ข่าวต่างประเทศ - เคิร์ก เคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีวัย 80 ปีเศษยังไม่ถอดใจในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของตัวเองในฟอร์ด มอเตอร์ส ประกาศอัดเงินเข้าสู่ระบบการเงินอีก 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,300 ล้านบาทเพื่อหวังซื้อหุ้นของฟอร์ดให้ครบตามจำนวนที่คาดหวังเอาไว้
เคอร์โคเรียน ประกาศผ่านทาง บริษัท ทราซินด้า คอร์ปอเรชัน ของตัวเองว่า จากการเพิ่มเงินในระบบครั้งนี้ ทำให้ทางบริษัทมียอดการกู้เงินจากแบงค์ ออฟ อเมริกาเพิ่มขึ้นมาเป็น 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 19,800 ล้านบาท ซึ่งมากกกว่าข้อตกลงที่ทำเอาไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,300 ล้านบาท โดยตามข้อตกลงครั้งนั้น ทางทราซินด้าสามารถกู้ได้วงเงินสูงสุด 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 16,500 ล้านบาท
เคอร์โคเรียนต้องการหุ้นจำนวน 20 ล้านหุ้นของฟอร์ด มอเตอร์เพื่อขยับสัดส่วนการถือหุ้นของตัวเองจาก 4.7% ในปัจจุบันเป็น 5% ซึ่งทางเคอร์โคเรียนซื้อหุ้นของฟอร์ดในราคาที่สูงถึง 8.50 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 280 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ราคาหุ้นทั่วไปของฟอร์ดอยู่ในระดับ 6.87 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 226 บาทต่อหุ้น ซึ่งในการดำเนินงานครั้งนี้ คาดว่าเคอร์โคเรียนจะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะการซื้อหุ้นเพียงอย่างเดียวไม่ค่ำกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 5,610 ล้านบาท
เคอร์โคเรียนได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษซีจอมป่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์คนหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นเคยฟ้องทางเดมเลอร์ไครสเลอร์เกี่ยวกับเรื่องการรวมกิจการที่ปราศจากความเท่าเทียมกัน ซึ่งต่างจากที่เดมเลอร์ไครสเลอร์เคยประกาศออกมาก่อนการรวมกิจการ จากนั้นก็มาถึงเรื่องของการทุ่มซื้อหุ้นครั้งใหญ่ของจีเอ็มเพื่อกดดันให้ริค แวโกเนอร์ ประธานคนปัจจุบันของจีเอ็มลาออก ก่อนที่แผนการครั้งนี้จะประสบความล้มเหลว เช่นเดียวกับกับล็อบบี้ให้คาร์ลอส กอนส์ ซีอีโอของเรโนลต์-นิสสันให้รวมกิจการกับจีเอ็มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
เคอร์โคเรียน ประกาศผ่านทาง บริษัท ทราซินด้า คอร์ปอเรชัน ของตัวเองว่า จากการเพิ่มเงินในระบบครั้งนี้ ทำให้ทางบริษัทมียอดการกู้เงินจากแบงค์ ออฟ อเมริกาเพิ่มขึ้นมาเป็น 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 19,800 ล้านบาท ซึ่งมากกกว่าข้อตกลงที่ทำเอาไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,300 ล้านบาท โดยตามข้อตกลงครั้งนั้น ทางทราซินด้าสามารถกู้ได้วงเงินสูงสุด 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 16,500 ล้านบาท
เคอร์โคเรียนต้องการหุ้นจำนวน 20 ล้านหุ้นของฟอร์ด มอเตอร์เพื่อขยับสัดส่วนการถือหุ้นของตัวเองจาก 4.7% ในปัจจุบันเป็น 5% ซึ่งทางเคอร์โคเรียนซื้อหุ้นของฟอร์ดในราคาที่สูงถึง 8.50 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 280 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ราคาหุ้นทั่วไปของฟอร์ดอยู่ในระดับ 6.87 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 226 บาทต่อหุ้น ซึ่งในการดำเนินงานครั้งนี้ คาดว่าเคอร์โคเรียนจะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะการซื้อหุ้นเพียงอย่างเดียวไม่ค่ำกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 5,610 ล้านบาท
เคอร์โคเรียนได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษซีจอมป่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์คนหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นเคยฟ้องทางเดมเลอร์ไครสเลอร์เกี่ยวกับเรื่องการรวมกิจการที่ปราศจากความเท่าเทียมกัน ซึ่งต่างจากที่เดมเลอร์ไครสเลอร์เคยประกาศออกมาก่อนการรวมกิจการ จากนั้นก็มาถึงเรื่องของการทุ่มซื้อหุ้นครั้งใหญ่ของจีเอ็มเพื่อกดดันให้ริค แวโกเนอร์ ประธานคนปัจจุบันของจีเอ็มลาออก ก่อนที่แผนการครั้งนี้จะประสบความล้มเหลว เช่นเดียวกับกับล็อบบี้ให้คาร์ลอส กอนส์ ซีอีโอของเรโนลต์-นิสสันให้รวมกิจการกับจีเอ็มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว