นอกจากมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และมาสด้า คาซาไม คอนเซ็ปต์แล้ว อีกดาวเด่นสำหรับงานมอสโคว์ มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศรัสเซียซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา รถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ถือว่าน่าสนใจและถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งานนี้คือการปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์ของซี4 คอมแพ็กต์คาร์รุ่นดังจากค่ายซีตรอง ซึ่งมาพร้อมกับความสดใหม่ในทุกรายละเอียดและเตรียมประเดิมตลาดในยุโรปทันทีทั้งรุ่น 3 และ 5 ประตู

ซี4 ถูกเปิดตัวออกสู่ตลาดในปลายปี 2004 เพื่อเข้ามาแทนที่ Xsara และถือว่าดังเอาเรื่องเพราะสปอตโฆษณาชิ้นดังที่จัดการทำให้ซี4 สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์เหมือนกับภาพยนตร์ Transformers ซึ่งสร้างความฮือฮาจากลูกค้าในยุโรปได้ไม่น้อย และอีกความดังคือการถูกพัฒนาเป็นตัวแข่งแรลลี่โลก หรือ WRC ซึ่งมีส่วนในการพาเซบาสเตียน โล๊บคว้าแชมป์โลกได้อีกสมัยในปี 2007 โดยตลอด 4 ปีที่ขายอยู่ในตลาด มีตัวเลขยอดขายสะสมรวมกันเกือบ 900,000 คันทั่วโลก
ในรุ่นปรับโฉมมาพร้อมกับรูปลักษณ์ด้านหน้าและหลังที่มีความแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่างชัดเจน ทั้งกันชนหน้าและหลังลายใหม่ ซึ่งมีความสปอร์ตขึ้น ไฟหน้าแม้เป็นทรงเดิมในแบบตัว L แต่ก็เปลี่ยนรายละเอียดของไฟที่อยู่ภายในใหม่ ขณะที่ด้านท้ายสวยสะดุดตาด้วยไฟท้ายลายใหม่ ส่วนรุ่นซีดานยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ และไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการปรับโฉมตามรุ่นแฮทช์แบ็ก เพราะว่าซีตรองพัฒนารุ่นซีดานขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดรถยนต์เกิดใหม่ทั้งในจีนและอเมริกาใต้เป็นหลัก

มิติตัวถังของทั้ง 2 แบบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก โดยเวอร์ชัน 5 ประตูมีความยาว 4,260 มิลลิเมตร กว้าง 1,773 มิลลิเมตร สูง 1,458 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,608 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 3 ประตูแตกต่างออกไปเล็กน้อย มีความยาว 4,273 มิลลิเมตร กว้าง 1,769 มิลลิเมตร ส่วนความสูงและระยะฐานล้อเท่ากัน
ภายในห้องโดยสารแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าจุดหลักๆ ของรายละเอียด เช่น แผงหน้าปัดยังมีรูปทรงเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนวัสดุในการตกแต่งใหม่ เช่นเดียวกับพวงมาลัย ซึ่งสร้างชื่อให้กับซี4 ในเรื่องความแปลกใหม่ของการออกแบบ เพราะว่าตัววงพวงสามารถหมุนได้ แต่ในส่วนที่เป็นตรงกลางของพวงมาลัยซึ่งตามปกติจะเป็นที่ติดตั้งแตรและแอร์แบ็คจะยึดติดตายตัวต่างจากพวงมาลัยในรถยนต์ทั่วไป

ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่ใหม่และแตกต่างจากรุ่นเดิม คือ ในรุ่นเบนซินจะเสริมทัพด้วยขุมพลังที่ทาง PSA บริษัทแม่ของซีตรองร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยูในการพัฒนาขึ้นมา เป็นขุมพลัง 4 สูบ 1,600 ซีซี โดยจะมีทั้งรุ่นธรรมดา 120 แรงม้า และตัวแรงแบบติดเทอร์โบ 150 แรงม้า
โดยใครที่อยากสัมผัสกับความแรงและเร้าใจสุดๆ ของเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 180 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 20.6 กก.-ม. ที่ 4,750 รอบต่อนาที ซึ่งใช้เวลาเพียง 8.3 วินาทีในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วปลาย 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องจ่ายเงินซื้อตัวถัง 3 ประตูเท่านั้น

