ข่าวในประเทศ – ซูซูกิทุ่มทุนอีก 700 ล้านบาทเตรียมขยายโรงงานพร้อมพัฒนาสนามทดสอบ รองรับยอดขายเติบโต ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ครองแชร์มากกว่า 20% ชี้ตลาดรวมปีนี้ทรงตัว เหตุเศรษฐกิจอึมครึม เตรียม 500 ล้านบาท ทำตลาดดันยอดสู่เป้าหมายแรก 1 แสนคัน พร้อมกลับลำลุยทำตลาดรถบิ๊กไบค์แน่ หลังกำแพงภาษีถูกทลายลงเหลือ 0% จากข้อตกลง JTEPA เชื่อกำลังซื้อมีรออยู่แล้ว
นายเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ เตรียมทุ่มเงินอีกประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตและขยายสนามทดสอบรถจักรยานยนต์รองรับการทดสอบรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ซึ่งหากการขยายโรงงานเสร็จสมบูรณ์ กำลังการผลิตจะเพิ่มจาก 3.5 แสนคันต่อปี กลายเป็นมากกว่า 4 แสนคันต่อปี ทั้งนี้รองรับการส่งออกและยอดจำหน่ายในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น สำหรับเป้าของการส่งออกปี 2551 ของซูซูกิตั้งไว้ประมาณ 2 แสนคันต่อปี ส่วนในประเทศคาดว่าจะอยู่ประมาณ 1 แสนคัน
“ซูซูกิ ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่นเมื่อปี 2549 เราก็ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านบาท สำหรับการขยายโรงงานไปแล้วครั้งหนึ่ง ในปี 2551 เราเตรียมลงทุนเพิ่มอีก แสดงให้เห็นถึงศักภาพและความตั้งใจจริงในการทำตลาด รวมถึงการปรับเปลี่ยนแบรนด์สโลแกนใหม่เป็น Suzuki “Way of Life” ซึ่งใช้เหมือนกันทั่วโลก”
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า แผนหลักของปี 2551 ซูซูกิ เตรียมรุกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือ บิ๊กไบค์อย่างจริงจัง หลังจากข้อตกลง JTEPA มีผลเมื่อปีที่แล้ว ทำให้กำแพงภาษีนำเข้าสำหรับรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ลดลงเหลือ 0% ซึ่งทำให้ราคารถของบิ๊กไบค์ถูกลงจนอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้บริโภคพอจะมีกำลังซื้อได้
“กำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีอยู่แล้ว เราเพียงแค่เตรียมงานด้านอะไหล่และการบริการให้พร้อม ซึ่งการนำบิ๊กไบค์เข้ามาทำตลาดของค่ายผู้ผลิตหลายๆ ค่ายจะส่งผลทิศทางของตลาดรถจักรยานยนต์ในอนาคต จะมีการแยกตลาดระหว่างกลุ่มผู้ใช้อย่างชัดเจน”
สำหรับยอดขายของตลาดรถจักรยานยนต์รวมในประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปี 2550 ที่ 1.59 ล้านคัน เนื่องจากแม้จะมีรัฐบาลใหม่แล้วแต่ทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอึมครึม และต้องใช้เวลาในการทำงานอีกสักระยะหนึ่ง
ขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2550 ซูซูกิ ขายได้ประมาณ 8 หมื่นคัน ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1 แสนคัน พร้อมเติบโตขึ้นทุกปี และภายใน 3 ปี ซูซูกิจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 20% โดยเตรียมงบส่งเสริมการตลาดของปี 2551 ไว้ถึง 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการทำตลาดแบบอะโบฟ เดอะไลน์ 300 กว่าล้านบาท และอีกเกือบ 200 ล้านบาทสนับสนุนบีโลว์ เดอะไลน์
นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องโชว์รูม เตรียมปรับภาพลักษณ์ของโชว์รูมซูซูกิใหม่ ภายใต้แนวคิด “Suzuki World” ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแบรนด์สโลแกน โดยจะเริ่มปรับปรุงโชว์รูมที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ก่อน เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น เป็นต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถปรับปรุงได้ถึง 10 แห่ง จากที่มีอยู่ 200 แห่งทั่วประเทศ
