คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ร่วมประชุมเจรจากำหนดสัดส่วน การรับตำแหน่งในคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร และเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการรวม 35 คณะ โดยสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยมี 14 คณะ พรรคประชาธิปัตย์ 12 คณะ พรรคภูมิใจไทย 2 คณะ พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คณะ พรรคเพื่อแผ่นดิน 2 คณะ พรรครวมใจไทย พรรคประชาราช และพรรคกิจสังคมพรรคละ 1 คณะ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และไม่เป็นไปตามความพึงพอใจของแต่ละพรรค
โดยประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ให้เวลาแต่ละพรรคการเมืองไปหารือร่วมกันอีกครั้ง และกำหนดที่จะนำประเด็นมาตกลงกันในสัปดาห์หน้า และหากยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อาจมีความจำเป็นต้องทบทวน และเริ่มต้นจัดสรรกันใหม่ทั้งหมด เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้าน ยืนยันที่จะทำความเข้าใจร่วมกันได้ระหว่างพรรค เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติสามารถเดินหน้าไปได้ และย้ำว่าแต่ละพรรคนั้น ควรสรรหาบุคคลมาแทนตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น ไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยจะขอสัดส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และคณะกรรมาธิการคมนาคม แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถแบ่งสรรให้ได้ เนื่องจากมีผู้รับหน้าที่อยู่แล้ว เหลือเพียงคณะกรรมาธิการองค์ตามรัฐธรรมนูญรัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระ กับคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่สามารถแบ่งให้ได้ พร้อมให้เหตุผลว่า นายชัย ชิดชอบ ยังดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงน่าจะทำหน้าที่ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยปฏิเสธที่จะรับไว้ จึงทำให้การหารือไม่ได้ข้อสรุป โดยหากภายในสัปดาห์นี้แต่ะละพรรคการเมือง ไม่สามารถหารือนอกรอบกันได้ และจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมวิปกันอีกครั้ง ก็จะใช้มาตรการตามข้อตกลง 3 ระดับคือ เจรจาครั้งสุดท้าย จับสลากรายคณะ และทบทวนใหม่และเริ่มจับสลากแต่ละคณะใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารนั้นต้องล่าช้าออกไปอีก
โดยประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ให้เวลาแต่ละพรรคการเมืองไปหารือร่วมกันอีกครั้ง และกำหนดที่จะนำประเด็นมาตกลงกันในสัปดาห์หน้า และหากยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อาจมีความจำเป็นต้องทบทวน และเริ่มต้นจัดสรรกันใหม่ทั้งหมด เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้าน ยืนยันที่จะทำความเข้าใจร่วมกันได้ระหว่างพรรค เพื่อให้งานของฝ่ายนิติบัญญัติสามารถเดินหน้าไปได้ และย้ำว่าแต่ละพรรคนั้น ควรสรรหาบุคคลมาแทนตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น ไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยจะขอสัดส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และคณะกรรมาธิการคมนาคม แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถแบ่งสรรให้ได้ เนื่องจากมีผู้รับหน้าที่อยู่แล้ว เหลือเพียงคณะกรรมาธิการองค์ตามรัฐธรรมนูญรัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระ กับคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่สามารถแบ่งให้ได้ พร้อมให้เหตุผลว่า นายชัย ชิดชอบ ยังดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงน่าจะทำหน้าที่ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยปฏิเสธที่จะรับไว้ จึงทำให้การหารือไม่ได้ข้อสรุป โดยหากภายในสัปดาห์นี้แต่ะละพรรคการเมือง ไม่สามารถหารือนอกรอบกันได้ และจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมวิปกันอีกครั้ง ก็จะใช้มาตรการตามข้อตกลง 3 ระดับคือ เจรจาครั้งสุดท้าย จับสลากรายคณะ และทบทวนใหม่และเริ่มจับสลากแต่ละคณะใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารนั้นต้องล่าช้าออกไปอีก