ส่วนรุ่น 2,000 ซีซีแบบธรรมดาที่มีม้า 143 ตัวนั้นจะมีขายทั้งรุ่น 3 และ 5 ประตูในกรณีที่เป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และจะมีเฉพาะรุ่น 5 ประตูสำหรับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนใครที่ชอบความประหยัดก็ต้อ งกันมาคบกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,400 ซีซี 90 แรงม้า

ในตลาดเทอร์โบดีเซล ซีตรองนำเสนอจุดเด่นด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ประเภทนี้ให้มีทั้งความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และค่ามลพิษในไอเสียที่ลดลง โดยเฉพาะสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 แล้ว ซึ่งมี 3 ทางเลือกบนพื้นฐาน 2 ความจุของขุมพลัง 4 สูบ คอมมอนเรล เริ่มกับ 1,600 ซีซี ซึ่งมี 2 กำลังขับเคลื่อน 92 และ 110 แรงม้า
ส่วนอีกรุ่นคือ 2,000 ซีซี 138 แรงม้า โดยทุกรุ่นใช้เทอร์โบแบบมีครีบแปรผันหรือ VGT ยกเว้นรุ่น 92 แรงม้า และมีเกียร์ให้เลือก 3 แบบ คือ ธรรมดา 5 และ 6 จังหวะ หรืออยากเลือกสบายกับธรรมดา 6 จังหวะแบบคลัตช์ไฟฟ้าก็ได้

หลังเปิดตัวในงานที่มอสโคว์แล้ว ซีตรองวางแผนส่งซี4 ทำตลาดในยุโรปทันทีช่วงปลายปีนี้ โดยที่ยังไม่เปิดเผยราคาออกมา ส่วนบ้านเราน่าจะมีการนำเข้ามาขายเช่นกันเพราะที่ผ่านมา แม้ซีตรองจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว แต่ก็มีรถยนต์ครบครันเหมือนกับที่ขายอยู่ในยุโรป
ซี4 ถูกเปิดตัวออกสู่ตลาดในปลายปี 2004 เพื่อเข้ามาแทนที่ Xsara และถือว่าดังเอาเรื่องเพราะสปอตโฆษณาชิ้นดังที่จัดการทำให้ซี4 สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์เหมือนกับภาพยนตร์ Transformers ซึ่งสร้างความฮือฮาจากลูกค้าในยุโรปได้ไม่น้อย และอีกความดังคือการถูกพัฒนาเป็นตัวแข่งแรลลี่โลก หรือ WRC ซึ่งมีส่วนในการพาเซบาสเตียน โล๊บคว้าแชมป์โลกได้อีกสมัยในปี 2007 โดยตลอด 4 ปีที่ขายอยู่ในตลาด มีตัวเลขยอดขายสะสมรวมกันเกือบ 900,000 คันทั่วโลก
ในรุ่นปรับโฉมมาพร้อมกับรูปลักษณ์ด้านหน้าและหลังที่มีความแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่างชัดเจน ทั้งกันชนหน้าและหลังลายใหม่ ซึ่งมีความสปอร์ตขึ้น ไฟหน้าแม้เป็นทรงเดิมในแบบตัว L แต่ก็เปลี่ยนรายละเอียดของไฟที่อยู่ภายในใหม่ ขณะที่ด้านท้ายสวยสะดุดตาด้วยไฟท้ายลายใหม่ ส่วนรุ่นซีดานยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ และไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการปรับโฉมตามรุ่นแฮทช์แบ็ก เพราะว่าซีตรองพัฒนารุ่นซีดานขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดรถยนต์เกิดใหม่ทั้งในจีนและอเมริกาใต้เป็นหลัก
มิติตัวถังของทั้ง 2 แบบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก โดยเวอร์ชัน 5 ประตูมีความยาว 4,260 มิลลิเมตร กว้าง 1,773 มิลลิเมตร สูง 1,458 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,608 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 3 ประตูแตกต่างออกไปเล็กน้อย มีความยาว 4,273 มิลลิเมตร กว้าง 1,769 มิลลิเมตร ส่วนความสูงและระยะฐานล้อเท่ากัน
ภายในห้องโดยสารแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าจุดหลักๆ ของรายละเอียด เช่น แผงหน้าปัดยังมีรูปทรงเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนวัสดุในการตกแต่งใหม่ เช่นเดียวกับพวงมาลัย ซึ่งสร้างชื่อให้กับซี4 ในเรื่องความแปลกใหม่ของการออกแบบ เพราะว่าตัววงพวงสามารถหมุนได้ แต่ในส่วนที่เป็นตรงกลางของพวงมาลัยซึ่งตามปกติจะเป็นที่ติดตั้งแตรและแอร์แบ็คจะยึดติดตายตัวต่างจากพวงมาลัยในรถยนต์ทั่วไป
ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่ใหม่และแตกต่างจากรุ่นเดิม คือ ในรุ่นเบนซินจะเสริมทัพด้วยขุมพลังที่ทาง PSA บริษัทแม่ของซีตรองร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยูในการพัฒนาขึ้นมา เป็นขุมพลัง 4 สูบ 1,600 ซีซี โดยจะมีทั้งรุ่นธรรมดา 120 แรงม้า และตัวแรงแบบติดเทอร์โบ 150 แรงม้า
โดยใครที่อยากสัมผัสกับความแรงและเร้าใจสุดๆ ของเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 180 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 20.6 กก.-ม. ที่ 4,750 รอบต่อนาที ซึ่งใช้เวลาเพียง 8.3 วินาทีในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วปลาย 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องจ่ายเงินซื้อตัวถัง 3 ประตูเท่านั้น
ส่วนรุ่น 2,000 ซีซีแบบธรรมดาที่มีม้า 143 ตัวนั้นจะมีขายทั้งรุ่น 3 และ 5 ประตูในกรณีที่เป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และจะมีเฉพาะรุ่น 5 ประตูสำหรับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนใครที่ชอบความประหยัดก็ต้อ งกันมาคบกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,400 ซีซี 90 แรงม้า
ในตลาดเทอร์โบดีเซล ซีตรองนำเสนอจุดเด่นด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ประเภทนี้ให้มีทั้งความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และค่ามลพิษในไอเสียที่ลดลง โดยเฉพาะสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 แล้ว ซึ่งมี 3 ทางเลือกบนพื้นฐาน 2 ความจุของขุมพลัง 4 สูบ คอมมอนเรล เริ่มกับ 1,600 ซีซี ซึ่งมี 2 กำลังขับเคลื่อน 92 และ 110 แรงม้า
ส่วนอีกรุ่นคือ 2,000 ซีซี 138 แรงม้า โดยทุกรุ่นใช้เทอร์โบแบบมีครีบแปรผันหรือ VGT ยกเว้นรุ่น 92 แรงม้า และมีเกียร์ให้เลือก 3 แบบ คือ ธรรมดา 5 และ 6 จังหวะ หรืออยากเลือกสบายกับธรรมดา 6 จังหวะแบบคลัตช์ไฟฟ้าก็ได้
หลังเปิดตัวในงานที่มอสโคว์แล้ว ซีตรองวางแผนส่งซี4 ทำตลาดในยุโรปทันทีช่วงปลายปีนี้ โดยที่ยังไม่เปิดเผยราคาออกมา ส่วนบ้านเราน่าจะมีการนำเข้ามาขายเช่นกันเพราะที่ผ่านมา แม้ซีตรองจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว แต่ก็มีรถยนต์ครบครันเหมือนกับที่ขายอยู่ในยุโรป