร์ตสุดฮ็อตประจำงานนี้
Subaru : เป็นอีกแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความสนใจจากบรรดานักซิ่งเจ้าถิ่น และทางซูบารุเองก็ตอบรับงานนี้ด้วยการนำผลผลิตใหม่ๆ มาจัดแสดงเรียกความสนใจทั้งเวอร์ชัน Xti ของฟอเรสเตอร์ เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2,500 ซีซีเทอร์โบได้รับการเสริมความแรงเป็น 315 แรงม้า
ตามด้วย 2 เวอร์ชันของอิมเพรซา 5 ประตูจากการโมดิฟายของ SPT หรือ Subaru Performance Tuning ซึ่งคันแรกเน้นความสวยมากกว่าสมรรถนะเพราะสิ่งที่เปลี่ยนมีแค่หม้อพักใบท้าย และล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว ส่วนอีกคันมาในมาดตัวแข่งที่อัพเกรดเครื่องยนต์เทอร์โบ 2,500 ซีซีด้วยการปรับบูสต์เทอร์โบเพิ่มอีกนิด ได้ม้ามาใช้งานอีก 10 ตัวเป็น 275 แรงม้า
ที่สำคัญในปีหน้าเมื่อภาค 4 ของภาพยนตร์เรื่อง The Fast and Furious ลงฉาย จะมีตัวแรง STi ของซูบารุเข้าฉากร่วมแสดงเป็นครั้งแรกอีกด้วย
**ผู้สนใจเข้าชมงาน Motor Expo สามารถมารับบ้ตรได้ท่านละ 5 ใบที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โทร.02-6294488 ตั้งแต่วันนี้จนกว่าบัตรจะหมด**