xs
xsm
sm
md
lg

ดาวดวงใหม่ "มิสมอเตอร์โชว์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อใกล้“บางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์”เข้ามา นอกจากค่ายรถจะหน้าดำคร่ำเครียด วางแผนการตลาดและเตรียมรถรุ่นใหม่ๆนำมาโชว์ภายในงานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าภาพอย่างบริษัทกรังซ์ปรีด์ต้องจัดกิจกรรมควบคู่กับโชว์รถคือ การควานหาสาวงาม มาเป็นทีมประชาสัมพันธ์พิเศษ หรือที่เรียกกันว่า "มิสมอเตอร์โชว์"

ที่ผ่านมานั้นสาวสวยหลายคนที่ได้รับตำแหน่งต่างมีโอกาสได้เดินเข้าไปในเส้นทางบันเทิง ไต่เต้าจนเป็นถึงนางเอกระดับแถวหน้าของเมืองไทยเลยก็มี จึงทำให้เวทีนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นทุกปีจากสาวๆทั่วประเทศพร้อมทั้งบรรดาแมวมอง และถือว่าเป็นบันได้ก้าวแรกในการสร้างชื่อเสียงและเงินทอง

สำหรับปี 2551 นี้ คณะกรรมการจัดงานประกวดมิสมอเตอร์โชว์ ได้ทำการคัดเลือกหญิงสาวที่ครองตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์ และรองอีก 4 คน เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง“ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง” ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวพวกเธอมาทำความรู้จัก เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนถึงวันงานจริงๆ ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ณ ไบเทค บางนา

เริ่มกันที่เจ้าของตำแหน่ง “มิสมอเตอร์โชว์ 2008”……พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ หรือ "น้องแก้มบุ๋ม"สาวน้อยที่ชนะใจกรรมการไปเพราะความฉะฉานในการตอบคำถามและรอยยิ้มหวานๆของเธอ แก้มบุ๋มเพิ่งอายุ 19 ปี และกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพชั้นปีที่ 2 เธอบอกว่าเวทีนี้ไม่ใช่เวทีแรกเพราะก่อนหน้านี้แก้มบุ๋มเคยผ่านการประกวดสาวเปรียวมาแล้ว ส่วนงานนี้คุณแม่เชียร์ให้มาสมัครจึงลองมาประกวดดูและก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

“ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่แก้มคิดว่าพลิกล็อกมากๆ แก้มไม่คิดเลยว่าจะได้เพราะเพื่อนคนอื่นล้วนสวยๆ กันทุกคน และยังมีความสามารถ รวมทั้งไหวพริบ แต่ก็ดีใจมากค่ะสำหรับตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติมากๆ เพราะการคัดเลือกคนที่จะมาทำงานระดับชาติขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะสามารถมาเป็นได้ นอกจากนี้การมาทำหน้าที่นี้ เหมือนกับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับงานมอเตอร์โชว์ และอยากให้คนไทยมาชมงานกัน เพราะมีทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และรถคลาสสิกหายาก รวมถึงมอเตอร์ไซค์”

ส่วนประสบการณ์ที่ได้จากการประกวดนั้น แก้มบุ๋มบอกว่า คือความรับผิดชอบและความสามัคคี เพราะตลอดเวลาที่เก็บตัวต้องอยู่กับเพื่อนๆตลอดเวลาทำให้รู้ถึงการวางตัวในสังคมรวมถึงการทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ที่สำคัญคือเป็นการฝึกให้ตัวเองมีความรับผิดชอบเนื่องจากการเป็นมิสมอเตอร์โชว์นั้นต้องมีทั้งความสวยและความสามารถควบคู่กันไป

อนาคตแก้มบุ๋มบอกว่าหลังจากที่หมดหน้าที่ตรงนี้แล้ว จะไปประกอบอาชีพที่ใฝ่ฝันก็คือ "นางแบบ" แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่จากวันนี้จนกว่าจะครบ 1 ปี ให้ดีที่สุดก่อน

สำหรับใครที่อยากไปเจอน้องๆเหล่านี้ก็ตามไปได้ที่งานมอเตอร์โชว์กันได้เลย.....................

 
รองอันดับ 1 อรนิจ คงวัฒนานนท์ "น้องเมย์" อายุ 20 ปี กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 4 คณะดุริยางค์ศิลป์

"เมย์คิดว่าการประกวดนี้ทำให้เรารู้จักเรื่องรถยนต์มากขึ้นจากที่ไม่เคยรู้มาก่อน และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่มีความสามารถได้มาเป็นหนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์ของงานมอเตอร์โชว์ค่ะ ที่อยากจะฝากให้ทุกคนคือเรื่องของภาวะโลกร้อนซึ่งตรงกับคอนเซ็ปท์งานนวัตกรรมยานยนต์คนและธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่ควบคู่กันไปฉะนั้นเราต้องให้ความสำคัญในการใส่ใจปัญหานี้ เริ่มจากตัวของคุณเองค่ะ"

หลังจากเรียนจบเมย์บอกว่าจะไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องของดนตรี เพราะเมย์เป็นคนอารมณ์ดีเนื่องจากการเขียนเพลงและเล่นดนตรีทำให้เธอใจเย็นและมีสมาธิ

 
รองอันดับที่ 2 ชาลิสา อัศวฐิติรัตน์ "น้องชาหลิง" อายุ 17 ปี กำลังศึกษาที่โรงเรียนทิวไผ่งาม ชั้น ม.5

