ข่าวในประเทศ - เผยโรดแมปบุกตลาดรถไทย ระหว่างปี 2008-2010 ของค่ายรถยักษ์ใหญ่จากอินเดีย "ทาทา" ประกาศเดินหน้าชูรถประหยัดพลังงานเป็นธงนำ หลังจากส่งโมเดลแรกปิกอัพ "ทาทา ซีนอน" นำร่องไปแล้วเกือบ 6 เดือน และยังมีแผนรุกต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้ กับ "ซีนอน CNG" ซึ่งใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ 100% วางเครื่องยนต์ 2,100 ซีซี 115 แรงม้า เคาะราคาบวกจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4-5 หมื่นบาท
จากนั้นต้นปีหน้า 2009 เตรียมส่งปิกอัพเล็กรุ่น "เอช" เขย่าคู่แข่ง "ซูซูกิ แครี่" ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ แต่วางเครื่องยนต์ดีเซล 1,400 ลิตร เพื่อตอบสนองการใช้งานดัดแปลงรถได้หลากหลายกว่าเครื่องเบนซิน เคาะราคากว่า 3 แสนบาท และวางแผนประกอบรองรับการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย-มาเลเซียด้วย แต่ไฮไลต์อยู่ที่ปี 2010 ที่จะขึ้นไลน์ผลิตรถนั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ ในโรงงานแห่งใหม่มูลค่าลงทุน 6 พันล้านบาท ที่ได้นำจุดเด่นของรุ่น "นาโน" และ "อินดิก้า" มาพัฒนาและออกแบบใหม่หมด วางเครื่องยนต์ 1,100 ซีซี โดยจะเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรก
นับจากวันเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกปิกอัพ "ทาทา ซีนอน"สู่ตลาด ของค่ายยักษ์จากแดนภารตะ "ทาทา" ถึงขณะนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 6 เดือน ซึ่งผลตอบรับอาจจะไม่หวือหวานัก เพราะนอกจากจะรุกตลาดในช่วงที่ตลาดรถยนต์ไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การเมืองผันผวน ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล จนเกิดสภาวะออยล์ช็อกทำให้ยอดขายปิกอัพทุกค่ายร่วงกันเป็นแถว
ประกอบกับเครือข่ายการขาย รวมถึงไลน์ผลิตที่ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ทั้งเรื่องชิ้นส่วนและการประกอบ ยอดขายปิกอัพทาทาในช่วง 2-3 เดือนแรก จึงแทบจะไม่ขยับแต่อย่างใด
"ระยะแรกของการเปิดตัว เรามีปัญหาเรื่องไลน์การผลิตที่ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ในไทยที่ส่งมอบไม่ทัน รวมถึงเครือข่ายการจำหน่ายที่ยังไม่เปิดบริการเต็มที่ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่จองได้ทัน ส่งผลให้ลูกค้าที่จองในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์กว่า 200 คัน บางรายทนรอไม่ไหวต้องถอนจองไป แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทุกอย่างเริ่มลงตัวจึงสามารถทยอยส่งมอบรถได้ โดยเรานับเฉพาะยอดส่งมอบจริงให้กับลูกค้าเท่านั้น เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละกว่า 20 คัน แต่มียอดขายปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ตัวเลขขยับเพิ่มเป็น 30 คันแล้ว" สมพงษ์ ผลจิตจรูญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทาทา มอเตอร์ส จำกัด กล่าวกับ "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ถึงสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมและว่า
ประกอบในช่วงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ออยล์ช็อก ราคาปรับทะลุ 40 บาท ทำให้ตลาดโดยรวมของปิกอัพลดลงอย่างมาก ทาทาจึงได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า จากเดิมคาดว่าปีแรก (เม.ย.51-เม.ย.52) จะมียอดขาย 3,000 คัน แต่ดูจากแนวโน้มแล้วน่าจะทำได้เพียงประมาณ 2,000 คันเท่านั้น
