xs
xsm
sm
md
lg

ปลัดอุตฯ ฟันธงอีโคคาร์เจ๋งกว่าE85

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประทศ - "จักรมณฑ์" ย้ำรถ อี85 ถ้าจะเกิดต้องไม่บิดเบือนอุตฯยานยนต์บิดเบือด เชื่อโครงการอีโคคาร์รุ่งแน่นอน

จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
กล่าวในการสัมมนาเรื่อง “อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกับ E85” ซึ่งจัดโดยสถาบันยานยนต์ ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทยว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทย แต่จำเป็นที่จะต้องศึกษาและพิจารณาข้อมูลต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้งระบบเสียก่อน ไม่ใช่มองเพียงมิติของเรื่องพลังงานทดแทนเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้จากการพิจารณาความเป็นไปได้ ที่จะทำให้น้ำมัน E85 เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้รถ จำเป็นต้องมีราคาเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของราคาน้ำมันเบนซินปกติ เพราะมีอัตราสิ้นเปลืองกว่ามาก ซึ่งเมื่อดูคร่าวๆ แล้วแม้จะงดเก็บภาษีน้ำมันทุกชนิด ยังไม่สามารถทำให้ราคาลดลงถึงครึ่งได้ นั่นย่อมหมายความว่ารัฐต้องเข้าไปสนับสนุนเพื่อทำให้มีราคาถึงครึ่งหรือต่ำกว่า สุดท้ายรัฐก็ต้องสูญเสียถึง 2 ต่อ และยังเป็นการเข้าไปบิดเบือนกลไกตลาดอีกด้วย

ส่วนการสนับสนุนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ให้ต่ำกว่าอัตราปัจจุบันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติอยู่ที่ 25% เท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E20 จนมีอัตราภาษีใกล้เคียงกับรถยนต์นั่งประหยัดพลังงานมาตรฐานการสากล หรืออีโคคาร์ ที่เสียในอัตรา 17% ตรงนี้จะทำให้เกิดความสับสนและส่งผลกระทบต่อโครงการอีโคคาร์ ที่มีผู้ประกอบการ 6 ราย ขอรับส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมกันประมาณ 2 แสนล้านบาท ขณะที่น้ำมัน E85 ลงทุนเพียงปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และระบบเท่านั้น

นายจักรมณฑ์กล่าวอีกว่า แม้น้ำมัน E85 ถือเป็นพลังงานทดแทนที่ดี แต่ยังไม่ใช่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่อีโคคาร์สามารถตอบสนองได้มากกว่า เพราะเป็นรถที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ และที่สำคัญเป็นรถที่สามารถตอบประเด็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาสภาวะโลกร้อน ที่ทั่วโลกกำลังช่วยกันแก้ปัญหาอยู่ อีโคคาร์จึงเป็นรถที่สามารถส่งออกไปได้ทั่วโลก เพราะตรงกับแนวทางของตลาดโลก จึงสร้างมูลค่าให้กับประเทศไทยได้มาก

“อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นด้วยกับการมีน้ำมัน E85 เพียงแต่จะต้องศึกษาให้ครอบคลุมทั้งระบบ โดยเฉพาะการไปทำให้โครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์บิดเบือน จนเกิดความสับสนของผู้ประกอบการ และสิ่งสำคัญไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวภาษี หรือสนับสนุนจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้รัฐสูญเสียมากกว่าได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ และหาจุดสมดุลที่เหมาะสม รวมถึงมีกรอบระยะเวลาชัดเจน”

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า การที่ภาครัฐจะผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน โตโยต้ามีข้อเสนอแนะไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งกับภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพราะจะไปกระทบกับโครงสร้างทั้งระบบ และจะให้การสนับสนุนอะไร จำเป็นต้องรอดูโรดแมปพลังงานที่เป็นรูปธรรมเสียก่อน รวมถึงรัฐจะต้องจัดสรรเชื้อเพลิงแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับรถยนต์นั้นๆ และสุดท้ายต้องตั้งคณะกรรมการแห่งชาติมาดูภาพรวมว่า เวลานี้ควรจะใช้วัตถุดิบทางเกษตรเป็นอาหาร หรือเชื้อเพลิงดี เพื่อพิจารณาอย่างไหนจะเกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น