xs
xsm
sm
md
lg

รถเช่าปรับตัวรับน้ำมันแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - กรุงไทยคาร์เร้น เดินแผนรับยุคน้ำมันแพง ทุ่ม 400 ล้านบาทซื้อ ออพตร้า ซีเอ็นจี และเก๋งรองรับแก็สโซฮอล์ อี20 รวม 500 คัน คาดเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 1,300 ล้านบาท โต15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นายพิเทพ จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้น แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการรถเช่ารายใหญ่ เปิดเผยว่า จากเดิมคาดการว่าธุรกิจรถเช่าในประเทศปีนี้จะขยายตัวเกิน10% แต่เมื่อผ่านไปครึ่งปีภาพรวมเศรษฐกิจยังคงซบเซาต่อเนื่อง บริษัทจึงประเมินใหม่ว่าปีนี้ตลาดน่าจะโตเพียง 5-7% เท่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ทำสัญญาเช่าระยะยาวชะลอการเพิ่มจำนวนรถ ดังนั้นผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว
พิเทพ จันทรเสรีกุล
“ตลาดรถเช่าในประเทศมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างปีที่แล้วก็โต 7 % เมื่อเทียบกับปี 2549 ส่วนปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้การเติบโตจะยังอยู่ระดับเลขตัวเดียว แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญคงเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดยในส่วนของบริษัทได้ปรับตัวเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดทุ่มเงิน 400 ล้านบาท จากงบประมาณซื้อรถที่ตั้งไว้ทั้งปี 1,500 ล้านบาท จัดหารถพลังงานทางเลือกทั้ง เชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี ฮอนด้า แจ็ซ โตโยต้า อัลติส ที่รองรับรับน้ำมันแก็สโซออล์ อี20 รวม 500 คัน”

การสั่งซื้อรถใหม่ล็อตนี้จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าเชื้อเพลิง โดยราคาเช่าอยู่ในอัตราปกติ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลด้านการดูแลรักษา ง่ายต่อการบริหารจัดการต้นทุน ทั้งนี้ภายในสิ้นปีบริษัทยังมีแผนซื้อรถยนต์รุ่นที่ติดตั้งระบบก๊าซซีเอ็นจีเพิ่มเติม ส่วนแผนการตลาดในครึ่งปีหลังบริษัทจะขยายฐานลูกค้าทั้งแบบเช่าระยะสั้นและระยะยาว จากเดิมที่เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมเป็นหลัก โดยไม่เน้นกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา แต่อาจยกเว้นในบางฤดูกาลที่ใช้กลยุทธ์ราคากับกลุ่มลูกค้าที่เช่าระยะสั้นเพื่อสร้างสีสัน โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 1,300 ล้านบาท โต 15% เมื่อเทียบกับปี 2550

สำหรับกรุงไทยคาร์เร้น ปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับสามของตลาด มีรถให้เช่ากว่า 5,100 คัน รายได้ส่วนใหญ่มาจากรถเช่าดำเนินงาน(Operating lease) ในสัดส่วน 95% ลูกค้าเป็นหน่วยงานเอกชนและราชการสัดส่วน 80/20 ส่วนที่เหลือ 5% เป็นการเช่าระยะสั้น(รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน)

นายพิเทพ ยังกล่าวถึง ธุรกิจรถยนต์มือสอง “โตโยต้า ชัวร์” ในเครือของบริษัทว่า สถานการณ์รวมๆยังไปได้ดี คาดว่ายอดขายจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้วแน่นอน แต่จากภาวะน้ำมันดีเซลขยับตัวสูงแซงเบนซิน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันมาซื้อรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือรถเครื่องเบนซินเพื่อนำไปติดตั้งระบบแก๊สแอลพีจี หรือ ซีเอ็นจี ส่วนปิกอัพเครื่องยนต์ใหญ่ มีความต้องการขายมากขึ้น ส่งผลให้ราคารับซื้อลดลงประมาณ 5-10%

กำลังโหลดความคิดเห็น