แม้จะพลาดเป้าไปบ้าง แต่ทาทามีนโยบายชัดเจนในการเข้ามาทำตลาดและลงทุนในไทย ซึ่งระยะแรกบริษัทแม่ทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดีย ไม่ได้มุ่งหวังตัวเลขยอดขายเป็นเป้าหมายนำ จะเห็นว่าปีแรกเราตั้งเป้าไว้เพียง 2,000-3,000 คันเท่านั้น โดยช่วงแรกเราต้องการสร้างแบรนด์ทาทา ให้เป็นรู้จักและเชื่อมั่นในตลาดไทยก่อน เหตุนี้จึงเลือกเปิดตัวปิกอัพเป็นรถรุ่นแรก เพราะไทยเป็นตลาดที่ปิกอัพมีขนาดใหญ่สุด น่าจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ง่ายและวงกว้างกว่า และเมื่อมีประชากรรถทาทาวิ่งเป็นจำนวนหนึ่ง ในอีก 2-3 ปี ทาทาจึงจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจังกับรถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์
"ทั้งนี้นโยบายด้านโปรดักซ์ของทาทา ตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในปี 2008-2010 จะเป็นรถประหยัดพลังงานทั้งหมด เริ่มจากทาทา ซีนอน รถรุ่นแรกที่เปิดตัวสู่ตลาดไทย แม้จะเป็นปิกอัพแต่ก็ตอบสนองลูกค้าในเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จึงได้วางเครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซี แต่ให้กำลังและสมรรถนะเทียบเท่ารถยนต์ 2,500 ซีซี และอีกรุ่นที่จะเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 ปลายปีนี้ ก็จะเป็นปิกอัพซีนอนเครื่องยนต์ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือ CNG"
โดยปิกอัพซีนอนเครื่องยนต์รองรับพลังงาน CNG นี้ สมพงษ์กล่าวว่า เป็นปิกอัพเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ 100% ขนาด 2,100 ซีซี 115 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 3,750 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถรีดสมรรถนะของรถออกมาได้เต็มที่ มากกว่ารถใช้เชื้อเพลิงสองระบบ จึงเหมาะกับรถที่ใช้งานบรรทุกมากที่สุด
โดยถังเชื้อเพลิง 2 ถัง ของปิกอัพ ทาทา ซีนอน CNG ถูกออกแบบติดตั้งอยู่ใต้แชสซีร์เพื่อความปลอดภัย และไม่เสียพื้นที่การบรรทุก ติดตั้งเครื่องยนต์และอุปกรณ์จากโรงงาน สามารถรองรับก๊าซธรรมชาติอัด หรือ CNG ได้หลากหลาย เติมก๊าซช่องเดียวกับฝาถังน้ำมัน หน้าปัดแสดงปริมาณก๊าซในถัง ไม่ได้เป็น LED แบบที่ติดตั้งภายหลัง(Retrofitted)
อย่างไรก็ตาม การใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีเพียงอย่างเดียว 100% แน่นอนย่อมต้องมีผลต่อการทำตลาด เพราะปัญหาสำคัญของรถยนต์ที่ใช้เอ็นจีวี คือไม่มีสถานีบริการกระจายรองรับได้เพียงพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต่างจังหวัดที่ไม่อยู่บนถนนเส้นหลักด้วยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้สมพงษ์ยอมรับว่า เป็นปัญหาต่อการทำตลาดของปิกอัพทาทา CNG แต่เนื่องจากระยะแรกทาทาไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายสูงมากนัก
โดยมุ่งจับกลุ่มรถที่ใช้งานมีเส้นทางชัดเจน อย่างรถขนส่ง หรือรถโดยสารเล็กเป็นหลักก่อน จึงไม่กดดันในเรื่องตัวเลขยอดขายเหมือนยี่ห้ออื่นๆ แต่เมื่อปตท.กระจายสถานีบริการครอบคลุมทั่วประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ถึงจุดนั้นทาทาก็สามารถรุกตลาดได้เต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มีความแข็งแกร่งมั่นคงในระยะยาว
"แนวทางของทาทาชัดเจนในการมุ่งไปที่รถประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเห็นได้จากการแนะนำรถสู่ตลาดไทย 2 รุ่นที่กล่าวมา โมเดลใหม่ที่จะแนะนำสู่ตลาดในช่วงต้นปีหน้า หรืองานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ก็จะเป็นรถในรูปแบบเดียวกัน คือ ปิกอัพขนาดเล็กรุ่นเอช(ACE) ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ และราคาประมาณกว่า 3 แสนบาท" สมพงษ์กล่าว
สำหรับทาทา เอช เป็นปิกอัพเล็กที่ทำตลาดอยู่ในอินเดีย และอีกหลายประเทศในปัจจุบัน เพียงแต่จะเป็นโฉมใหม่ให้มีความทันสมัยและสวยงามขึ้น โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยจะวางเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1,400 ซีซี กำลังสูงสุดประมาณ 60-70 แรงม้า โดยคู่แข่งในตลาดจะเป็นปิกอัพ "ซูซูกิ แครี่" ที่แม้จะวางเครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี แต่จุดแข็งของเอชเป็นเครื่องยนต์ดีเซลจึงมีแรงบิดที่ดีกว่า สามารถนำไปดัดแปลงเป็นรถอเนกประสงค์หลากหลายประเภทได้ดีกว่า
