ตกเป็นข่าวอยู่นาน ในที่สุด คิว5 เอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ที่ออดี้ตั้งใจจะส่งมาเสริมตลาดในระดับรองจากคิว7 และเพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงของเอ็กซ์3 จากบีเอ็มดับเบิลยู และจีแอลเคของเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็เผยโฉมออกมาแล้ว โดยยึดเวทีของงานออโต้ ไชน่า หรือปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 22-28 เมษายนนี้ในการเปิดตัว
อาจดูเป็นเป็นเรื่องแปลกที่ออดี้เปิดตัวคิว5 ในงานมอเตอร์โชว์ที่จีน เพราะถือว่าชื่อชั้นยังเป็นงานระดับเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับความสำคัญของตัวรถซึ่งมีความเป็นสากลที่เตรียมขายทั่วโลก แต่อย่าลืมว่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ออดี้มักมีอะไรใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์มาเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่จีนเป็นประจำ อย่างในปีที่แล้วก็เผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่าครอสส์ คูเป้ ควอตโตร (ซึ่งเป็นต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นคิว5 ในเวลาต่อมา) ในงานโชว์ที่เซี่ยงไฮ้ นั่นเท่ากับว่าออดี้ให้ความสำคัญกับที่นี่
ก็จริงตามคาด เพราะว่าไลน์ผลิตของคิว5 นอกจากจะอยู่ในอินโกสตัดท์ เยอรมนีแล้ว ข่าวระบุว่าจะยังอยู่ที่โรงงานในเมืองฉางอัน ทางตอนเหนือของจีนด้วย แถมในปีนี้ตลาดกลุ่มคอมแพกต์เอสยูวีระดับหรูยังร้อนระอุอีกระดับ เพราะนอกจากออดี้แล้ว ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเข้าร่วมวงอีกด้วย กับการนำรุ่นจำหน่ายจริงของจีแอลเคมาเปิดตัว ประชันโฉมเคียงข้าง หลังจากเปิดตัวต้นแบบออกมาถึง 2 เวอร์ชันในงานดีทรอยต์ และเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นปี 2008
สำหรับคิว5 ถือเป็นเอสยูวีที่มีความสำคัญไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นการเสริมทัพในตลาดกลุ่มนี้แล้ว ยังมีข่าวว่า ตัวรถอาจจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อถูกใช้เป็นพื้นฐานให้กับเอสยูวีรุ่นเล็กของพอร์ชในอนาคตอีกด้วยโดยจะใช้ชื่อตามข่าวว่าร็อกสเตอร์ (Roxster) ซึ่งข่าวลือตรงนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว
แถมยิ่งพอร์ชเพิ่มสัดส่วนในการถือหุ้นของโฟล์คสวาเกน เอจี บริษัทแม่ของออดี้ แถมยังมีที่นั่งในบอร์ดบริหารระดับสูงอีก 3 ตำแหน่ง ก็เลยทำให้ความสัมพันธ์ของรถยนต์ทั้ง 3 แบรนด์มีความแน่นแฟ้นกันมากขึ้น และจะต้องมีอะไรมากกว่าแค่คิว7, ทัวเร็ก และคาเยนน์อย่างแน่นอน
ตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังที่เรียกว่า MLP หรือ Modular Longitudinal Platform ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับเอ4 และเอ5 โดยเครื่องยนต์จะวางตามยาวเหมือนกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่จริงๆ แล้วการขับเคลื่อนจะเป็นแบบล้อหน้า หรือไม่ก็ 4 ล้อตลอดเวลาแบบควอตโตร ส่วนตัวถังเป็นแบบ 5 ประตูมีความยาว 4,629 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,810 มิลลิเมตร พร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd 0.33
ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดมีให้เลือกหลากหลายไม่ต่างจากที่พบเห็นได้ในเอ5 หรือเอ4 รุ่นเบนซินเริ่มต้นกับบล็อก 4 สูบตัวแรงแบบไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบ หรือ TFSI 2,000 ซีซีที่รีดกำลังออกมาได้ถึง 211 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ตั้งแต่รอบต่ำ 1,500-4,200 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.2 วินาที และความเร็วปลาย 222 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนอีก 2 รุ่นเป็นเทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. และวี6 3,000 ซีซี 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.5 และ 6.5 วินาทีตามลำดับ ส่วนความเร็วสูงสุด 204 และ 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในรุ่นดีเซล 2,000 ซีซีจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนรุ่นที่เหลือมากับเกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์ไฟฟ้าทวินคลัตช์ รุ่น S Tronic แบบ 7 จังหวะเพื่อความเร้าใจในการขับ โดยระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อตลอดเวลา ที่มีการกระจายแรงบิดสู่เพลาหน้าและหลังในอัตราส่วน 40:60% และสามารถแปรผันอัตราส่วนการกระจายแรงบิดสู่เพลาล้อหลังได้สูงสุดถึง 85% และสูงสุด 65% สำหรับล้อหน้า
ในตลาดสหรัฐอเมริกาที่จะเริ่มขายในช่วงปลายปี 2009 จะมีเครื่องยนต์เบนซินวี6 3,200 ซีซี FSI จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งรีดกำลังออกมาได้ 265 แรงม้าเป็นอีกทางเลือกในการทำตลาด ราคายังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในระดับ 30,000-50,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 990,000-1,650,000 บาท โดยในยุโรปจะเป็นตลาดแห่งแรกที่ได้สัมผัสกับคิว5 เพราะจะเริ่มขายในกลางปีนี้ ตามด้วยจีนและสหรัฐอเมริกาในปีหน้า
