ข่าวต่างประเทศ - เศรษฐกิจตกต่ำ ราคาน้ำมันแพง กลายเป็น 2 ปัจจัยหลักที่ซ้ำเติมตลาดรถยนต์อเมริกัน และทางเจดี เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอสต์ สำนักวิจัยชื่อดังของเมืองลุงแซม ทำนายว่าตลาดรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาในปีนี้จะมียอดขายลดลงอย่างแน่นอน ด้วยตัวเลขที่ไม่น่าจะถึง 14 ล้านคัน
จากการเปิดเผยของเจดี เพาเวอร์ระบุว่า ยอดขายปีนี้ทั้งแบบขายปลีกและขายแบบฟลีต(ล็อตใหญ่)จะลดลงจากปีที่แล้วถึง 16% ซึ่งนั่นทำให้ตัวเลขจากเดิมซึ่งอยู่ที่ 16.1 ล้านคันในปี 2007 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 13.6 ล้านคันเท่านั้นสำหรับปีนี้
โดยยอดขายสำหรับรถยนต์ในส่วนของขายปลีก หรือ Retail Sales จะลดลงอย่างมาก โดยมีตัวเลขเพียง 10.8 ล้านคันเท่านั้น หรือน้อยกว่ายอดขายปี 2007 ถึงกว่า 2 ล้านคันเลยทีเดียว ส่วนการขายแบบฟลีตลดจาก 3.3 ล้านคันในปี 2007 มาอยู่ที่ 2.8 ล้านคันในปีนี้
เชื่อว่าปัญหานี้มาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากความไม่แน่ใจต่อสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และปัญหาในเรื่องของการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน อีกทั้งปัจจัยนี้ยังส่งผลให้การใช้รถยนต์ของคนอเมริกันโดยเฉลี่ยนานขึ้นกว่าปกติอีกด้วย จากเดิมในปี 2007 มีค่าเฉลี่ยของการใช้รถยนต์ 1 คันก่อนเปลี่ยนใหม่อยู่ที่ 67 เดือนก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 71 เดือนสำหรับในปีนี้
นอกจากนั้น ทางเจดี เพาเวอร์เชื่อว่าปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการตัดสินใจของลูกค้า และทำให้โอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่มีความยากขึ้นกว่าเมื่อก่อนยังส่ง ผลต่อเนื่องไปยังปี 2009 อีกด้วย และมั่นใจว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์อเมริกันจะยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตัวเลขยอดขายของปี 2009 จะหล่นลงมาอยู่ที่ 13.2 ล้านคัน และยอดขายรถยนต์แบบปลีกจะลดลงมาอยู่ที่ 10.6 ล้านคันเท่านั้น
จากการเปิดเผยของเจดี เพาเวอร์ระบุว่า ยอดขายปีนี้ทั้งแบบขายปลีกและขายแบบฟลีต(ล็อตใหญ่)จะลดลงจากปีที่แล้วถึง 16% ซึ่งนั่นทำให้ตัวเลขจากเดิมซึ่งอยู่ที่ 16.1 ล้านคันในปี 2007 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 13.6 ล้านคันเท่านั้นสำหรับปีนี้
โดยยอดขายสำหรับรถยนต์ในส่วนของขายปลีก หรือ Retail Sales จะลดลงอย่างมาก โดยมีตัวเลขเพียง 10.8 ล้านคันเท่านั้น หรือน้อยกว่ายอดขายปี 2007 ถึงกว่า 2 ล้านคันเลยทีเดียว ส่วนการขายแบบฟลีตลดจาก 3.3 ล้านคันในปี 2007 มาอยู่ที่ 2.8 ล้านคันในปีนี้
เชื่อว่าปัญหานี้มาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากความไม่แน่ใจต่อสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และปัญหาในเรื่องของการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน อีกทั้งปัจจัยนี้ยังส่งผลให้การใช้รถยนต์ของคนอเมริกันโดยเฉลี่ยนานขึ้นกว่าปกติอีกด้วย จากเดิมในปี 2007 มีค่าเฉลี่ยของการใช้รถยนต์ 1 คันก่อนเปลี่ยนใหม่อยู่ที่ 67 เดือนก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 71 เดือนสำหรับในปีนี้
นอกจากนั้น ทางเจดี เพาเวอร์เชื่อว่าปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการตัดสินใจของลูกค้า และทำให้โอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่มีความยากขึ้นกว่าเมื่อก่อนยังส่ง ผลต่อเนื่องไปยังปี 2009 อีกด้วย และมั่นใจว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์อเมริกันจะยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตัวเลขยอดขายของปี 2009 จะหล่นลงมาอยู่ที่ 13.2 ล้านคัน และยอดขายรถยนต์แบบปลีกจะลดลงมาอยู่ที่ 10.6 ล้านคันเท่านั้น