"ปิกอัพเล็กรุ่นเอชจะเป็นโมเดลสำคัญ ที่จะสร้างรายได้ให้กับ ทาทา มอเตอร์ส ในประเทศไทย เพราะนอกจากประกอบทำตลาดในไทยแล้ว ยังส่งออกไปจำหน่ายในภูมภาคอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซียและมาเลเซียที่นิยมรถประเภทนี้มาก ดังจะเห็นได้จากซูซูกิ แครี่ ก็ประกอบในอินโดนีเซียและส่งกลับมาขายในไทย"
นั่นคือแผนการบุกตลาดรถยนต์ไทยระยะแรก แต่เป้าหมายสำคัญของทาทาอยู่ที่รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งมีแผนจะขึ้นไลน์ผลิตประมาณปี 2010 และจะเป็นจุดเริ่มต้นการรุกตลาดอย่างเต็มที่ของทาทาในไทย โดยคาดหวังจะผลักดันให้ตัวเลขยอดขายของรถยนต์ทาทาในไทย มีส่วนแบ่งการตลาดขยับเป็น 4-5%
"ทาทามีแผนที่จะขึ้นผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในไทย ตั้งแต่เริ่มแรกเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว โดยจะเป็นการสร้างโรงงานผลิตขึ้นใหม่ ไม่ได้จ้างโรงงานของธนบุรีประกอบรถยนต์เหมือนปิกอัพ ทาทา ซีนอน และสอดคล้องกับที่รัฐบาลไทย มีโครงการผลักดันและสนับสนุนรถเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ทาทาจึงได้เข้าร่วมขอรับส่งเสริมด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 6 พันล้านบาท"
โดยรถเล็กประหยัดพลังงานของทาทาที่จะทำในไทย ไม่ใช่รถเล็ก ทาทา นาโน ที่เพิ่งเปิดตัวไป หรือรุ่นอินดิกาที่มีขายอยู่ทั่วโลก แต่อีโคคาร์ของทาทาในไทยจะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นใหม่ อยู่ระหว่างรถทั้งสองรุ่นที่กล่าวมา วางเครื่องยนต์ขนาด 1,100 ซีซี ราคาไม่เกิน 3 แสนบาท คาดว่าจะเริ่มขึ้นไลน์ผลิตประมาณปี 2010
นั่นคือโรดแมปของ "ทาทา" ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนภาระ ซึ่งชัดเจนในการชูรถยนต์ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงเป็นธงนำบุกตลาดไทย แต่จะสำเร็จหรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไปยาวๆ
จากนั้นต้นปีหน้า 2009 เตรียมส่งปิกอัพเล็กรุ่น "เอช" เขย่าคู่แข่ง "ซูซูกิ แครี่" ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ แต่วางเครื่องยนต์ดีเซล 1,400 ลิตร เพื่อตอบสนองการใช้งานดัดแปลงรถได้หลากหลายกว่าเครื่องเบนซิน เคาะราคากว่า 3 แสนบาท และวางแผนประกอบรองรับการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย-มาเลเซียด้วย แต่ไฮไลต์อยู่ที่ปี 2010 ที่จะขึ้นไลน์ผลิตรถนั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ ในโรงงานแห่งใหม่มูลค่าลงทุน 6 พันล้านบาท ที่ได้นำจุดเด่นของรุ่น "นาโน" และ "อินดิก้า" มาพัฒนาและออกแบบใหม่หมด วางเครื่องยนต์ 1,100 ซีซี โดยจะเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรก
นับจากวันเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกปิกอัพ "ทาทา ซีนอน"สู่ตลาด ของค่ายยักษ์จากแดนภารตะ "ทาทา" ถึงขณะนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 6 เดือน ซึ่งผลตอบรับอาจจะไม่หวือหวานัก เพราะนอกจากจะรุกตลาดในช่วงที่ตลาดรถยนต์ไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การเมืองผันผวน ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล จนเกิดสภาวะออยล์ช็อกทำให้ยอดขายปิกอัพทุกค่ายร่วงกันเป็นแถว
ประกอบกับเครือข่ายการขาย รวมถึงไลน์ผลิตที่ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ทั้งเรื่องชิ้นส่วนและการประกอบ ยอดขายปิกอัพทาทาในช่วง 2-3 เดือนแรก จึงแทบจะไม่ขยับแต่อย่างใด
"ระยะแรกของการเปิดตัว เรามีปัญหาเรื่องไลน์การผลิตที่ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ในไทยที่ส่งมอบไม่ทัน รวมถึงเครือข่ายการจำหน่ายที่ยังไม่เปิดบริการเต็มที่ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่จองได้ทัน ส่งผลให้ลูกค้าที่จองในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์กว่า 200 คัน บางรายทนรอไม่ไหวต้องถอนจองไป แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทุกอย่างเริ่มลงตัวจึงสามารถทยอยส่งมอบรถได้ โดยเรานับเฉพาะยอดส่งมอบจริงให้กับลูกค้าเท่านั้น เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละกว่า 20 คัน แต่มียอดขายปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ตัวเลขขยับเพิ่มเป็น 30 คันแล้ว" สมพงษ์ ผลจิตจรูญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทาทา มอเตอร์ส จำกัด กล่าวกับ "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ถึงสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมและว่า
ประกอบในช่วงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ออยล์ช็อก ราคาปรับทะลุ 40 บาท ทำให้ตลาดโดยรวมของปิกอัพลดลงอย่างมาก ทาทาจึงได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า จากเดิมคาดว่าปีแรก (เม.ย.51-เม.ย.52) จะมียอดขาย 3,000 คัน แต่ดูจากแนวโน้มแล้วน่าจะทำได้เพียงประมาณ 2,000 คันเท่านั้น
แม้จะพลาดเป้าไปบ้าง แต่ทาทามีนโยบายชัดเจนในการเข้ามาทำตลาดและลงทุนในไทย ซึ่งระยะแรกบริษัทแม่ทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดีย ไม่ได้มุ่งหวังตัวเลขยอดขายเป็นเป้าหมายนำ จะเห็นว่าปีแรกเราตั้งเป้าไว้เพียง 2,000-3,000 คันเท่านั้น โดยช่วงแรกเราต้องการสร้างแบรนด์ทาทา ให้เป็นรู้จักและเชื่อมั่นในตลาดไทยก่อน เหตุนี้จึงเลือกเปิดตัวปิกอัพเป็นรถรุ่นแรก เพราะไทยเป็นตลาดที่ปิกอัพมีขนาดใหญ่สุด น่าจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ง่ายและวงกว้างกว่า และเมื่อมีประชากรรถทาทาวิ่งเป็นจำนวนหนึ่ง ในอีก 2-3 ปี ทาทาจึงจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจังกับรถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์
"ทั้งนี้นโยบายด้านโปรดักซ์ของทาทา ตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในปี 2008-2010 จะเป็นรถประหยัดพลังงานทั้งหมด เริ่มจากทาทา ซีนอน รถรุ่นแรกที่เปิดตัวสู่ตลาดไทย แม้จะเป็นปิกอัพแต่ก็ตอบสนองลูกค้าในเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จึงได้วางเครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซี แต่ให้กำลังและสมรรถนะเทียบเท่ารถยนต์ 2,500 ซีซี และอีกรุ่นที่จะเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 ปลายปีนี้ ก็จะเป็นปิกอัพซีนอนเครื่องยนต์ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือ CNG"
โดยปิกอัพซีนอนเครื่องยนต์รองรับพลังงาน CNG นี้ สมพงษ์กล่าวว่า เป็นปิกอัพเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ 100% ขนาด 2,100 ซีซี 115 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 3,750 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถรีดสมรรถนะของรถออกมาได้เต็มที่ มากกว่ารถใช้เชื้อเพลิงสองระบบ จึงเหมาะกับรถที่ใช้งานบรรทุกมากที่สุด
โดยถังเชื้อเพลิง 2 ถัง ของปิกอัพ ทาทา ซีนอน CNG ถูกออกแบบติดตั้งอยู่ใต้แชสซีร์เพื่อความปลอดภัย และไม่เสียพื้นที่การบรรทุก ติดตั้งเครื่องยนต์และอุปกรณ์จากโรงงาน สามารถรองรับก๊าซธรรมชาติอัด หรือ CNG ได้หลากหลาย เติมก๊าซช่องเดียวกับฝาถังน้ำมัน หน้าปัดแสดงปริมาณก๊าซในถัง ไม่ได้เป็น LED แบบที่ติดตั้งภายหลัง(Retrofitted)
