ข่าวในประเทศ - ตลาดรถยนต์มือสอง รับอานิสงค์ราคาน้ำมันแพง ผู้ใช้รถแห่ซื้อไปติดแก๊สหลังค่ายรถยังไม่รับวารันตีรถใหม่ป้ายแดง ฟันธงตลาดขยายตัวกว่า 10% ด้าน “มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์” สบช่องจัดแคมเปญกระตุ้ยยอดขายรถมือสองในอาณัติอย่างต่อเนื่อง
สมชาย ตระกูลภิรมย์ ผู้จัดการทั่วไป บีเอ็มดับเบิลยู ยูสคาร์ บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด จากวิกฤติน้ำมันแพง แม้รัฐบาลได้เตรียมทางออกเพื่อรองรับปัญหา ทั้งการขอความร่วมมือกับองค์กรด้านพลังงานผลิตน้ำมันผสมเอธานอล ทั้ง E20, E85 ไปจนถึง E100 รวมถึงแผนการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กภายใต้โครงการอีโคคาร์ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ในการแก้ปัญหาส่งผลให้ยังไม่เกิดรูปธรรมที่ลงตัวชัดเจนนัก
“ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ผู้บริโภคผู้ใช้รถยนต์จำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือตัวเอง เกี่ยวกับการประหยัดรายจ่ายในการบริโภคพลังงาน เป็นชนวนสำคัญที่ผู้บริโภคต้องลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันลง โดยเฉพาะการใช้รถยนต์ด้วยการหาพลังงานทางเลือกไม่ว่าจะเป็น แก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวี และได้ส่งผลดีต่อสถานการณ์ของตลาดรถยนต์มือสอง เนื่องจากลูกค้าจะนิยมเลือกซื้อเพื่อนำไปติดแก๊สในรูปแบบต่างๆ”
โดยรถยนต์มือสองที่ถูกเลือกเพื่อนำไปติดแก๊สมักจะเป็นรถระดับราคากลางๆ ซึ่งเกิดจากการที่ปัจจุบันหากนำรถใหม่ป้ายแดงหรือรถที่ยังไม่พ้นวารันตีไปติดตั้งแก๊สด้วยตนเอง ทางค่ายรถยนต์จะถือว่าเป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์และส่งผลให้วารันตีซึ่งส่วนใหญ่คือ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรจะสิ้นสุดลงทันที
ทำให้รถมือสองเป็นทางเลือกที่ลูกค้าสนใจนำไปติดแก๊สมากที่สุดโดยไม่ต้องลังเลหรือเสียดาย ขณะเดียวกันยอดขายรถยนต์มือสองของบริษัทรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้มีตัวเลขขยายตัวขึ้นกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้าน “มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์“ ศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองระดับมาตรฐาน เลียบทางด่วน-รามอินทรา โดย กมนทัต ธนาวิจิตร ผู้จัดการแผนกขาย เผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ยอดขายรถมือสองของมาสเตอร์ฯ ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมือสองที่มีระดับราคาตั้งแต่ 400,000 – 800,000 บาท ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ที่จะนำรถไปติดตั้งแก๊ส เพราะเป็นรถที่อายุไม่มากนักและเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป โดยส่วนใหญ่จะนำไปติดแก๊สแอลพีจีมากกว่าเอ็นจีวี
“เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์มือสองระดับคุณภาพ มาสเตอร์ฯ จึงเน้นการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถได้สะดวกยิ่งขึ้น” นายกมนทัต กล่าว
สมชาย ตระกูลภิรมย์ ผู้จัดการทั่วไป บีเอ็มดับเบิลยู ยูสคาร์ บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด จากวิกฤติน้ำมันแพง แม้รัฐบาลได้เตรียมทางออกเพื่อรองรับปัญหา ทั้งการขอความร่วมมือกับองค์กรด้านพลังงานผลิตน้ำมันผสมเอธานอล ทั้ง E20, E85 ไปจนถึง E100 รวมถึงแผนการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กภายใต้โครงการอีโคคาร์ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ในการแก้ปัญหาส่งผลให้ยังไม่เกิดรูปธรรมที่ลงตัวชัดเจนนัก
“ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ผู้บริโภคผู้ใช้รถยนต์จำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือตัวเอง เกี่ยวกับการประหยัดรายจ่ายในการบริโภคพลังงาน เป็นชนวนสำคัญที่ผู้บริโภคต้องลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันลง โดยเฉพาะการใช้รถยนต์ด้วยการหาพลังงานทางเลือกไม่ว่าจะเป็น แก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวี และได้ส่งผลดีต่อสถานการณ์ของตลาดรถยนต์มือสอง เนื่องจากลูกค้าจะนิยมเลือกซื้อเพื่อนำไปติดแก๊สในรูปแบบต่างๆ”
โดยรถยนต์มือสองที่ถูกเลือกเพื่อนำไปติดแก๊สมักจะเป็นรถระดับราคากลางๆ ซึ่งเกิดจากการที่ปัจจุบันหากนำรถใหม่ป้ายแดงหรือรถที่ยังไม่พ้นวารันตีไปติดตั้งแก๊สด้วยตนเอง ทางค่ายรถยนต์จะถือว่าเป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์และส่งผลให้วารันตีซึ่งส่วนใหญ่คือ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรจะสิ้นสุดลงทันที
ทำให้รถมือสองเป็นทางเลือกที่ลูกค้าสนใจนำไปติดแก๊สมากที่สุดโดยไม่ต้องลังเลหรือเสียดาย ขณะเดียวกันยอดขายรถยนต์มือสองของบริษัทรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้มีตัวเลขขยายตัวขึ้นกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้าน “มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์“ ศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองระดับมาตรฐาน เลียบทางด่วน-รามอินทรา โดย กมนทัต ธนาวิจิตร ผู้จัดการแผนกขาย เผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ยอดขายรถมือสองของมาสเตอร์ฯ ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมือสองที่มีระดับราคาตั้งแต่ 400,000 – 800,000 บาท ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ที่จะนำรถไปติดตั้งแก๊ส เพราะเป็นรถที่อายุไม่มากนักและเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป โดยส่วนใหญ่จะนำไปติดแก๊สแอลพีจีมากกว่าเอ็นจีวี
“เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์มือสองระดับคุณภาพ มาสเตอร์ฯ จึงเน้นการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถได้สะดวกยิ่งขึ้น” นายกมนทัต กล่าว