ล่าสุด เพื่อกระตุ้นตลาด ซูซูกิ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ ซูซูกิ โชกัน 125 , ซูซูกิ แสมช เรฟโว แอด และ ซูซูกิ ไฮ-คลาส 125& สเตป 125 รวมถึงการเตรียมนำรถบิ๊กไบค์อย่าง บี-คิง และฮายาบูซะ มาจัดแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่กำลังจะมีขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
นายเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ เตรียมทุ่มเงินอีกประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตและขยายสนามทดสอบรถจักรยานยนต์รองรับการทดสอบรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ซึ่งหากการขยายโรงงานเสร็จสมบูรณ์ กำลังการผลิตจะเพิ่มจาก 3.5 แสนคันต่อปี กลายเป็นมากกว่า 4 แสนคันต่อปี ทั้งนี้รองรับการส่งออกและยอดจำหน่ายในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น สำหรับเป้าของการส่งออกปี 2551 ของซูซูกิตั้งไว้ประมาณ 2 แสนคันต่อปี ส่วนในประเทศคาดว่าจะอยู่ประมาณ 1 แสนคัน
“ซูซูกิ ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่นเมื่อปี 2549 เราก็ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านบาท สำหรับการขยายโรงงานไปแล้วครั้งหนึ่ง ในปี 2551 เราเตรียมลงทุนเพิ่มอีก แสดงให้เห็นถึงศักภาพและความตั้งใจจริงในการทำตลาด รวมถึงการปรับเปลี่ยนแบรนด์สโลแกนใหม่เป็น Suzuki “Way of Life” ซึ่งใช้เหมือนกันทั่วโลก”
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า แผนหลักของปี 2551 ซูซูกิ เตรียมรุกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือ บิ๊กไบค์อย่างจริงจัง หลังจากข้อตกลง JTEPA มีผลเมื่อปีที่แล้ว ทำให้กำแพงภาษีนำเข้าสำหรับรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ลดลงเหลือ 0% ซึ่งทำให้ราคารถของบิ๊กไบค์ถูกลงจนอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้บริโภคพอจะมีกำลังซื้อได้
“กำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีอยู่แล้ว เราเพียงแค่เตรียมงานด้านอะไหล่และการบริการให้พร้อม ซึ่งการนำบิ๊กไบค์เข้ามาทำตลาดของค่ายผู้ผลิตหลายๆ ค่ายจะส่งผลทิศทางของตลาดรถจักรยานยนต์ในอนาคต จะมีการแยกตลาดระหว่างกลุ่มผู้ใช้อย่างชัดเจน”
สำหรับยอดขายของตลาดรถจักรยานยนต์รวมในประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปี 2550 ที่ 1.59 ล้านคัน เนื่องจากแม้จะมีรัฐบาลใหม่แล้วแต่ทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอึมครึม และต้องใช้เวลาในการทำงานอีกสักระยะหนึ่ง
ขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2550 ซูซูกิ ขายได้ประมาณ 8 หมื่นคัน ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1 แสนคัน พร้อมเติบโตขึ้นทุกปี และภายใน 3 ปี ซูซูกิจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 20% โดยเตรียมงบส่งเสริมการตลาดของปี 2551 ไว้ถึง 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการทำตลาดแบบอะโบฟ เดอะไลน์ 300 กว่าล้านบาท และอีกเกือบ 200 ล้านบาทสนับสนุนบีโลว์ เดอะไลน์
นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องโชว์รูม เตรียมปรับภาพลักษณ์ของโชว์รูมซูซูกิใหม่ ภายใต้แนวคิด “Suzuki World” ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแบรนด์สโลแกน โดยจะเริ่มปรับปรุงโชว์รูมที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ก่อน เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น เป็นต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถปรับปรุงได้ถึง 10 แห่ง จากที่มีอยู่ 200 แห่งทั่วประเทศ
ล่าสุด เพื่อกระตุ้นตลาด ซูซูกิ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ ซูซูกิ โชกัน 125 , ซูซูกิ แสมช เรฟโว แอด และ ซูซูกิ ไฮ-คลาส 125& สเตป 125 รวมถึงการเตรียมนำรถบิ๊กไบค์อย่าง บี-คิง และฮายาบูซะ มาจัดแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่กำลังจะมีขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้