อย่างไรก็ตาม การใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีเพียงอย่างเดียว 100% แน่นอนย่อมต้องมีผลต่อการทำตลาด เพราะปัญหาสำคัญของรถยนต์ที่ใช้เอ็นจีวี คือไม่มีสถานีบริการกระจายรองรับได้เพียงพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต่างจังหวัดที่ไม่อยู่บนถนนเส้นหลักด้วยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้สมพงษ์ยอมรับว่า เป็นปัญหาต่อการทำตลาดของปิกอัพทาทา CNG แต่เนื่องจากระยะแรกทาทาไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายสูงมากนัก
โดยมุ่งจับกลุ่มรถที่ใช้งานมีเส้นทางชัดเจน อย่างรถขนส่ง หรือรถโดยสารเล็กเป็นหลักก่อน จึงไม่กดดันในเรื่องตัวเลขยอดขายเหมือนยี่ห้ออื่นๆ แต่เมื่อปตท.กระจายสถานีบริการครอบคลุมทั่วประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ถึงจุดนั้นทาทาก็สามารถรุกตลาดได้เต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มีความแข็งแกร่งมั่นคงในระยะยาว
"แนวทางของทาทาชัดเจนในการมุ่งไปที่รถประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเห็นได้จากการแนะนำรถสู่ตลาดไทย 2 รุ่นที่กล่าวมา โมเดลใหม่ที่จะแนะนำสู่ตลาดในช่วงต้นปีหน้า หรืองานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ก็จะเป็นรถในรูปแบบเดียวกัน คือ ปิกอัพขนาดเล็กรุ่นเอช(ACE) ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ และราคาประมาณกว่า 3 แสนบาท" สมพงษ์กล่าว
สำหรับทาทา เอช เป็นปิกอัพเล็กที่ทำตลาดอยู่ในอินเดีย และอีกหลายประเทศในปัจจุบัน เพียงแต่จะเป็นโฉมใหม่ให้มีความทันสมัยและสวยงามขึ้น โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยจะวางเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1,400 ซีซี กำลังสูงสุดประมาณ 60-70 แรงม้า โดยคู่แข่งในตลาดจะเป็นปิกอัพ "ซูซูกิ แครี่" ที่แม้จะวางเครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี แต่จุดแข็งของเอชเป็นเครื่องยนต์ดีเซลจึงมีแรงบิดที่ดีกว่า สามารถนำไปดัดแปลงเป็นรถอเนกประสงค์หลากหลายประเภทได้ดีกว่า
"ปิกอัพเล็กรุ่นเอชจะเป็นโมเดลสำคัญ ที่จะสร้างรายได้ให้กับ ทาทา มอเตอร์ส ในประเทศไทย เพราะนอกจากประกอบทำตลาดในไทยแล้ว ยังส่งออกไปจำหน่ายในภูมภาคอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซียและมาเลเซียที่นิยมรถประเภทนี้มาก ดังจะเห็นได้จากซูซูกิ แครี่ ก็ประกอบในอินโดนีเซียและส่งกลับมาขายในไทย"
นั่นคือแผนการบุกตลาดรถยนต์ไทยระยะแรก แต่เป้าหมายสำคัญของทาทาอยู่ที่รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งมีแผนจะขึ้นไลน์ผลิตประมาณปี 2010 และจะเป็นจุดเริ่มต้นการรุกตลาดอย่างเต็มที่ของทาทาในไทย โดยคาดหวังจะผลักดันให้ตัวเลขยอดขายของรถยนต์ทาทาในไทย มีส่วนแบ่งการตลาดขยับเป็น 4-5%
"ทาทามีแผนที่จะขึ้นผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในไทย ตั้งแต่เริ่มแรกเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว โดยจะเป็นการสร้างโรงงานผลิตขึ้นใหม่ ไม่ได้จ้างโรงงานของธนบุรีประกอบรถยนต์เหมือนปิกอัพ ทาทา ซีนอน และสอดคล้องกับที่รัฐบาลไทย มีโครงการผลักดันและสนับสนุนรถเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ทาทาจึงได้เข้าร่วมขอรับส่งเสริมด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 6 พันล้านบาท"
โดยรถเล็กประหยัดพลังงานของทาทาที่จะทำในไทย ไม่ใช่รถเล็ก ทาทา นาโน ที่เพิ่งเปิดตัวไป หรือรุ่นอินดิกาที่มีขายอยู่ทั่วโลก แต่อีโคคาร์ของทาทาในไทยจะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นใหม่ อยู่ระหว่างรถทั้งสองรุ่นที่กล่าวมา วางเครื่องยนต์ขนาด 1,100 ซีซี ราคาไม่เกิน 3 แสนบาท คาดว่าจะเริ่มขึ้นไลน์ผลิตประมาณปี 2010
นั่นคือโรดแมปของ "ทาทา" ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนภาระ ซึ่งชัดเจนในการชูรถยนต์ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงเป็นธงนำบุกตลาดไทย แต่จะสำเร็จหรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไปยาวๆ
