อุบลราชธานี - กลุ่มธุรกิจรถมือสองสุดทนพฤติกรรมเฉยเมินของรัฐบาล ไม่แก้ปัญหาค่าน้ำมันแพง ทำให้ผู้ประกอบการขายรถไม่ได้ และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเดือนละกว่าแสนบาท หากรัฐยังเฉยคงต้องหยุดกิจการลอยแพพนักงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่าจากภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังทะยานขึ้นไม่หยุด ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงฉุดให้การจำหน่ายสินค้าหลายชนิดมีปัญหา ซึ่งรวมถึงการจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถยนต์กระบะเชิงพาณิชย์มีอัตราการจำหน่ายชะลอตัวในช่วงเดือนพฤษภาคมอย่างมาก เพราะผู้บริโภคไม่แน่ใจราคาน้ำมันที่ยังไต่ระดับราคาสูงขึ้นโดยไม่หยุด
ส่งผลให้ผู้ประกอบการเต็นท์ขายรถมือสอง ต้องแบกรับภาระต้นทุนและดอกเบี้ย เพราะขายรถไม่ได้
นายมงคล จุลทัศน์ หุ้นส่วนผู้จัดการมงคลคาร์เซ็นเตอร์ ถนนเลี่ยงเมือง ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กล่าวถึง ภาวะราคาน้ำมันแพงที่ส่งผลกระทบกับการประกอบธุรกิจว่า หลังราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นพลังใช้ขับเคลื่อนยานยนต์มีราคาแพงขึ้นอย่างมาก จึงได้มีการปรับกลยุทธ์การจำหน่ายรถยนต์มือสองให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
โดยปรับลดราคาเงินดาวน์ขั้นต่ำเหลือเพียง 10,000-20,000 บาท และมีการแถม พ.ร.บ.ประกันภัยชั้น 1 และชั้น 2 สำหรับรถยนต์บางคันมีการติดตั้งแก๊สแอลพีจี ก็แถมให้ฟรีโดยไม่มีการบวกราคาค่าติดตั้ง
แต่ปรากฏว่าตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมยอดการจำหน่ายรถยนต์มือสองยังตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะแพงขึ้นอีกเท่าใด ทำให้ผู้ประกอบการขายรถมือสอง ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งต้นทุนที่ซื้อรถมาขาย ดอกเบี้ย เงินเดือนพนักงาน และถ้าขายรถออกช้าก็มีภาระด้านค่าบำรุงรักษารวม จึงมีค่าใช้จ่ายเดือนละกว่า 100,000 บาท
โดยผู้ประกอบการต้องควักเงินสำรองมาต่ออายุ หากสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงยังเป็นอย่างนี้ ผู้ประกอบขายรถมือสองต้องหยุดกิจการ จึงอยากให้รัฐบาลหันมาสนใจบริหารเรื่องค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจแทบทุกชนิดด้วย