ชาหลิงสาวน้อยอายุเพียง 17 ปีเธอมีความใฝ่ฝันที่จะเข้าวงการบันเทิงจึงมาลงสมัครประกวดเวทีนี้ด้วยตัวเอง พร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อย ชาหลิงบอกว่าการเป็นนักแสดงจะช่วยให้คนดูมีความสุขกับบทบาทที่เธอได้รับ แต่ ณ วันนี้ชาหลิงบอกว่าจะทำหน้าที่หนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์ให้เต็มที่ก่อน

"ถึงแม้ชาหลิงยังอายุน้อยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคค่ะเพราะคิดว่าถ้าเรามีความพยายามก็ทำได้แน่นอน เพียงแต่การเข้าวงการนั้นคงต้องรอเวลาอีกสักหน่อยให้เรียนมหาวิทยาลัยก่อนและมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ นอกจากงานบันเทิงแล้วชาหลิงอยากเป็นครูรู้สึกว่าอยากปลูกฝังให้เด็กๆมีจิตใจที่ดีพร้อมๆกับความรู้"

นอกจากนี้ ชาหลิงยังให้ความเห็นถึงรถยนต์ทุกวันนี้ว่า มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัยอยู่เสมอ จนคิดว่าในอนาคตจะพัฒนาเป็นรถที่ไม่มีล้อ และสามารถลอยได้ ส่วนกรณีราคาน้ำมัน ชาหลิงบอกว่าอาจจะกระทบการใช้ชีวิตของคนไทยมาก แต่ก็อยากให้หันมาช่วยกันประหยัดน้ำมันดีกว่า อย่างการใช้บริการของรถไฟฟ้า หรือรถประจำทาง

 
รองอันดับที่ 3 จุฑามาศ ธานีมาศ "น้องน้ำหวาน" จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะบริหารธุรกิจ

หลังจากเรียนจบแล้วน้ำหวานจึงอยากหาประสบการณ์เพิ่มเติม และคิดว่าความสามารถพิเศษของเธอ อาทิ เล่นดนตรีไทย และรำไทยจะช่วยเปิดโอกาสให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นมาในสักวัน

"ทุกวันนี้คนไทยจะหันไปนิยมดนตรีสากลมากกว่าทำให้ดนตรีไทยและวัฒนธรรมดีๆแบบเดิมค่อยๆหายไป ลูกน้ำจึงอยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ค่ะ เช่นเดียวกับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ที่เน้นไปเรื่องของการพึ่งพากันระหว่างมนุษย์และพลังงานธรรมชาติ และที่สำคัญน้ำหวานอยากให้ผู้เข้ามาชมงานมอเตอร์โชว์สัมผัสถึงยนตรกรรมที่ล้ำยุคพร้อมๆกับการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยมีเราเป็นสื่อกลางค่ะ"

 
รองอันดับที่ 4 ธัญญลักษณ์ คุณาพรวัฒน์ "น้องมายด์" อายุ 16 ปี กำลังศึกษาที่โรงเรียนอัมพรไพศาล

"จริงๆที่ตัดสินใจเข้าประกวดมิสมอเตอร์โชว์เพราะตามใจคุณแม่ แต่ส่วนตัวมีความชอบในรถยนต์อยู่แล้ว โดยเฉพาะรถคลาสสิก รถโบราณ ยิ่ง โฟล์ค บีทเทิ้ล นั้นมายด์ชอบมาก จึงคิดว่าน่าจะเข้ากับเวทีนี้ได้ ส่วนรูปแบบการจัดงานและกิจกรรมต่างๆถือว่าดี เพราะช่วยเสริมประสบการณ์ ได้รู้จักผู้คนมากมาย เปิดวิสัยทัศน์ไปในตัวด้วยค่ะ"

อีกด้านหนึ่งของการประกวด “มิสมอเตอร์โชว์”น่าจะเป็นเวทีของคนที่ฝันอยากเข้าสู่วงการบันเทิง แต่สำหรับตนเองมีจุดมุ่งหมายในชีวิตคือการเปิดธุรกิจรถคลาสสิก รถโบราณ เพราะคิดว่ารถประเภทนี้มีคุณค่ามาก ซึ่งมีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ และต้องมีใจรักจริงๆ โดยอาจเปิดเป็นโชว์รูม นำรถมาอวดแสดง ไปจนถึงซื้อขายแลกเปลี่ยนในอนาคต

 
ขวัญใจสื่อมวลชน ศศิมา ประกอบทรัพย์ "น้องลูกน้ำ" อายุ 17 ปี กำลังศึกษาที่โรงเรียนดรุณานุกุล

ก่อนเวทีมิสมอเตอร์โชว์ลูกน้ำเคยประกวดงานระดับท้องถิ่นอย่างนางนพมาศ ที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงตำแหน่ง ธิดาองุ่นหวาน จังหวัดราชบุรีเมื่อ 3 ปีก่อน และครั้งนี้จึงถือเป็นเวทีใหญ่ครั้งแรก ซึ่งหลังจากได้ตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพลูกน้ำบอกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก

“ชีวิตคงเปลี่ยนไปแน่ๆ ค่ะ เพราะการได้เข้ามาประกวดในครั้งนี้มอบโอกาสให้ลูกน้ำได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเป็นงานแรกในชีวิตและทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ การประกวด มิสมอเตอร์โชว์เป็นกิจกรรมที่ดีแตกต่างจากเวทีอื่นๆ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับพริตตี้ที่เห็นๆกัน อย่างเช่นการแต่งตัว ขณะเดียวกันในระหว่างการประกวดหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ยังได้มิตรภาพจากเพื่อนฝูงมากมาย รวมถึงความสามัคคีกลับไปอีกด้วย ส่วนของลูกน้ำเองใฝ่ฝันอยากเป็นนางแบบอาชีพในอนาคตค่ะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น