ข่าวต่างประเทศ - วอลโว่ปรับตัวตามยุคที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกาศชัดเตรียมบุกตลาดรถยนต์ไฮบริดอย่างแน่นอนในอีกไม่เกิน 3 ปีนับจากนี้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับลูกค้าในตลาด โดยมุ่งเน้นไปที่ระบบลูกผสมที่เป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ระบบไฮบริดของวอลโว่เรียกว่า Micro-Hybrid System ซึ่งมีฟังก์ชันในการทำงานไม่แตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไป โดยเฉพาะระบบ Start-Stop หรือเครื่องยนต์ดับเมื่อรถจอดติดอยู่กับที่ และในปีแรกของการทำตลาดซึ่งจะเริ่มขึ้นปลายปี 2011 นั้นจะเป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่อิงพื้นฐานจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล และจากนั้นจะมีระบบไฮบริดแบบ Plug-in ที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ตามออกมาในอีกไม่นาน
"Micro-Hybrid System ของเรามีความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ในระดับเดียวกัน 4-5% เมื่อขับภายใต้รูปแบบที่ผสมกันทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยถือเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในอนาคต ในยุคที่ราคาน้ำมันและความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ"แม็กนุส จอนส์สัน รองประฝ่ายอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของวอลโว่กล่าว
ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน วอลโว่เปิดเผยว่าจะมีการปรับปรุงให้มีความประหยัดน้ำมันขึ้น และในรุ่น 4 สูบแบบเทอร์โบจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีไดเร็กต์อินเจ็กชัน หรือ GTDi - Gas Turbo Direct injection ภายในปี 2009
โดยที่ระบบไฮบริดแบบ Plug-in ของวอลโว่นั้น จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากระบบไฮบริดแบบเดิมๆ เพราะสามารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่า 100 กิโลเมตรเมื่ออาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อนผ่านทางมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดก็จะมีการสตาร์ทเครื่องยนต์สันดาปภายในให้ทำงานเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าในขณะที่กำลังแล่น หรือสามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าจากปลั๊กในครัวเรือนก็ได้
ระบบไฮบริดของวอลโว่เรียกว่า Micro-Hybrid System ซึ่งมีฟังก์ชันในการทำงานไม่แตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไป โดยเฉพาะระบบ Start-Stop หรือเครื่องยนต์ดับเมื่อรถจอดติดอยู่กับที่ และในปีแรกของการทำตลาดซึ่งจะเริ่มขึ้นปลายปี 2011 นั้นจะเป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่อิงพื้นฐานจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล และจากนั้นจะมีระบบไฮบริดแบบ Plug-in ที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ตามออกมาในอีกไม่นาน
"Micro-Hybrid System ของเรามีความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ในระดับเดียวกัน 4-5% เมื่อขับภายใต้รูปแบบที่ผสมกันทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยถือเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในอนาคต ในยุคที่ราคาน้ำมันและความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ"แม็กนุส จอนส์สัน รองประฝ่ายอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของวอลโว่กล่าว
ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน วอลโว่เปิดเผยว่าจะมีการปรับปรุงให้มีความประหยัดน้ำมันขึ้น และในรุ่น 4 สูบแบบเทอร์โบจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีไดเร็กต์อินเจ็กชัน หรือ GTDi - Gas Turbo Direct injection ภายในปี 2009
โดยที่ระบบไฮบริดแบบ Plug-in ของวอลโว่นั้น จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากระบบไฮบริดแบบเดิมๆ เพราะสามารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่า 100 กิโลเมตรเมื่ออาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อนผ่านทางมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดก็จะมีการสตาร์ทเครื่องยนต์สันดาปภายในให้ทำงานเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าในขณะที่กำลังแล่น หรือสามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าจากปลั๊กในครัวเรือนก็ได้
