xs
xsm
sm
md
lg

โตโยต้าสอยจีเอ็ม ทำยอดในจีนแซงหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวต่างประเทศ - ศึกความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ระหว่างโตโยต้าและจีเอ็มดูเหมือนว่าจะไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ตัวเลขรวมของยอดขายทั่วโลกเท่านั้น แต่ในตลาดรถยนต์เกิดใหม่อย่างจีนซึ่งจีเอ็มภูมิใจกับความสำเร็จในการทำยอดขายรถยนต์ขึ้นมาจ่อติดกับเจ้าของตลาดอย่างโฟล์คสวาเกน กลับกลายเป็นความสำเร็จในอดีตเสียแล้ว เมื่อมีการรายงานว่ายอดขายรถยนต์นั่งในช่วง 9 เดือนแรกของจีน โตโยต้าสามารถแซงหน้าจีเอ็มไปได้ และขยับขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายรวมสูงสุดในอันดับ 2 แทนที่

จากการเปิดเผยของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในจีน หรือ China Association of Automobile Manufacturers ระบุว่า แม้ว่าในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ในจีนจะลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันโดยมีตัวเลขอยู่ที่ 552,800 คันหรือลดลง 1.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ภาพรวมของตลาดก็ยังไปได้สวย เมื่อยอดขายสำหรับ 9 เดือนแรกของปีนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 11% จากปีที่แล้วด้วยยอดขายรวม 5.1 ล้านคัน และโฟล์คสวาเกนก็ยังครองความเป็นหมายเลข 1 ด้วยยอดขาย 753,450 คันจากการผลิตรถยนต์และทำตลาดภายใต้ความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรในจีน

ที่น่าสนใจคือ โตโยต้ามาแรงในตลาดรถยนต์จีน เพราะว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยตัวเลข 407,427 คัน สามารถแซงหน้าจีเอ็มขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ได้ ซึ่งใน 9 เดือนแรกของปีนี้จีเอ็มมียอดขายเพียง 373,945 คันเท่านั้น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับยอดขายของปีที่แล้ว

มีการเปิดเผยว่าความสำเร็จของโตโยต้าในครั้งนี้มาจากความสำเร็จในการผนึกกำลังกับพันธมิตรอย่าง Brilliance China และ Tianjin FAW Xiali ในการขยายตลาดออกไปสู่เมืองอื่นๆ หลังจากที่ตลาดรถยนต์ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้อยู่ในภาวะอิ่มตัว และมียอดขายไม่หวือหวาเหมือนกับที่ผ่านๆ มา

Dang Ren โฆษกของ Tianjin FAW กล่าวว่า ในตอนนี้รถยนต์ของโตโยต้าที่ขายผ่านแบรนด์ของ Tianjin ได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่น Vizi หรือโตโยต้า ยาริส/วิตซ์ และนั่นทำให้บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ของตัวเองทั่วประเทศจีนให้ขึ้นมาอยู่ที่ 800 แห่งภายในปี 2010

ขณะที่การผลิตรถยนต์ก็จะมีการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพื่อเดินหน้าตามเป้าหมายที่ตกลงร่วมกับโตโยต้าเอาไว้ว่าจะทำยอดขายของรถยนต์ที่ตัวเองรับผิดชอบให้ได้ในระดับ 400,000 คันต่อปีภายในปี 2010
กำลังโหลดความคิดเห็น