xs
xsm
sm
md
lg

โตโยต้าจับมือปตท.ลุยดีเซลพันธุ์ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - โตโยต้า เดินหน้าลุยไบโอดีเซล ร่วมกับ ปตท.วิจัย Bio-Hydrogenated Diesel คุณสมบัติเยี่ยมกว่าดีเซลทั่วไปคาด 2 ปีเห็นผล ด้านบิ๊กโตโยต้าเผยเตรียมคลอด "อัลติส ซีเอ็นจี" ปลายปีนี้ ส่วนการผลักดันน้ำมันแก็สโซฮอล์ อี85 ของรัฐบาล ควรทำอย่างรอบคอบ เพราะรีบเกินไปอาจเกิดปัญหา ลั่นโตโยต้าอีก 2-3 ปีค่อยว่ากัน

วันนี้(30 พ.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TMAP-EM)และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ลงบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาน้ำมัน Bio-Hydrogenated Diesel (BHD)กับสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ คุณสมบัติเทียบเท่าน้ำมันดีเซล

โดยการศึกษาวิจัยจะนำน้ำมันพืชมาผ่านกระบวนการ Hydrogenation (ใช้ไฮโดรเจน) เพื่อให้ได้น้ำมัน Bio-Hydrogenated Diesel ที่มีโครงสร้างเช่นเดียวกับน้ำมันดีเซล แต่คุณภาพสูง ด้วยค่าซีเทนกว่า 80 (ดีเซลปกติ50) ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย เผาไหม้สมบูรณ์ ปราศจากกำมะถัน ส่งผลให้ไอเสียมลพิษน้อยกว่าเชื้อเพลิงเดิม ขณะเดียวกันยังสามารถผสมในน้ำมันดีเซลได้มากกว่า 10%(B10) ทั้งนี้น้ำมันBHD เป็นเทคโนโลยีใหม่ และประเทศอย่างบราซิล ฟินแลนด์เพิ่งเริ่มการศึกษาเช่นกัน

เรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า BHD ถือเป็นความหวังใหม่ของน้ำมันดีเซล เพราะสามารถผลิตได้จากวัตถุดิบหลายประเภท อาทิ น้ำมันพืชใช้แล้ว รวมทั้งวัตถุดิบที่ไม่ใช่พืชอาหาร ซึ่งจะลดความเสี่ยงด้านการขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตร โดยความร่วมมือครั้งนี้จะส่งผลถึงความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงของประเทศไทยในอนาคต

“TMAP-EM ซึ่งรับผิดชอบในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ เล็งเห็นถึงการสนับสนุนโครงการใช้ชีวมวลเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงในประเทศไทย ทั้งนี้เราได้ให้การสนับสนุนรถยนต์ เครื่องยนต์ รวมถึงเทคนิคเพื่อการประเมินผล เช่นเดียวกับการทดสอบเพื่อประเมินผลกระทบจากการใช้น้ำมันดังกล่าว ซึ่งขั้นต้นตีกรอบการศึกษาไว้ 2 ปี เพื่อพัฒนา BHD ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อนจะนำมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต่อไป”

อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยได้สนับสนุนนโยบายพลังงานทดแทนที่หลากหลาย ทั้งไบโอดีเซล แก็สโซฮอล์ ซีเอ็นจี ซึ่งโตโยต้าคิดถึงแนวโน้มการพัฒนารถยนต์เพื่อรองรับกับเชื้อเพลิงต่างๆอย่างเหมาะสม ล่าสุดเตรียมการแนะนำรถยนต์นั่งของโตโยต้า ที่ใช้ก็าซ ซีเอ็นจี ซึ่งเป็นการผลิตจากโรงงานโดยตรง เข้าสู่ตลาดเมืองไทยภายในสิ้นปีนี้

“ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาสนใจรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก็าซซีเอ็นจี มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในภาพรวมถือว่าเป็นรถที่คุ้มค่า โดยโตโยต้าได้พัฒนารถยนต์นั่งขนาดคอมแพกต์(โคโรลล่า อัลติส) เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคน้ำมันแพง และเตรียมเปิดตัวประมาณ ไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 ปีนี้”

นายซาซากิ ยังกล่าวถึงการเร่งผลักดันการใช้น้ำมันแก็สโซฮอล์ อี85 ของรัฐบาลว่า ในหลักการโตโยต้าให้สนับสนุนแก็สโซฮอล์ อี85 แต่รัฐบาลไม่ควรเร่งรีบจนเกินไป ที่สำคัญควรคำนึงถึงปริมาณการผลิตเอทานอลว่าเพียงพอ หรือมีความสมดุลกับความต้องการตลาดหรือไม่ ขณะเดียวกันต้องให้ระยะเวลาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ปรับตัว และนโยบายควรมีความยืดหยุ่น เพราะแก็สโซฮอล์ อี20 เพิ่งเริ่มใช้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้านโตโยต้าเองแม้จะมีเทคโนโลยีอยู่แล้ว อย่างรถเก๋งโคโรลล่า ในตลาดบราซิลก็รองรับแก็สโซฮอล์ อี85 ได้เช่นกัน แต่ในประเทศไทยถ้าจะให้ทำภายในปีนี้หรือปีหน้าโตโยต้าคงยังไม่พร้อม และคาดว่าต้องใช้เวลาพัฒนาอีก 2-3 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น