ข่าวในประเทศ - โตโยต้า เดินหน้าการดำเนินโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” (Eco-Forest) อย่างยิ่งใหญ่ ยกขบวนผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและพันธมิตรกว่า 12,500 คน ร่วมเปิดตัวโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” (Eco-Forest) โดยทำการปลูกต้นไม้ร่วมกันเป็นจำนวนมากกว่า 100,000 ต้นเพื่อเป็นการเริ่มการดำเนินงานโครงการป่านิเวศในโรงงานอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
มิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โตโยต้าฯ ตัวแทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ผู้แทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน บริษัทในเครือ ชุมชนฉะเชิงเทรา สื่อมวลชน พนักงานบริษัทและครอบครัว รวมกันประมาณ 12,500 คน มาร่วมกิจกรรมการปลูกป่าภายในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ เป็นจำนวนมากกว่า 100,000 ต้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นการดำเนินโครงการปลูกป่าในโครงการซึ่งในขั้นแรกของการดำเนินงานจะทำการปลูกป่าขึ้นมาใหม่ครอบคลุมพื้นที่ 30 ไร่
ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวและเพิ่มความสมบูรณ์ของระบบนิเวศให้แก่ชุมชนบริเวณโดยรอบโรงงานแล้ว ผืนป่าแห่งนี้ยังจะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้เฉลี่ย 800 ตันต่อปีอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมการปลูกป่าในครั้งนี้ บริษัท โตโยต้าฯ ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร. อาคิระ มิยาวากิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโยโกฮาม่า และ ผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยานานาชาติประจำประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของการปลูกป่านิเวศในโรงงาน เริ่มตั้งแต่การถ่ายทอดความรู้ในการปลูกป่าอย่างยั่งยืนให้แก่พนักงาน
นอกจากการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบริเวณโรงงานแล้ว โครงการป่านิเวศในโรงงานนี้ยังได้มีการวางรูปแบบให้มีการใช้ทรัพยากรและวัสดุที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เช่น การสร้างศาลาไทยและสะพานจากไม้ที่ใช้แล้ว การนำขี้เลื่อยมาใช้โรยเส้นทางเดินป่า การนำเศษอาหารของพนักงานมาหมักเป็นปุ๋ย การนำเศษใบไม้และกิ่งไม้ไปแปรรูปเป็นถ่านไม้ เป็นต้น
การดำเนินโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” มีแนวคิดมาจากนโยบายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการที่จะพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีให้เติบโตควบคู่กันไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการบรรลุพันธกิจนี้ โตโยต้าได้บัญญัติโลกทัศน์แห่งโตโยต้า (Toyota Global Vision 2020) ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางแก่บริษัท โตโยต้า ทั่วโลก ให้สามารถบริหารและปฏิบัติงานได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้นอกจากการบัญญัติโลกทัศน์แห่งโตโยต้าแล้ว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ยังได้ทำการคัดเลือกโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าที่มีความโดดเด่นในด้านการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจาก 5 ประเทศ ได้แก่โรงงานซึซึมิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ มิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศอังกฤษ โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศฝรั่งเศส และโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ ประเทศไทย มาเป็นต้นแบบในการดำเนินโครงการ “โรงงานแห่งความยั่งยืน” (Sustainable Plant) ที่จะสามารถดำเนินการอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างกลมกลืนนับร้อย ๆ ปี ให้แก่โรงงานโตโยต้าทั่วโลกอีกด้วย โดยโตโยต้า ได้นิยามคุณสมบัติของโรงงานแห่งความยั่งยืนไว้ดังนี้
การลดการใช้พลังงาน
1) พัฒนาและนำเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไออกไซด์มาใช้ในกระบวนการผลิตรวมถึงปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน
การเปลี่ยนรูปพลังงาน
2) เน้นการใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
อนุรักษ์ระบบนิเวศและให้ชุมชนมีส่วนร่วม
3) ดูแลรักษาระบบนิเวศเพื่อชุมชนโดยรอบ ด้วยการปลูกต้นไม้ภายในโรงงาน เพื่อ “สิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต”
ปัจจัยสำคัญที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโรงงานต้นแบบในการดำเนินโครงการ “โรงงานแห่งความยั่งยืน” นั้น ได้แก่ความโดดเด่นของเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆกระบวนการผลิต ตั้งแต่การติดตั้งแผงกำเนิดพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมซึ่งเป็นพลังงานสะอาด การติดตั้งเตาเผาสารระเหยไฮโดรคาร์บอน การใช้ระบบพ่นสีโดยไม่ใช่ทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย การมีระบบบำบัดน้ำทิ้งที่มีคุณภาพสูงกว่าค่าที่กฏหมายกำหนดไว้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีการวางระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การนำกลับมาใช้ใหม่และนำกลับมาใช้ซ้ำ
นอกจากนี้ บริษัท โตโยต้าฯ ยังได้มุ่งเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกในด้านสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ขั้นตอนของการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรในทุกหน่วยงานของบริษัทฯ รวมถึงเครือข่ายธุรกิจทั้งในส่วนของตัวแทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน และบริษัทคู่ค้า อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อรวมคุณสมบัติของการบริหารทั้งหมดนี้เข้าร่วมกับโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” จะส่งผลให้โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ มุ่งสู่การเป็น “โรงงานแห่งความยั่งยืน” อย่างแท้จริง
มิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โตโยต้าฯ ตัวแทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ผู้แทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน บริษัทในเครือ ชุมชนฉะเชิงเทรา สื่อมวลชน พนักงานบริษัทและครอบครัว รวมกันประมาณ 12,500 คน มาร่วมกิจกรรมการปลูกป่าภายในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ เป็นจำนวนมากกว่า 100,000 ต้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นการดำเนินโครงการปลูกป่าในโครงการซึ่งในขั้นแรกของการดำเนินงานจะทำการปลูกป่าขึ้นมาใหม่ครอบคลุมพื้นที่ 30 ไร่
ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวและเพิ่มความสมบูรณ์ของระบบนิเวศให้แก่ชุมชนบริเวณโดยรอบโรงงานแล้ว ผืนป่าแห่งนี้ยังจะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้เฉลี่ย 800 ตันต่อปีอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมการปลูกป่าในครั้งนี้ บริษัท โตโยต้าฯ ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร. อาคิระ มิยาวากิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโยโกฮาม่า และ ผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยานานาชาติประจำประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของการปลูกป่านิเวศในโรงงาน เริ่มตั้งแต่การถ่ายทอดความรู้ในการปลูกป่าอย่างยั่งยืนให้แก่พนักงาน
นอกจากการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบริเวณโรงงานแล้ว โครงการป่านิเวศในโรงงานนี้ยังได้มีการวางรูปแบบให้มีการใช้ทรัพยากรและวัสดุที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เช่น การสร้างศาลาไทยและสะพานจากไม้ที่ใช้แล้ว การนำขี้เลื่อยมาใช้โรยเส้นทางเดินป่า การนำเศษอาหารของพนักงานมาหมักเป็นปุ๋ย การนำเศษใบไม้และกิ่งไม้ไปแปรรูปเป็นถ่านไม้ เป็นต้น
การดำเนินโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” มีแนวคิดมาจากนโยบายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการที่จะพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีให้เติบโตควบคู่กันไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการบรรลุพันธกิจนี้ โตโยต้าได้บัญญัติโลกทัศน์แห่งโตโยต้า (Toyota Global Vision 2020) ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางแก่บริษัท โตโยต้า ทั่วโลก ให้สามารถบริหารและปฏิบัติงานได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้นอกจากการบัญญัติโลกทัศน์แห่งโตโยต้าแล้ว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ยังได้ทำการคัดเลือกโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าที่มีความโดดเด่นในด้านการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจาก 5 ประเทศ ได้แก่โรงงานซึซึมิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ มิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศอังกฤษ โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศฝรั่งเศส และโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ ประเทศไทย มาเป็นต้นแบบในการดำเนินโครงการ “โรงงานแห่งความยั่งยืน” (Sustainable Plant) ที่จะสามารถดำเนินการอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างกลมกลืนนับร้อย ๆ ปี ให้แก่โรงงานโตโยต้าทั่วโลกอีกด้วย โดยโตโยต้า ได้นิยามคุณสมบัติของโรงงานแห่งความยั่งยืนไว้ดังนี้
การลดการใช้พลังงาน
1) พัฒนาและนำเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไออกไซด์มาใช้ในกระบวนการผลิตรวมถึงปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน
การเปลี่ยนรูปพลังงาน
2) เน้นการใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
อนุรักษ์ระบบนิเวศและให้ชุมชนมีส่วนร่วม
3) ดูแลรักษาระบบนิเวศเพื่อชุมชนโดยรอบ ด้วยการปลูกต้นไม้ภายในโรงงาน เพื่อ “สิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต”
ปัจจัยสำคัญที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโรงงานต้นแบบในการดำเนินโครงการ “โรงงานแห่งความยั่งยืน” นั้น ได้แก่ความโดดเด่นของเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆกระบวนการผลิต ตั้งแต่การติดตั้งแผงกำเนิดพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมซึ่งเป็นพลังงานสะอาด การติดตั้งเตาเผาสารระเหยไฮโดรคาร์บอน การใช้ระบบพ่นสีโดยไม่ใช่ทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย การมีระบบบำบัดน้ำทิ้งที่มีคุณภาพสูงกว่าค่าที่กฏหมายกำหนดไว้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีการวางระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การนำกลับมาใช้ใหม่และนำกลับมาใช้ซ้ำ
นอกจากนี้ บริษัท โตโยต้าฯ ยังได้มุ่งเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกในด้านสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ขั้นตอนของการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรในทุกหน่วยงานของบริษัทฯ รวมถึงเครือข่ายธุรกิจทั้งในส่วนของตัวแทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน และบริษัทคู่ค้า อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อรวมคุณสมบัติของการบริหารทั้งหมดนี้เข้าร่วมกับโครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” จะส่งผลให้โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ มุ่งสู่การเป็น “โรงงานแห่งความยั่งยืน” อย่างแท้จริง
