ข่าวในประเทศ – กลุ่ม “บ๊อช” ในประเทศไทย แม้ปัจจัยลบเพียบยังมั่นใจเติบโตทะลุตัวเลข 2 หลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10% จากผลประกอบการปีที่แล้วกว่า 7.2 พันล้านบาท ประกาศเดินหน้าสร้างรากฐานที่มั่นคงลงทุน หลากหลายธุรกิจ ทั้งอุตฯ ยานยนต์และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเข้าควบรวมกิจการผลิตระบบเบรกของกลุ่มแปซิฟิกา รวมถึงโรงงานผลิตในไทย เผยแผนลงทุนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 3 ปี ทุ่มงบ 1.9 พันล้านยูโร
นายย๊อคเฮ่น ไรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรเบิร์ตบ๊อช จำกัด ธุรกิจภายใต้บ๊อชกรุ๊ป ประเทศเยอรมนี ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในไทยของบ๊อชในปี 2551 ถือเป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จากปัญหาความผันผวนทางการเมือง และราคาน้ำมัน ซึ่งล้วนมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้บ๊อชต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ทั้งกลยุทธ์การทำตลาด บุคลากร และตัวสินค้า ซึ่งจากการทำงานหนักมากขึ้น จะทำให้บ๊อชสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้
“ปีนี้บ๊อชตั้งเป้าเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่าตัวเลข 2 หลัก ซึ่งผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกก็เป็นไปตามเป้าหมาย เพียงแต่ช่วงครึ่งปีหลังจะต้องวิเคราะห์ และดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพราะสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ หรือมีผลประกอบการมากกว่า 10% ขึ้นไป เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทำรายได้มากกว่า 7.2 พันล้านบาท”
สำหรับการรักษาระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งของบ๊อชในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีรากฐานที่มั่นคง จึงดำเนินการไปพร้อมกันหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้านต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น ตั้งสำนักงานประสานงานของ บ๊อช เร็กโรธ ในประเทสไทย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในหมวดเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ตั้งหน่วยนำร่องการขายของฝ่ายเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ และเข้าไปควบรวมกิจการของกลุ่มแปซิฟิกา ประเทศออสเตรเลีย ผู้ผลิตชิ้นส่วนของระบบเบรกระดับโลก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา ทำให้บ๊อชเข้าไปดูแลโรงงานผลิตอุปกรณ์ระบบเบรกของแปซิฟกาในไทย หรือชื่อใหม่ บริษัท บ๊อช แชสซิส ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์น ซีบอร์ด จ.ระยองด้วย
ทั้งนี้บ๊อชกรุ๊ปยังมีเป้าหมายสำคัญ คืองานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดพลังงาน และทรัพยากร โดยล่าสุดบ๊อชได้ลงนามความตกลงกับบริษัท ซัมซุง เอส ดี ไอ จำกัด เพื่อพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธี่ยมอิออน สำหรับการใช้กับยานยนต์ต่างๆ รวมถึงเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ERSOL SOLAR ENERGY AG ผู้เชี่ยวชาญในการแปรรูปพลังงานแสงอาทิตย์ ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า พัฒนา ผลิต และขายแผ่นโซล่าเซลส์ ซึ่งบ๊อชในประเทศไทยเองก็ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอให้บริษัทแม่พิจารณานำธุรกิจเทคโนโลยีเหล่านี้มาลงทุนในไทย โดยตั้งแต่ปี 2008-2010 บ๊อชมีแผนการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟ รวมถึงประเทศไทยมูลค่าประมาณ 1.9 พันล้านยูโร
นายย๊อคเฮ่น ไรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรเบิร์ตบ๊อช จำกัด ธุรกิจภายใต้บ๊อชกรุ๊ป ประเทศเยอรมนี ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในไทยของบ๊อชในปี 2551 ถือเป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จากปัญหาความผันผวนทางการเมือง และราคาน้ำมัน ซึ่งล้วนมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้บ๊อชต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ทั้งกลยุทธ์การทำตลาด บุคลากร และตัวสินค้า ซึ่งจากการทำงานหนักมากขึ้น จะทำให้บ๊อชสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้
“ปีนี้บ๊อชตั้งเป้าเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่าตัวเลข 2 หลัก ซึ่งผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกก็เป็นไปตามเป้าหมาย เพียงแต่ช่วงครึ่งปีหลังจะต้องวิเคราะห์ และดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพราะสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ หรือมีผลประกอบการมากกว่า 10% ขึ้นไป เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทำรายได้มากกว่า 7.2 พันล้านบาท”
สำหรับการรักษาระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งของบ๊อชในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีรากฐานที่มั่นคง จึงดำเนินการไปพร้อมกันหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้านต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น ตั้งสำนักงานประสานงานของ บ๊อช เร็กโรธ ในประเทสไทย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในหมวดเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ตั้งหน่วยนำร่องการขายของฝ่ายเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ และเข้าไปควบรวมกิจการของกลุ่มแปซิฟิกา ประเทศออสเตรเลีย ผู้ผลิตชิ้นส่วนของระบบเบรกระดับโลก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา ทำให้บ๊อชเข้าไปดูแลโรงงานผลิตอุปกรณ์ระบบเบรกของแปซิฟกาในไทย หรือชื่อใหม่ บริษัท บ๊อช แชสซิส ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์น ซีบอร์ด จ.ระยองด้วย
ทั้งนี้บ๊อชกรุ๊ปยังมีเป้าหมายสำคัญ คืองานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดพลังงาน และทรัพยากร โดยล่าสุดบ๊อชได้ลงนามความตกลงกับบริษัท ซัมซุง เอส ดี ไอ จำกัด เพื่อพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธี่ยมอิออน สำหรับการใช้กับยานยนต์ต่างๆ รวมถึงเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ERSOL SOLAR ENERGY AG ผู้เชี่ยวชาญในการแปรรูปพลังงานแสงอาทิตย์ ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า พัฒนา ผลิต และขายแผ่นโซล่าเซลส์ ซึ่งบ๊อชในประเทศไทยเองก็ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอให้บริษัทแม่พิจารณานำธุรกิจเทคโนโลยีเหล่านี้มาลงทุนในไทย โดยตั้งแต่ปี 2008-2010 บ๊อชมีแผนการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟ รวมถึงประเทศไทยมูลค่าประมาณ 1.9 พันล้านยูโร